ตอนที่ 361 เบื้องหลังคือเธอ
คุณแม่ไป๋ทนไม่ได้ที่ถูกน้าหรงถามคำถามที่ทำให้จิตใจว้าวุ่น เธอเดินเข้าไปหาไป๋เสว่เอ๋อร์ ลากมือเธอแล้วกระซิบ “เสว่เอ๋อร์ แม่มีเรื่องจะพูดกับลูก”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองใบหน้าของแม่ที่ดูจริงจังมาก อดถามไม่ได้ “แม่..เป็นอะไรไป”
คุณแม่ไป๋ถามเสียงเข้ม “เผยลี่เชินบอกไหมว่าจะจัดงานแต่งเมื่อไร?”
“งานแต่ง?” ไป๋เสว่เอ๋อร์สับสน
ตอนนี้ความขัดแย้งระหว่างเธอกับเผยลี่เชินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าว่าแต่งานแต่งงานเลย แม้แต่เรื่องลูกยังไม่ได้ปรึกษากันเลย แล้วจะมาพูดเรื่องงานแต่งงานทำไมกัน?
“ตอนนี้ลูกท้องแล้ว เขายังไม่คิดจะแต่งงานพาลูกเข้าบ้าน เขาคิดยังไงของเขา? ทำให้ลูกกลายเป็นผู้หญิงท้องก่อนแต่ง กลายเป็นเรื่องตลกไปทั้งเมืองไห่เฉิง”
คำพูดนี้ไป๋เสว๋เอ๋อร์เข้าใจความหมายของแม่เป็นอย่างดี
เธอหายใจลึก พูดอย่างจริงจัง “แม่ หนูเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ เรื่องของหนูปล่อยให้หนูจัดการเอง แม่ไม่ต้องเป็นห่วง…”
“ทำไมแม่จะไม่ห่วง?” คุณแม่ไป๋ขมวดคิ้ว “เสว่เอ๋อร์ ลูกรู้ไหมว่าคนข้างนอกเขาพูดถึงตระกูลไป๋ของพวกเราว่าอย่างไรบ้าง คำพูดไม่เข้าหูแต่แรกก็มีมากพอแล้ว ถ้าเรื่องที่ลูกท้องก่อนแต่งเกิดแพร่สะพัดออกไป ตระกูลไป๋ของเราคงขายหน้าแย่!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ดวงตาหมองไปชั่วขณะหลังจากได้ยินที่แม่พูด จากนั้นเพลิงความโกรธลุกขึ้นในจิตใจของเธอ
ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับตระกูลไป๋ออกมาไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวข้องกับแม่และเฝิงเจิ้งปาง ตอนนี้แม้แต่แม่เองยังจัดการไม่ได้ ยังคิดจะมาวุ่นวายเรื่องของเธอ…
เมื่อจิตใจร้อนรุ่มไป๋เสว่เอ๋อร์พูดโดยไม่ทันคิด “แม่…แม่ไมรู้หรือไงว่าตอนนี้ข่าวลือที่คนข้างนอกเขาลือกันหมายถึงใคร?”
สีหน้าของคุณแม่ไป๋เศร้าทันทีเมื่อได้ยิน ไม่มีอะไรจะพูดสักคำ
ไป๋เสว่เอร์กำมือแน่นรีบเดินออกไปด้านนอก
น้าหรงตะลึง ร้องเรียกเบาๆ “เสว่เอ๋อร์! เธอ…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำเป็นหูหนวกไม่ได้ยิน รีบเดินไปโดยไม่หยุดออกจากร้านขายสินค้าแม่และเด็กอ่อน
ตอนแรกจิตใจที่รู้สึกทุกข์มาตอนนี้ยิ่งทุกข์หนักกว่าเดิม เธอเดินออกมาจากร้าน ยังไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปที่ไหนต่อ
เรื่องในบ้าน เรื่องนอกบ้าน เรื่องพ่อ เรื่องแม่ ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเผยลี่เชิน เรื่องทั้งหมดมารวมกันจนสมองเธอแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายไม่รู้ว่านานแค่ไหน จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือสั่นไหว เธอจึงหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นเผยลี่เชินที่โทรศัพท์มาหา
เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจวางสายอย่างแน่วแน่
ไม่นานโทรศัพท์ก็สั่นเทาและได้รับข้อความว่า “คนที่สั่งให้เมิ่งจูนขับรถชนเธอสืบเจอแล้วนะ”
ขณะนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์มีสติกลับมาอีกครั้ง เธอหายใจลึกแล้วส่งข้อความกลับ “คือใคร?”
“ให้เธอไปที่ถนนชิงเฟิงหมายเลข 17”
หลังจากได้รับข้อความ ไป๋เสว่เอ๋อร์มีสติกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เธอโบกมือเรียกรถจากนั้นรีบขึ้นรถไปทันที “โชเฟอร์ ไปถนนชิงเฟิงหมายเลข 17 ยิ่งเร็วยิ่งดี!”
เธอแทบรอไม่ไหวอยากเห็นหน้าคนนั้นคนที่คิดจะฆ่าเธอให้ตาย!
อีกด้านหนึ่งบริเวณบาร์ชิงเฟิงบนถนนชิงเฟิงหมายเลข 17 ยังไม่มีผู้คนมากนักเนื่องจากยังกลางวันอยู่ คนในบาร์ต่างอยู่รวมกันบริเวณทางเดินแคบๆ บริเวณใกล้ๆ
มีชายสองสามคนแต่งตัวคล้ายกันดูท่าจะเป็นบอดี้การ์ดจ้องมองไปที่เจ้าของร้านบาร์ บาร์เทนเดอร์ยังมีบริกรอีกสองคน ท่าทางน่ากลัวจนทำให้ไม่กล้าขยับเขยื้อน
ฉีเฟิงยืนอยู่บริเวณตรงทางเดินไปประตูห้องพิเศษ สีหน้าดูเคร่งขรึม
ประตูถูกปิดไว้ครึ่งหนึ่งจึงได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน
ภายในห้อง เฝิงเช่นถูกมัดไว้อยู่กับเก้าอี้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดวงตาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม จ้องมองเผยลี่เชินด้วยความระมัดระวัง
ชายหนุ่มเสียงเข้มสายตาเคร่งขรึม “ยังไม่ยอมพูดอีกใช่ไหม?”
ใบหน้าของเฝิงเช่นน่ากลัว พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “สิ่งที่ฉันควรพูดได้พูดไปแล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก!”
“ฉันอยากฟังความจริง” เผยลี่เชินค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างอดทน “จะพูดหรือไม่พูดก็ตามใจ แต่เธอต้องได้รับโทษทัณฑ์แน่นอน”
“ฮา!” เฝิงเช่นยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าหากคุณส่งลุงฉันเข้าคุก ฉันก็จะตามมาล้างแค้นคุณแน่นอน! ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ใช่คนรักของคุณหรือไง? ฉันถึงได้มีอคติกับเธอตลอด เมื่อรู้ว่าล่วงหน้าว่าพวกคุณจะไปทำงานที่เมืองปินเฉิง ฉันวางแผนไว้แล้ว โดยว่าจ้างชายที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยเงินจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ตกลงเพราะเห็นแก่ชีวิตลูกและเมียของตัวเองหลังจากที่เขาตาย แต่คิดไม่ถึงว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะโชคดีขนาดนี้”
เฝิงเช่นแสดงท่าทางน่าเกลียดออกมา “แต่ เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ ฉันไม่สามารถฆ่าเธอให้ตายได้ ช้าเร็วสักวันก็ต้องมีคนฆ่าเธอให้ตายจนได้!”
จิตใจเผยลี่เชินเหมือนถูกบีบอัดอย่างแรงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ เขาขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกหงุดหงิด
เขาอยู่ในโลกธุรกิจมานานหลายปี ยังไม่เคยเจอภัยข่มขู่คุกคามจากคนจิตใจชั่วช้าต่ำทรามอะไรแบบนี้ เขาถูกฝึกให้แข็งแกร่งดุจเกราะเหล็กมานานแล้ว เมื่อได้ยินเฝิงเช่นพูดถึงชื่อนั้น เขาจึงไม่สะทกสะท้าน
เขาไม่ได้กลัวตัวเองจะได้รับอันตราย กลัวก็แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์จะได้รับอันตราย
เผยลี่เชินกำหมัดแน่น หันมองไปที่ชายที่ยืนอยู่ตรงประตู
ชายคนนั้นเข้าใจความหมายทันที แม้ว่าเผยลี่เชินไม่ต้องเอ่ยอะไรออกมา เขารีบเดินไปข้างหน้า ยกมือที่ถือเข็มขัดหนังไว้ จากนั้นฟาดไปที่เฝิงเช่น
เฝิงเช่นกรีดร้องพร้อมกับใบหน้าที่ถูกเข็มขัดหนังบวมแดงขึ้นทันที
เผยลี่เชินถามด้วยเสียงเคร่งเครียด “ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เพียงแค่บอกว่าใครใช้ให้เธอทำแบบนี้ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป”
ลูกน้องของเขาที่อยู่เมืองปินเฉิงสืบเรื่องทั้งหมดแล้ว หลักฐานทั้งหมดชี้ความผิดไปที่เฝิงเช่น โดยส่วนตัวเธอมีความเกี่ยวข้องกับเมิ่งจูนคนที่กระทำผิด โดยให้เงินเขา แต่แผนชั่วร้ายขนาดนี้ เฝิงเช่นไม่น่าจะคิดได้
ยิ่งกว่านั้นคำพูดทุกคำปะปนกับสิ่งอื่นๆ และบางคำพูดก็ทำให้คนกลัวจนตัวสั่นงันงก
หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เผยลี่เชินรู้สึกว่าเธอทำตามคำสั่ง แต่ไม่ว่าเขาจะถามอย่างไร ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งบังคับเท่าไร เฝิงเช่นก็ไม่ยอมพูด
ตอนนี้แม้ว่าคนจะถูกจับ แต่คนที่อยู่เบื้องหลังยังคงซ่อนตัวอยู่ในที่มือ อย่างนี้จะให้เขาวางใจได้อย่างไรกัน?
ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตู แล้วฉีเฟิงผลักประตูเข้ามาพูดกับเผยลี่เชิน “ประธานเผย เลขาไป๋มาถึงแล้ว”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พยักหน้าพูดว่า “อืม ให้เธอเข้ามาได้”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้ามาเห็นทางด้านนี้จึงเดินเข้ามาหาฉีเฟิง เธอลังเลก่อนจะเดินเข้ามา
ฉีเฟิงยืนอยู่หน้าประตู พยักหน้าไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ “ประธานเผยให้คุณเข้าไปได้”
เมื่อเธอผลักประตูเข้าไปเธอนึกถึงคนที่คิดจะฆ่าเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นเต้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว หายใจลึก ก่อนจะผลักประตูแล้วเดินเข้าไปข้างใน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงเมื่อเห็นเฝิงเช่นถูกมัดไว้อยู่กับเก้าอี้
ทำไมเป็นเธอ….
เผยลี่เชินเดินมาอยู่ข้างๆ เธอ พูดเบาๆ “เธอยอมรับทั้งหมดแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าอย่างเหม่อลอย เธอก้าวเท้าไปข้างหน้าด้วยความลังเล สองสามก้าว
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฝิงเช่นทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกขนลุกขนพอง “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกเราจะได้พบกันอีก ด้วยวิธีการนี้”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ปากสั่น ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงเฝิงเช่นดังออกมาอีกครั้ง
เธอพูดด้วยเสียงเบาด้วยการกดขี่ที่มองไม่เห็น “เธอควรตายเหมือนพ่อของเธอนั่นแหละ