ตอนที่ 349 ตนเองยังเอาตัวไม่รอด
เพิ่งมาถึงที่นี่ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็มองออกแล้วว่าที่นี่คือคลับชั้นสูงแห่งหนึ่ง การเก็บรักษาความลับดีมาก แผนการหลอกล่อต่างๆที่อยู่ด้านในก็มากมาย เธอกับโจ๋วฝันหากันอลหม่านอยู่ที่นี่ราวกับแมลงวันไร้หัวก็ไม่ปาน เสียเวลาเสียแรงยังถูกคนสังเกตเห็นได้ สู้หาคนยัดเงินให้แล้วถามสักหน่อยยังจะดีกว่า
ทั้งสามคนมาถึงยังห้องรับรองพิเศษห้องหนึ่ง หลังจากปิดประตูลงแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็มองดูผู้หญิงคนนั้น แล้วเอ่ยปากขึ้นภายในทันทีว่า “พวกเราไม่ต้องการให้คุณทำอะไร คุณเพียงแค่ต้องช่วยพวกเราสืบหาคนๆหนึ่ง พวกเราจะจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคุณสามเท่า”
สายตาของผู้หญิงคนนั้นเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย มองดูโจ๋วฝันกับไป๋เสว่เอ๋อร์ไปมาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ทนการล่อใจด้วยเงินทองไม่ไหว “สืบหาใครคะ?”
เสียงของไป๋เสว่เอ๋อร์ทุ้มต่ำลง “เฝิงเช่น เธออยู่ห้องรับรองพิเศษห้องไหน?”
ได้ยินชื่อๆนี้ ผู้หญิงคนนั้นลังเลอยู่ชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด สังเกตเห็นการตอบสนองของเธออย่างเฉียบไว ไป๋เสว่เอ๋อร์แทบจะมั่นใจได้ในทันทีว่าเธอรู้ว่าเฝิงเช่นอยู่ที่ไหน
หญิงสาวตัดสินใจไม่ถูก “พวกคุณเป็นใคร คิดจะทำอะไรกันแน่?”
ไป๋เสว่เอ๋อรพยักพเยิดหน้าไปทางโจ๋วฝัน “เขาจีบเฝิงเช่นมานานแล้ว คราวนี้อยากหาโอกาสสารภาพกับเธอ แต่ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็เลยถือโอกาสลองถามดูสักหน่อย หากเธอไม่อยากพูดก็ช่างเถอะ พวกเราไปถามคนอื่น”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดโกหกด้วยสีหน้าท่าทางที่เป็นปกติ ในขณะที่พูดก็ดึงโจ๋วฝันให้ลุกขึ้นแล้วเตรียมเดินออกไปทางด้านนอก
“อย่าค่ะ ฉันพาพวกคุณไป!”
ในขณะที่หญิงสาวพูด ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดคิวอาร์โค้ดรับเงินออกมา “รับเงินก่อนค่ะ สามพัน”
หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็พาพวกเขาออกมาจากห้องรับรองพิเศษ ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นห้า ส่งออกมาที่หน้าประตูลิฟต์ จากนั้นเธอก็พยักพเยิดหน้าขึ้น “508 พวกคุณเข้าไปกันเองเถอะ”
พูดจบ เธอก็หันหน้าเดินจากไป
ถามหมายเลขห้องอย่างชัดเจนแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์กับโจ๋วฝันก็สบตากันครู่หนึ่ง ต่างฝ่ายต่างมีแผนการอยู่แล้วในใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากสั่งการด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เฝิงเช่นรู้จักฉัน เธอเข้าไปก่อน หาข้ออ้างพาเธอออกมา จากนั้นพวกเราค่อยพาเธอไป”
โจ๋วฝันเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย “แต่…นี่คือการลักพาตัว…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยปากอธิบายออกมาเบาๆว่า “ไม่ถือว่าเป็นการลักพาตัว…เพียงแค่พาเธอออกไปจากห้องรับรองพิเศษข่มขู่ถานปินให้ตกใจนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง”
เพียงแค่สามารถทำให้ถานปินเบี่ยงเบนความสนใจออกมาได้ เช่นนั้นก็ถือเป็นการช่วยเหลือเผยลี่เชินแล้ว เรื่องมาถึงตอนนี้ เธอก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่า
ทั้งสองคนสบตากันครู่หนึ่ง กำลังก้าวขาเดินไปทางห้อง508 อยู่ๆประตูห้องนั้นก็ถูกคนเปิดออก ผู้ชายสองคนขวาหนึ่งซ้ายหนึ่ง ประคองผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องรับรองพิเศษ
“อย่าขยับตัวฉัน…” ผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางเสื้อผ้ายุ่งเหยิง กระดุมตรงปกคอเสื้อต่างถูกปลดออก เห็นได้ชัดว่าดื่มไปไม่น้อย แม้แต่ฝีก้าวก็ยังไม่มั่นคง “ฉันไม่อยากไป”
ผู้ชายคนหนึ่งยิ้มขึ้นอย่างคนถ่อย “กลัวอะไร พวกเราก็แค่มาเล่นกันเท่านั้นเอง!”
“นั่นสิเช่นเช่น!พวกเราไม่สนุกกับพวกเขา พวกเรามาเล่นกันตามลำพังสามคน!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เพ่งสายตาเข้าไป คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือเฝิงเช่น!เธอดื่มจนร่างกายอ่อนปวกเปียกไปหมด แม้ว่าจะมีสติอยู่บ้าง แต่กลับไม่มีความสามารถในการเคลื่อนไหวโดยสมบูรณ์แบบ
ผู้ชายสองคนนี้จะพาเฝิงเช่นไปที่ไหน ไป๋เสว่เอ๋อร์ใช้หัวแม่เท้าก็ยังคิดออก!
หัวใจบีบตัวเข้าหากันแน่น ไป๋เสว่เอ๋อร์หันหน้าไปมองโจ๋วฝัน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นในทันที “ก็คือเธอ ช่วยเธอเอาไว้ก่อน!”
โจ๋วฝันได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมและจริงจังขึ้นมาในทันที เขาพยักหน้าเล็กน้อย ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นๆอีก มุ่งตรงไปทางข้างหน้า ขวางทางสองคนนั้นไว้ในทันที
ชายหนุ่มสองคนนั้นสบตากันเล็กน้อย สีหน้าค่อนข้างสุดจะทน “ไสหัวไป!”
โจ๋วฝันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ปล่อยเธอ”
“โอ้โห ให้ตายสิ ไอ้หนุ่มคนนี้ยังคิดอยากจะยุ่งเรื่องชาวบ้าน…”
ชายหนุ่มคนหนึ่งมือข้างนึงประคอบเฝิงเช่นเอาไว้ อีกข้างนึงยกขึ้นมาจะต่อยโจ๋วฝัน โจ๋วฝันยื่นมือออกไป จับข้อมือของเขาเอาไว้ ออกแรงบิด พร้อมด้วยเสียงกร๊อบแกร๊บที่ดังขึ้น สีหน้าของคนๆนั้นก็เปลี่ยนเป็นเจ็บปวดอย่างสุดจะทนขึ้นมาในทันที
“แก…”
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างเห็นท่า ก็ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจเฝิงเช่นแล้ว รีบยกกำปั้นขึ้นมาพุ่งเข้าไปอย่างไม่รอช้า
โจ๋วฝันเคลื่อนที่เข้าไปข้างหน้าด้วยการเคลื่อนไหวที่ปราดเปรียว ยกขาขึ้นถีบไปบนหน้าอกของชายคนนั้นอย่างแรง ไม่ช้า ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ถูกทำให้ล้มลงไปกองกับพื้นในทันที
พวกเขาสบตากันเล็กน้อย สังเกตเห็นความผิดปกติของเรื่อง รีบประคองตัวลุกขึ้นมาจากพื้นวิ่งหนีไปด้วยความรวดเร็ว
โจ๋วฝันก้าวขาเข้าไปข้างหน้า ประคองเฝิงเช่นที่ล้มอยู่กับพื้นขึ้นมา เฝิงเช่นสติเลอะเลือน สุดท้ายก็พูดพึมพำออกมาไม่ยอมหยุด “อย่า!อย่าขยับตัวฉัน!กล้าแตะต้องตัวฉัน…ฉันจะให้คุณน้าสั่งสอนแก…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้น มองดูหญิงสาวที่ไม่ได้สติ ก็คิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
สีหน้าของโจ๋วฝันอึมครึมขึ้นมาเล็กน้อย “ตอนนี้จะทำยังไงดีครับ? พี่เสว่เอ๋อร์”
ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็ได้ยินเฝิงเช่นที่ดื่มจนเมาพูดออกมาว่า “ฉันจะบอกพวกแกให้…คุณน้าของฉันยอดเยี่ยมสุดๆ!ค่าตัวเป็นร้อยล้าน…พวกแกทำอะไรไม่ได้หรอก!”
ได้ยินดังนั้น สายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ล้ำลึกขึ้น แทบจะล้วงเอาโทรศัพท์โดยจิตใต้สำนึกออกมาในทันที เปิดที่บันทึกเสียง ยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายไปที่ใบหน้าของเฝิงเช่นพลางเอ่ยถามออกมาว่า “เธอพูดอะไรนะ? คุณน้าของเธอค่าตัวเป็นร้อยล้าน? สุดยอดขนาดนี้เลย?”
เฝิงเช่นดูเหมือนว่าจะดื่มเมาแล้วจริงๆ ไม่พะว้าพะวังอะไรทั้งสิ้น หลับตาเอาไว้พูดออกมาทุกสิ่งทุกอย่าง “แน่…แน่นอน!เพียงแค่โครงการของซือต๋าในปลายปีก็สามารถมีกำไรถึงสิบล้าน!ฉะนั้นฉันขอเตือนพวกแก…อย่าคิดจะทำอะไรฉัน!”
ซือต๋า? ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินชื่อของบริษัทนี้มาก่อน?
ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยถามต่อไปว่า “เฝิงเช่น เธอกำลังโกหกอย่างแน่นอน คุณน้าของเธอเป็นเพียงแค่ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในเผยซื่อก็เท่านั้นเอง เขาจะรับโครงการได้ยังไงกัน?”
“หึหึๆ…” เฝิงเช่นหัวเราะออกมาสองที “คุณน้าของฉันฉลาดแค่ไหนกัน อาศัยชื่อของเผยซื่อก็สามารถหาเงินได้แล้ว เหมือนพวกแกที่ไหน…ขยะ!ปล่อยฉัน…”
ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์แทบจะไม่ได้คิดอะไร หันไปทางโจ๋วฝัน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “เธอดื่มเมาแล้ว นำเธอไปส่งที่ห้องรับรองพิเศษก่อนค่อยว่ากัน”
“ครับ” โจ๋วฝันพยักหน้า รีบตอบรับในทันที
กลับมาถึงห้องรับรองพิเศษ ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคิดที่จะพยายามถามอะไรออกมาจากปากของเฝิงเช่นอีกหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าแค่ชั่วพริบตาเดียว หญิงสาวก็หลับลงไปแล้ว
คำถามต่างๆแผ่คลุมอยู่ภายในจิตใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีอะไรไม่ถูก แต่ก็คิดไม่เข้าใจไปชั่วขณะ ได้แต่สั่งการโจ๋วฝันออกไปว่า “เธออยู่ที่นี่เฝ้าดูเธอให้ดีๆ อย่าไปไหนซี้ซั้ว ฉันออกไปพักนึง แล้วจะรีบกลับมา”
พูดจบ เธอก็หมุนตัวออกจากห้องรับรองพิเศษไปในทันที ก้าวขาเดินไปยังหน้าประตูลิฟต์
เธอไม่รู้ว่าถานปินทำเรื่องที่ไม่สามารถจะให้คนอื่นรู้ได้อะไรอยู่เบื้องหลังกันแน่ แต่ตอนนี้จากในคำพูดหลังจากที่ดื่มจนเมาของเฝิงเช่นสามารถรับรู้ได้ว่า ถานปินจะต้องทำอะไรเอาไว้อย่างแน่นอน!
ตอนนี้เธอก็จะไปในห้องรับรองพิเศษหมายเลข508 หาคนลองถามดูสักหน่อย ดูว่าเฝิงเช่นได้พูดเรื่องเกี่ยวกับถานปินให้พวกเขาฟังบ้างหรือเปล่า
วิธีนี้แม้ว่าจะไม่ฉลาดนัก แต่ตอนนี้ในเวลาอันน้อยนิดเธอก็คิดวิธีอะไรไม่ออกแล้วเช่นเดียวกัน
เพิ่งจะเดินมาถึงระเบียงทางเดิน อยู่ๆบริเวณทางเลี้ยวก็ดังสะท้อนเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา ในนั้นปะปนไปด้วยเสียงที่กำลังโมโหจัดของผู้ชายคนหนึ่ง
“พี่หลง!ชายหญิงเมื่อกี้นี้นั่นพาตัวเฝิงเช่นไปแล้ว!ผู้ชายคนนั้นเป็นวิชาการต่อสู้ พวกเราเอาชนะไม่ไหว…”
“ใช่ครับ!พี่หลงพี่จำเป็นต้องไปกับพวกเราสักรอบ หากเฝิงเช่นเกิดอะไรขึ้น น้าของเธอก็ไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้อย่างแน่นอน!”
“…”
เสียงดังเอะอะโวยวายกำลังใกล้เข้ามา หลังจากที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ฟังคำพูดสั้นๆเหล่านี้ชัดเจนแล้ว ก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ดูเหมือนคนสองคนเมื่อกี้นั่นกลับไปเรียกกำลังเสริมมาช่วย เกรงว่าแผนการที่เธอคิดจะไปสอบถามสถานการณ์กับเพื่อนของเฝิงเช่นคงจะปิ๋วไปซะแล้ว อีกทั้ง เธอยังมีความเป็นไปได้ที่ตนเองยังเอาตัวไม่รอด!
เสียงจากมุมทางเลี้ยวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบหันตัวกลับ กำลังคิดที่จะวิ่งหนี แต่ในเวลานี้เพียงแค่คนเหล่านั้นเดินพ้นทางเลี้ยวมา ก็มองเห็นเธอได้แล้ว!
อยู่ๆ ด้านหน้าของเธอก็มืดลง คนทั้งคนกระทบเข้าไปในอ้อมกอดที่กว้างใหญ่
วินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็นำตัวเธอยันไว้ที่บนกำแพง โน้มศีรษะกดเสียงให้ทุ้มต่ำลงพลางเอ่ย “อย่าขยับ!”
ดวงตาของไป๋เสว่เอ๋อร์เบิกกว้างขึ้นในทันที คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าจะคือเผยลี่เชิน!