ตอนที่ 362 รับปากแต่งงาน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่นสะท้าน เธอหายใจลึก ความเย็นที่อธิบายไม่ถูกแผ่ซ่านจากปลายเท้าขึ้นไปถึงกระดูกสันหลัง
ในความทรงจำของเธอ เฝิงเช่นไม่ใช่คนแบบนี้ แม้ว่าเธอจะโง่ แต่ก็ไม่ใช่คนมีเมตตา แต่ก็ไม่เหมือนนางมารร้ายที่เป็นอยู่ในขณะนี้
อย่างน้อยเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ตอนที่เธออยู่ในสโมสร เธอยังเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้คนหลงใหล แต่มาตอนนี้เธอ….
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว ร่างกายไม่สามารถทรงตัวได้นิ่งจนต้องมีคนมาช่วยพยุง
“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่” เผยลี่เชินพูดปลอบใจเบาๆ “เธอคิดจะจัดการกับเธอคนนี้อย่างไร?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึก ยังนึกถึงโชเฟอร์คนขับรถที่อาการโคม่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองปินเฉิงอยู่ตอนนี้ แขนขาเริ่มรู้สึกเย็นวาบ
“จะทำอย่างไรก็ตามใจเถอะ…เธอเป็นหนี้โชเฟอร์คนขับรถ ให้เธอเป็นคนชดใช้”
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เฝิงเช่นคิดทำร้ายเธอ แค่เรื่องที่เธอทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เฝิงเช่นก็ชดใช้ความผิดนี้ไม่หมด
เฝิงเช่นโกรธมากเมื่อเห็นสีหน้าไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนก เธอถามกลับพร้อมรอยยิ้ม “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ทำไมเธอถึงโชคนี้ขนาดนี้? เธอลงมาจากรถทำให้คนขับรถต้องรับเคราะห์แทนเธอ เธอไม่ละอายใจบ้างเหรอเวลาที่ต้องเจอหน้าครอบครัวเขา?”
เธอจับจุดอ่อนของไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ จึงพยายามบีบรัดให้ถึงก้นบึ้งของจิตใจเธอ
เป็นจริงดังนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่นสะท้าน ความขมขื่นเพิ่มขึ้นในจิตใจ
สีหน้าเผยลี่เชินหมองหม่น มองเฝิงเช่นด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หุบปาก!”
สีหน้าเฝิงเช่นเย็นชา ดูเหมือนอารมณ์ของเขาจะทำให้เธอตกใจ จนไม่พูดอะไรออกมา
เผยลี่เชินก้มหัวเล็กน้อยพยุงไป๋เสว่เอ๋อร์ออกจากห้องพิเศษ พร้อมกับคำพูดปลอบโยน “สิ่งที่เธอพูดอย่าเก็บไปใส่ใจ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อได้ยิน คำพูดมากมายจุกอยู่ในหัวใจแต่พูดไม่ออก
เธอจะไม่สนใจได้อย่างไร? คำพูดเฝิงเช่นทั้งหมดล้วนแต่เป็นความจริง เธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ
เดินไปถึงประตูบาร์ ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึกก่อนเอ่ยปากพูด “ส่งเธอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเถอะ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้อยู่แก่ใจอย่างชัดเจนเมื่อเห็นสภาพของเฝิงเช่น ถ้าให้เผยลี่เชินจัดการด้วยตัวเอง เธอไม่อยากคิดถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่ตามมา ความโหดร้ายของเขา เธอรู้อยู่ดีแก่ใจ
หลังจากเงียบไปสักพัก เผยลี่เชินจึงรับปาก “อืม”
ไป๋เสว่เอ๋อร์โล่งอกอย่างเงียบๆ เมื่อได้ยินเผยลี่เชินรับปาก เธอดึงมือที่เผยลี่เชินกุมมือเธอไว้ออก แล้วพูดเบาๆ “ไม่มีเรื่องอะไรฉันไปก่อนนะ”
เผยลี่เชินคิ้วขมวดเดินไปขวางทางเธอไว้ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ พวกเรามาคุยกันหน่อย”
เงยหน้ามองดวงตาชายหนุ่มที่คมเข้ม ขณะนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์ใจลอย สักพักสงบลงจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ตอนนี้พวกเราควรอยู่เงียบๆ มีเรื่องอะไรค่อยพูดกันวันหลังเถอะ”
พูดจบเธอเดินจากเผยลี่เชินไป
ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับบ้านด้วยความคิดมากมาย แม้แต่ข้าวก็ไม่กิน แต่กลับขึ้นไปนอนในห้องนอน
เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ทำให้เธอสับสนจนไม่สามารถรับมือได้
สองสามวันนี้ เธออยากสงบสติอารมณ์ของตัวเอง หลังจากอารมณ์นิ่งแล้ว เธอถึงจะมาคิดพิจารณาเรื่องอนาคตของเธอกับเผยลี่เชิน
ผ่านมาสามวันหลังจากเก็บตัวเงียบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ จากเผยลี่เชินเลย ตอนแรกที่จิตใจถูกอารมณ์ควบคุมค่อยๆ เริ่มมีเหตุผลมากขึ้น
ช่วงเช้าไป๋เสว่เอ๋อร์ปล่อยให้ตัวเองนอนจนตื่นขึ้นมาเอง จากนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงออกจากห้องนอน ใครจะไปรู้ได้ว่าพอเดินไปถึงบริเวณบันได ยังไม่ได้เดินลงไป ก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาจากด้านล่าง
หรือว่าข้างล่างมีแขกมา?
ความสงสัยแพร่สะพัดอย่างในหัวใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวเดินด้วยขาสั่น เมื่อถึงบบบันไดสุดท้าย จู่ๆ เธอได้ยินเสียงที่ฟังดูคุ้นเคย
“วันนี้ฉันมาเยี่ยมกะทันหันไปหน่อย แต่ที่ฉันมาครั้งนี้เพื่อมาดูตามที่แม่ยายของลูกชายบอกไว้ ในเมื่อเธอไม่มีข้อคิดเห็นใด งั้นเรื่องระหว่างเด็กๆ ก็เกือบจะตัดสินใจได้แล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตึงเครียดขึ้นมา เพราะนั่นเป็นเสียงของคุณท่านเผย!
ทันใดนั้น เสียงของคุณแม่ไป๋ดังขึ้น “มันเป็นธรรมดาที่เสว่เอ๋อร์กับลี่เชินต่างก็รักกัน ฉันเองก็ขัดขวางไม่ได้ รอให้วันนี้ฉันพูดคุยกับเสว่เอ๋อร์ก่อน แล้วพวกเราค่อยมาตกลงกัน ทุกคนจะได้สบายใจ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่สบายใจ จึงรีบเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่น
คุณท่านเผยรู้สึกประหลาดใจเมื่อจู่ๆ เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ปรากฏตัว “สาวน้อยไป๋…”
“เสว่เอ๋อร์” คุณแม่ไป๋กระพริบตาด้วยความประหลาดใจ แล้วรีบพูดต่อทันที “คุณเผยมา ตอนแรกอยากจะมาพบลูก แต่คุณเผยอย่างให้ลูกพักผ่อน จึงไม่ได้ให้แม่ไปเรียกลูก”
คุณท่านเผยที่อยู่ข้างๆ ให้ความร่วมมือโดยพยักหน้ารับ “สาวน้อย เธอควรพักผ่อนเยอะๆ ไปฝากครรภ์ด้วยนะ อย่าคิดอะไรมาก”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หน้าขาวซีดทันทีที่ได้ยินคุณท่านเผยพูดเช่นนี้ เธอมองคุณแม่ไป๋ด้วยความประหลาดใจ เกิดคำถามขึ้นภายในใจของเธอ
คุณแม่ไป๋รีบลุกขึ้นดึงเธอออกมาปกปิดใบหน้าที่ดูแปลกไม่เป็นธรรมชาติ “ลูกคนนี้ ทำไมถึงได้โง่นัก? แล้วก็ไม่รู้จักเรียก?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์สะกดอารมณ์ของเธอจนมือไม้เกร็งไปหมดพร้อมพูดอย่างสงบ “คุณลุงคะ คุณลุงจะมาแล้วทำไมไม่บอกก่อนล่วงหน้าคะ?”
คุณท่านเผยโบกไม้โบกมือพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องลำบาก ฉันแค่มาปรึกษากับแม่ของหนูเรื่องแต่งงานของหนูกับลี่เชิน รออีกสักสองสามวันพวกเราค่อยคุยอย่างเป็นทางการอีกที”
เมื่อได้ยินดังนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์หน้ายิ่งซีดขาวกว่าเดิม หันไปมองคุณแม่ไป๋ทันที เอ่ยปากถาม “พวกคุณตกลงกันแล้ว?”
แม้ว่าเธอจะไม่มั่นใจ แต่คุณแม่ไป๋พยักหน้ารับและหันไปยิ้มให้กับคุณท่านเผย “ตอนนี้มีลูก เรื่องแต่งงานก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ งั้นก็รีบจัดจะดีกว่า”
“ใช่! แม่ของเธอพูดถูกแล้ว” คุณท่านเผยยิ้ม แล้วพูดต่อ “สาวน้อย ฉันว่าหนูผอมไปนะ เดี๋ยวฉันกลับไปถึงบ้านจะสั่งให้แม่บ้านนำอาหารเสริมมาให้ เธอก็ดูแลตัวเองดี”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ฝืนยิ้ม แม้ว่าในใจยังคงยุ่งเหยิง พยักหน้าตอบรับไปก่อน “ขอบคุณค่ะคุณลุง”
ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ทั้งคุณแม่ไป๋กับคุณท่านเผยเจรจาตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เธอเองก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณท่านเผย
คุณท่านเผยยิ้ม “งั้นก็ดีแล้ว เรื่องที่ควรพูดก็พูดไปแล้ว ฉันก็ไม่รบกวนแล้ว”
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ พยุงคุณท่านเผยออกไป
หลังจากบอกลากันเรียบร้อยแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ตามคุณแม่ไป๋ไปส่งเขาที่ประตูใหญ่
เมื่อเห็นรถแล่นออกไปไกลแล้ว ความโกรธของไป๋เสว่เอ๋อร์ในที่สุดก็ระเบิดออกมา
เธอหันมามองคุณแม่ไป๋ ถามด้วยน้ำเสียงต่อว่า “แม่ หนูเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า แม่อย่าเข้ามายุ่งเรื่องของหนู แม่ใช้สิทธิ์อะไรมาตอบรับเรื่องแต่งงานแทนหนู?”
“ก็ใช้สิทธิ์ความเป็นแม่ของแกไง!” คุณแม่ไป๋ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม “ไม่อย่างงั้นแกจะทำอย่างไร อีกไม่นานท้องแกก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ! ถึงตอนนั้นแกจะทำอย่างไร!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปากเมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนยึดอำนาจ ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
เธอรู้ว่าที่แม่ทำแบบนี้ก็เพราะอยากให้เธอได้ดี แต่แม่ยังไม่รู้ชัดเจนว่า ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเผยลี่เชินยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ เลย
ปัญหาพวกนี้เหมือนระเบิดเวลา แม้ว่าพวกเขาจะอยู่กันอย่างสงบไม่ทะเลาะกัน แต่บางทีก็อาจจะระเบิดขึ้นในไม่กี่วินาที
ทันใดนั้น คุณแม่ไป๋พูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่ว่าแกจะคิดอย่างไร แม่ก็รับปากเรื่องแต่งงานแทนแกไปแล้ว แกไม่มีทางเลือก!