ตอนที่ 385 ที่ที่ปลอดภัยที่สุด
เหอหย่าหานหัวเราะ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ก็มั่นใจว่าเธอหลบเผยลี่เชินมาตั้งหกปีแล้ว ฉันคิดว่า เธอคงไม่อยากให้เขาหาเธอเจอแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อเย็นชาลง เธอสูดหายใจ มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “เขาจะมาเมื่อไหร่?”
เหอหย่าหานพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีกสองชั่วโมงคงถึงเมืองเซียงหนาน”
ไป๋เสว่เอ๋อกำหมัดแน่น จู่ๆก็หันหลังกลับไปเปิดประตูรถกำลังจะก้าวขึ้นไป
“ไป๋เสว่เอ๋อ!”
เหอหย่าหานเห็นว่าเธอกำลังจะออกไป รีบจับประตูรถไว้ไม่ให้เธอเปิด “นี่เธอตอบตกลงแล้วยัง!”
“ฉันตกลง แต่ไม่ว่าจะมีข่าวอะไรคืบหน้า เธอต้องรายงานฉันให้ไวที่สุด” ไป๋เสว่เอ๋อพูดพลางยื่นนามบัตรให้เหอหย่าหาน “ส่งข้อความมาให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปเก็บของเดี๋ยวนี้”
เหอหย่าหานรับนามบัตรมา ยิ้มเริงร่า ถามต่อ “เธอกำลังคิดจะไปที่ไหน?”
“ความสามารถของคุณเหอล้ำเลิศ ถ้าอยากรู้ก็หาเอาเองนะ”
ไป๋เสว่เอ๋อพูดจบ ปิดประตูรถ ขับเขาไปในที่จอดรถ เปิดท้ายรถขึ้น รีบเก็บสัมภาระทุกอย่างภายในห้อง
ป้าหวางที่กำลังเล่นกับห้าวเจ๋อน้อยเห็นเธอกลับมาอย่างกะทันหัน จึงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เสว่เอ๋อ ทำไมจู่ๆถึงกลับมาแล้วล่ะ?”
“เกิดเรื่องนิดหน่อยค่ะ ป้าหวางคะ ช่วยเจ๋อน้อยเก็บสัมภาระหน่อยได้ไหมคะ ฉันต้องพาเขาออกไปตอนนี้ค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทีของไป๋เสว่เอ๋อร้อนรน ป้าหวางไม่กล้าถามอะไรมากนัก จึงรีบหยักหน้าลงจากนั้นขึ้นไปเก็บของให้ห้าวเจ๋อน้อยบนห้อง
ห้าวเจ๋อน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น รู้สึกสงสัย จึงรีบวิ่งตามไป๋เสว่เอ๋อไป ใช้มือน้อยๆดึงชายเสื้อของเธอ ถามขึ้นด้วยเสียงออดอ้อน “แม่ครับ แม่จะผมไปเมืองไห่เฉิงหรอครับ?”
เมื่อได้ยินคำว่า “ไห่เฉิง” ไป๋เสว่เอ๋อหยุดชะงักไป เหมือนมีบางอย่างแวบเข้ามาในหัว
หากออกจากบ้านไปตอนนี้ เธอไม่รู้จะไปที่ไหนแล้วจริงๆ เมื่อครู่ได้แต่รีบรนเก็บของ ยังไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าจะไปที่ไหน
หรือถ้าหาเธอจะพาห้าวเจ๋อน้อยไปหลบอยู่ในโรงแรมสักสองสามวัน ด้วยความสามารถของเผยลี่เชินแล้ว เขาคงต้องพลิกเมืองเซียงหนานหาเธอแน่นอน!
หรือทว่า…กลับเมืองไห่เฉิง!
ไม่เพียงแต่เพราะว่ามีลู่เหยาอยู่ที่เมืองไห่เฉิง อย่างน้อยมีเรื่องอะไรเขาก็พอช่วยได้ อีกทั้งเรื่องบางเรื่องก็เหมือนคำโบราณที่กล่าวว่า…ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด!
เท่าที่เธอทราบ หกปีมานี้เขาพยายามพลิกเมืองไห่เฉิงและเมืองจิงเฉิงตามหาเธอ ตอนนี้เธอกลับหนีมาที่เมืองไห่เฉิง เผยลี่เชินคงไม่ตั้งเป้าหาที่เมืองไห่เฉิงอีกแน่นอน หรือจะพูดอีกอย่างว่า เมืองไห่เฉิงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
เมื่อมั่นใจในความคิดของตัวเองแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อก้มมองหน้าห้าวเจ๋อน้อยด้วยความดีใจ ยกมือหยิกแก้มของเขา “ใช่จ้ะ แม่จะพาลูกไปเมืองไห่เฉิง ลูกต้องเชื่อฟังแม่ เข้าใจไหม?”
เมื่อได้ยินคำว่าไห่เฉิง ห้าวเจ๋อน้อยดีใจกระโดดโลดเต้นขึ้นมาทันที รีบพยักหน้าลง “ผมรู้แล้วครับแม่ ผมจะเชื่อฟังแม่แน่นอน!”
ไป๋เสว่เอ๋อรีบเก็บของอย่างรวดเร็ว พาไป๋เสว่เอ๋อขึ้นรถโดยสารไปเมืองไห่เฉิง เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอไม่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบิน จึงไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ แม้ว่าจะใช้เวลานานหน่อย แต่อย่างน้อยก็มีความปลอดภัยกว่า
หลังจากที่นั่งรถอยู่หลายชั่วโมง ไป๋เสว่เอ๋อผงกหัวลงด้วยความง่วง เธอกอดห้าวเจ๋อน้อยที่ผล็อยหลับไปแล้วไว้ในอ้อมอก ฝืนตัวเองไม่ให้หลับไว้
จู่ๆมือถือของเธอก็สั่นขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที เมื่อหยิบขึ้นมาดู พบว่าลู่เหยาโทรเข้ามาหาเธอ
ไป๋เสว่เอ๋อรีบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฮัลโหล?”
ลู่เหยาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวลใจ “เสว่เอ๋อ ตอนนี้เธออยู่ไหน”
ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเข้าลึกพูดขึ้น “ฉันกับเจ๋อน้อยกำลังนั่งรถกลับไปที่เมืองไห้เฉิง”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ลู่เหยาจึงถอนหายใจโล่งอก “เมื่อครู่ลูกน้องผมบอกว่าเผยลี่เชินไปเซียงหนานกะทันหัน ผมคิดว่าเขาคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จึงรีบมาบอกเธอก่อน แล้วเธอรู้ได้ยังไง?”
นิ่งไปสักพัก ไป๋เสว่เอ๋อพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “วันนี้ตอนฉันจะออกจากบ้าน ฉันเจอเหอหย่าหานที่หน้าบ้าน เธอเป็นคนบอกฉัน”
ลู่เหยารู้สึกประหลาดใจ “เหอหย่าหาน?”
“ค่ะ” เธอคงกลัวว่าถ้าเผยลี่เชินหาฉันเจอ แล้วเธอจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่เหยาก็เข้าใจขึ้นมาทันที “โอเค เธอจะมาถึงไห่เฉิงประมานกี่โมง ผมจะส่งคนไปรับ”
ไป๋เสว่เอ๋อกระซิบตอบ “อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงค่ะ ลุงคนขับบอกว่าจะส่งพวกเราที่สถานีขนส่ง”
“ถึงตอนนั้นผมจะให้คนไปรับพวกเธอนะ แบบนี้ผมก็จะสบายใจด้วย”
“โอคค่ะ”
หลังจากวางสาย ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ไม่นานนัก ความเหน็ดเหนื่อยและความง่วงก็หายไปทันที
จู่ๆไป๋เสว่เอ๋อนึกถึงตอนที่เจอเผยลี่เชินที่เมืองไห่เฉิง เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
หกปีที่แล้ว เธอกับเผยลี่เชินหากันไปมาราวกับเล่นเกมส์แมวจับหนูด้วยกัน ผ่านมาหกปี พวกเขายังคงคลาดกันไปมา ไม่จบไม่สิ้น
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไป๋เสว่เอ๋อก้มหน้าลง มองดูห้าวเจ๋อน้อยที่หลับอยู่ในอ้อมอก หน้าตาดูอ่อนโยนจิ้มลิ้ม
อย่างน้อย ยังโชคดีที่มีเจ๋อน้อยอยู่ข้างกาย ทำให้เธอรู้สึกว่าความทุ่มเทพยายามทั้งหมดนั้นมีค่า
เหมือนถึงสถานีขนส่ง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว ไป๋เสว่เอ๋ออุ้มห้าวเจ๋อน้อยที่ยังคงนอนหลับอยู่ลงมาจากรถ เดินตรงออกมาข้างนอก มองหารถที่ลู่เหยาให้มารับพวกเธอ
ทันใดนั้น มีรถสีดำคันหนึ่งเปิดไฟกระพริบสองครั้ง ไป๋เสว่เอ๋อรู้ทันที จึงรีบเดินเข้าไป
เมื่อขึ้นไปบนรถ คนขับรถกลับไม่ใช่ลุงอู๋ที่เธอคุ้นเคย แต่กลับเป็นผู้ชายที่ดูจิตใจดีอีกคนหนึ่ง
เมื่อเห็นไป๋เสว่มองมาที่เขาอยู่หลายครั้ง ผู้ชายคนนั้นจึงยิ้มให้เธอ “วันนี้ลุงอู๋ติดธุระ ประธานลู่ก็เลยให้ผมมารับคุณครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อจึงถอนหายใจโล่งอก ความกระวนกระวายใจหายไปทันที “ลำบากคุณเลยนะคะ”
“ไม่ลำบากเลยครับ”
ผู้ชายคนนั้นยิ้ม และขับรถออกไป
ไป๋เสว่เอ๋อเงยหน้ามองออกไปชมวิวนอกหน้าต่าง แสงไฟและต้นไม้พัดผ่านไปมากมาย เธอหาว เริ่มรู้สึกง่วงนอน
เหนื่อยมาทั้งวันทั้งยังผ่านความรู้สึกกังวลกระวนกระวายใจ ในที่สุดเธอก็ถอนหายใจโล่งอกได้ จึงรู้สึกหมดแรงเป็นธรรมดา
ไป๋เสว่เอ๋ออุ้มห้าวเจ๋อน้อย พลางงีบหลับ จากนั้นก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ รถก็หยุดจอดลง
ไป๋เสว่เอ๋อค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นรถจอดอยู่หน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่ง เธอถามขึ้นด้วยความสงสัย “ที่นี่ที่ไหน?”
ผู้ชายคนนั้นตอบกลับ “ประธานลู่จัดเตรียมบ้านหลังนี้ให้คุณพักก่อนครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อไม่ได้คิดอะไรมาก อุ้มห้าวเจ๋อน้อยลงจากรถ ผู้ชายคนนั้นลงจากรถตามไปยกสัมภาระหลังรถไปส่งให้ที่ห้องรับแขก
เมื่อเห็นสีเหลืองนวลที่ตกแต่งภายในห้อง ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที เธอกำลังจะอุ้มห้าวเจ๋อน้อยไปพักที่ห้องนอน มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นดังขึ้น
เมื่อหยิบออกมาดู เห็นเป็นเบอร์ของลู่เหยาโทรมา ไป๋เสว่เอ๋อกดรับสาย พูดขึ้น “ลู่เหยา พวกเราถึงบ้านแล้วนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“เสว่เอ๋อ! นี่เธออยู่ที่ไหน? ลุงอู๋รออยู่ที่สถานีขนส่งจนถึงตอนนนี้ เขายังไม่เห็นเธอเลย!”
คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าผ่ามาที่ตัวเธอ ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกตะลึงขึ้นมาทันที เธอตกใจจนหันหลังไปมองผู้ชายคนนั้นที่ยืนอยู่ห่างไปไม่ไกล
“นาย…นายเป็นใคร!”