สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 369

ตอนที่ 369

ตอนที่ 369 โอกาสเหมาะที่จะจากไป

สีหน้าลู่เหยาไม่ค่อยดีนัก เขาก้มศีรษะพูดเสียงเข้ม “เสว่เอ๋อร์ เธอรู้ไหมว่าที่นี่มีนักข่าวอยู่กันเยอะ?”

วันนี้เผยซื่อเป็นจุดศูนย์รวมของนักข่าว บริเวณรอบๆ อาคารล้วนแต่มีนักข่าวนั่งอยู่ในที่ลับ ในเวลานี้พวกเขากำลังรอ “คนสำคัญของข่าว” ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการเดินเข้าสู่กับดัก

เมื่อพาไป๋เสว่เอ๋อร์ขึ้นรถแล้ว ลู่เหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างเงียบๆ เพียงแต่สีหน้ายังคงเคร่งขรึม

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ว่าตัวเองทำผิด เมื่อคืนวานพวกเขาปรึกษาหารือวางแผนกันเรียบร้อยแล้วตกลงตามนั้น ว่าเธอจะไม่ไปพบเผยลี่เชินอีก แต่วันนี้เธอกลับไปพบเขาด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอทำไม่ถูก

“รุ่นพี่ ฉันขอโทษ” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดขอโทษเบาๆ

ยังพูดไม่ทันจบ ลู่เหยาเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน “นี่ยังไม่สำคัญ ที่ฉันมาหาเธอเพราะว่าแผนของเรามีการเปลี่ยนแปลง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงไปเล็กน้อย “มีอะไรเปลี่ยนหรือคะ?”

ตอนแรกพวกเขาวางแผนไว้ว่าหลังจากนี้อีกสามวันช่วงกลางคืนจะหนีออกจากเมืองไห่เฉิง เรื่องรายละเอียดรวมถึงเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้พูดคุยกันไว้รอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้จู่ๆ เขามาบอกว่าเปลี่ยนแผน เธอย่อมรู้สึกประหลาดใจ

สีหน้าลู่เหยาดูตั้งใจ มองดูดวงตาดำขลับที่สดใสของไป๋เสว่เอ๋อร์ “พวกเราจะไปวันนี้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สมองถึงกับอึ้ง “อะไรนะ?”

“ตอนนี้เผยซื่อต้องมารวมตัวกันเพราะสื่อสาธารณะชนทั้งหลายทำให้วุ่นวายไปหมด เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เผยลี่เชินยุ่งที่สุด และเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเราจะออกจากเมืองไห่เฉิง” ลู่เหยานิ่งไปก่อนจะพูดเสียงเคร่งขรึม “ดังนั้นฉันตัดสินใจแน่แล้วว่าต้องอาศัยจังหวะนี้ลงมือ ซึ่งฉันได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแต่เธอเท่านั้น”

ไป๋เสว่เอ๋อร์จิตใจสั่นไหวเมื่อได้ยินที่เขาพูด ตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะต้องจากไห่เฉิงไปรวดเร็วขนาดนี้ จากเผยลี่เชิน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เขากำลังลำบากที่สุดไม่มีใครอยู่ช่วยเหลือ….

ความรู้สึกลังเลในใจทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์กำชายเสื้อแน่น ความสับสนทำให้ไม่พูดอะไรอยู่นาน

ลู่เหยาหายใจลึก ดูเหมือนเขาจะเข้าใจความคิดของไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างทะลุปรุโปร่ง ก่อนจะพูดเบาๆ “เสว่เอ๋อร์ ตอนนี้เป็นโอกาสเหมาะที่พวกเราจะไปจากที่นี่ ไม่ก็ทำตามแผนเดิมที่วางไว้ แต่ฉันขอบอกอย่างชัดเจนว่า ถึงตอนนั้นความสำเร็จที่จะไปจากที่นี่มีไม่มากเท่าตอนนี้อย่างแน่นอน”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้นิสัยของเผยลี่เชินเป็นอย่างดี ถ้าให้เขารู้ว่าเธอหนีไป เขาจะต้องตามหาเธอพลิกเมืองไห่เฉิงแน่นอน ไม่ว่าต้องเสียเงินไปสักเท่าไรเพื่อหาเธอ….

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก รู้สึกลังเล

ลู่เหยาพูดต่อเมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไรอยู่นาน “เธอคิดดูให้ถี่ถ้วนนะ คิดได้แล้วก็บอกฉันด้วย ฉันไปซื้อกาแฟก่อนนะ”

พูดจบลู่เหยาลงจากรถ ขณะนั้นภายในรถเหลือเธออยู่เพียงแค่คนเดียว

เธอไม่อยากจากไปตอนที่เผยลี่เชินกำลังลำบาก แต่เธอต้องเผชิญกับความจริง ถ้าเธอต้องการเก็บเด็กคนนี้ไว้ เธอจำเป็นต้องไป

เธอไม่มีทางเดินอื่นให้เลือกเดินอีกแล้ว

ในที่สุด เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมด หยิบจดหมายลาออกที่เขียนไว้เมื่อคืนออกจากกระเป๋าของเธอ ตอนที่มองดูตัวอักษรในจดหมาย เธอสะอื้นไห้ อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา

ถึงเวลาที่ต้องจากลา

ไป๋เสว่เอ๋อร์ปาดน้ำตาทิ้ง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรศัพท์หาเสี่ยวจางผู้ช่วยฝึกหัดที่อยู่สำนักงานประธานบริษัท “ฮัลโหล เสี่ยวจาง”

“พี่เสว่เอ๋อร์!” เสี่ยวจางทั้งดีใจทั้งประหลาดใจ “ทำไมช่วงนี้พี่ถึงไม่มาทำงานคะ?”

“พี่มีธุระนิดหน่อย…เลยไม่ได้ไปทำงาน ตอนนี้เธอว่าไหม? พี่อยากให้เธอช่วยพี่หน่อย…”

หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ ไป๋เสว่เอ๋อร์วางสายโทรศัพท์ ในมือกำจดหมายลาออกไว้ แม้ว่าแอร์ในรถจะเย็นสบาย แต่เธอกลับรู้สึกเย็นยะเยือกบริเวณท่อนแขน

ไม่นานไป๋เสว่เอ๋อร์มองเห็นเสี่ยวจางผ่านกระจกรถ ซึ่งเสี่ยวจางอยู่ตรงประตูบริษัท เธอเดินลงมาจากชานบันได กวาดตามองไปรอบๆ แล้วก็เดินตรงมาทางนี้

เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงลงจากรถ โบกมือให้เธอ

“พี่เสว่เอ๋อร์!” เสี่ยวจางดีใจมาก แต่ก็ลังเลเล็กน้อยก่อนถาม “พี่มาถึงนี่แล้วทำไมไม่ขึ้นไปข้างบน?”

“ฉันกลับไปไม่ค่อยสะดวก” ไป๋เสว่เอ๋อร์ฝืนยิ้มให้เธอ จากนั้นก็ส่งจดหมายที่อยู่ในมือให้เธอ “รบกวนเธอช่วยพี่นำจดหมายนี้ไปที่สำนักงานประธานบริษัท รออีกสองวันให้เรื่องของบริษัทเรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยเอาจดหมายฉบับนี้ส่งให้ประธานเผย”

“แล้ว….” เสี่ยวจางมีลางสังหรณ์ เธอก้มลงมองดูจดหมายที่ใส่ซองไว้สองชั้น รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย “พี่เสว่เอ๋อร์ พี่กับประธานเผยมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า? พวกพี่ไม่อยากเจอหน้ากันแล้วหรือ?”

เมื่อถูกเสี่ยวจางถามคำถามนี้ จิตใจไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเศร้าหมอง เธอจึงฝืนยิ้มออกมา “ฟังนะเสี่ยวจาง แค่ช่วยพี่ เรื่องอื่นไม่ต้องถาม ได้ไหม?”

“ได้…” เสี่ยวจางพยักหน้ารับ แม้ว่าจะรับปาก แต่จิตใจกลับรู้สึกหดหู่

ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึก เมื่อเห็นท่าทางอย่างนี้ของสาวน้อย จึงได้แต่ตีที่ไหล่เบาๆ พูดอย่างปลอบโยน “เรื่องงานที่ทำเธอทำได้ดีแล้ว พยายามต่อไปนะ เธอสามารถผ่านการทดสอบปลายปีได้แน่ เมื่อเวลานั้นมาถึงเธอก็จะได้เป็นพนักงานประจำของเผยซื่อ โอเค กลับไปได้แล้ว”

เสี่ยวจางพยักหน้ารับ ลังเลอยู่สักครู่ พูดเบาๆ “พี่เสว่เอ๋อร์ พี่ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“อืม ไปเถอะ”

เมื่อเห็นเสี่ยวจางเดินจากไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกหดหู่ใจ หันกลับไปเห็นลู่เหยาเดินมาข้างๆ เธอหายใจลึก

ลู่เหยาเดินมาถึงส่งกาแฟให้เธอแก้วหนึ่ง ถามเบาๆ “คิดดีหรือยัง?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าตอบรับ ก้มหน้าพูดด้วยเสียงแน่วแน่ “ฉันเชื่อพี่ วันนี้พวกเราไปจากที่นี่กัน”

ในเมื่อช้าเร็วก็ต้องจากไป แม้เธอจะอยู่ต่ออีกสองสามวันก็ไม่มีความหมายอะไร

ผ่านไปสองชั่วโมง ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงนั่งอยู่ในรถ มองดูรถยนต์ที่วิ่งออกจากเมืองไปตามถนน ทัศนียภาพที่ค่อยๆ แปลกตามากขึ้น ทำให้อารมณ์ของไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆ หดหู่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

เธอกับเผยลี่เชินจะจบแบบนี้จริงๆ หรือ?

ทีมงานประชาสัมพันธ์ของเผยซื่อยุ่งตลอดทั้งวัน สื่อสาธารณะในที่สุดก็ถูกควบคุม อีกทั้งคลิปวิดีโอคำสารภาพของผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกโดยไป๋เสว่เอ๋อร์ที่เมืองปินเฉิง เป็นหลักฐานที่แสดงว่าเฝิงเช่นมีความผิดจริง ดังนั้นเรื่องของเฝิงเช่นกับเผยลี่เชินที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนก็ถือว่าแพ้ภัยตัวเองไป

อุปสรรคในโลกโซเชียลกำลังเปลี่ยนไป สถานการณ์กำลังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

เผยลี่เชินนั่งอยู่ในออฟฟิศ ในที่สุดเขาก็มีโอกาสหายใจได้อย่างสะดวก ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉีเฟิงผลักประตูเข้ามา

“ประธานเผย ทีมประชาสัมพันธ์แจ้งเกี่ยวกับสถานการณ์ว่า น่าจะมีคนกล่าวหาใส่ร้าย รวมไปถึงพวกนักข่าวหลายคนที่เคยติดต่อกับเรามาก่อนหน้านี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันจนผมรู้สึกน่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”

เผยลี่เชินไม่รู้สึกแปลกใจที่ได้ยินฉีเฟิงพูดแบบนี้ เพราะเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ผิดสังเกตมาตั้งนานแล้ว

เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้มีคนเตรียมตัวมาอย่างดีอาศัยโอกาสนี้โค่นล้มเขา ทำลายชื่อเสียงและอิทธิพลของเขา

ดวงตาหดหู่อยู่สักพัก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาจึงสั่งกำชับด้วยเสียงเย็นชา “ส่งคนไปสืบ ระวังอย่างให้คนรู้ตัว ต้องเอาคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้!”

ไม่ว่าเรื่องการตายของเฝิงเช่นที่แปลก แม้แต่เรื่องสื่อสาธารณะชนที่พุ่งเป้ามาที่เขาก็แปลกมาก ไม่แน่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังอาจจะเป็นคนคนเดียวกันก็ได้!

“ครับ”

ฉีเฟิงรับทราบ หันหลังกำลังจะเดินออก เผยลี่เชินกลับร้องเรียกเขาไว้ “รอก่อน”

ทันใดนั้นเผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้มเมื่อสายตาไปหยุดอยู่ที่ยูเอสบีที่วางอยู่บนโต๊ะ

เรื่องนี้ต้องยกความชอบให้กับสิ่งที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งมาให้ ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจหาวิธีรับมือกับสาธารณชนได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้

เผยลี่เชินหายใจลึก ใช้น้ำเสียงผ่อนคลายมากขึ้น “ไปหาไป๋เสว่เอ๋อร์ ดูว่าอยู่ที่ไหน?”

เขาอยากพบเธอ ยิ่งเร็วเท่าไรได้ยิ่งดี

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท