สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 382

ตอนที่ 382

ตอนที่ 382 ติดคำอธิบายกับเธอไว้

กู้หลี่เหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นเจียงหวั่นหวั่นร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา เขารู้สึกไม่ดี จึงขมวดคิ้วขึ้น เดินเข้าไปใกล้

“นี่! ให้ผมช่วยคิดหาวิธีหน่อยไหม?”

“นายจะไปมีวิธีอะไรได้!” เจียงหวั่นหวั่นซ้ำน้ำตาที่ขอบตา “ถ้าไม่ได้เป็นเพราะนาย เรื่องคงไม่กลายเป็นแบบนี้….”

ได้ยินเช่นนั้น กู้หลี่เหลียงยิ้มมุมปาก “เหมือนจะ…ใช่”

เขาเงยหน้าเหลือบมองไปที่ประตูตึกออฟฟิศตระกูลเผย เมื่อครู่เผยลี่เชินอุ้มห้าวเจ๋อน้อยเข้าไปด้านใน ถ้าเดาไม่ผิด เขาคงไปที่ล็อบบี้หรือห้องยามรักษาความปลอดภัยชั้นหนึ่ง

มองดูเจียงหวั่นหวั่นก้มหน้าร้องไห้สะอื้น กู้หลี่เหลียงยื่นมือออกแตะแขนของเธอ “เจ้าโง่ เรื่องสถานะของเด็กน้อยคนนั้น ฉันไม่มีทางพูดออกมาแน่นอน แต่เผยลี่เชินจะเดาถูกรึเปล่าก็โทษผมไม่ได้นะ แต่ที่แน่ใจได้ก็คือ ถ้าเผยลี่เชินไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เขาก็จะพาเด็กคนนั้นไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยหรือล็อบบี้ชั้นหนึ่ง รอให้เขาไปก่อน พวกเราค่อยไปหาเด็กน้อยกัน ไม่จำเป็นต้องมาน้องร้องไห้ตรงนี้หรอก”

เมื่อได้ยินกู้หลี่เหลียงพูดขึ้นเช่นนั้น เจียงหวั่นหวั่นตกใจตะลึง หยุดร้องไห้ หันไปถามเขาด้วยความสงสัย “จริงเหรอ?”

“ฉันจะโกหกเธอทำไมอีกล่ะ?” กูหลี่เหลียงขำออกมา “ขอเตือนไว้ก่อนนะ ห้ามให้เผยลี่เชินเห็นว่าเธอไปรับเด็กคนนั้น ไม่อย่างนั้นเขาต้องทายถูกแน่นอน”

เมื่อพูดจบ กู้หลี่เหลียงหันหลังเดินออกไปทันที

เจียงหวั่นหวั่นเช็ดคราบน้ำตา วิธีที่กู้หลี่เหลียงบอก มีความเป็นไปได้ เธอค่อยๆเดินตามเขาไปที่หน้าประตู

เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว เธอรู้สึกผิดขึ้นมา หยิบมือถือขึ้นรีบโทรหาไป๋เสว่เอ๋อ…..

ในขณะเดียวกัน ที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่ง เผยลี่เชินนั่งอยู่บนโซฟา มองดูเด็กน้อยด้วยความใจจดใจจ่อ

ห้าวเจ๋อน้อยดื่มน้ำเข้าไปจนหมดแก้ว หลังจากที่วางแก้วลง เขาหันไปมองเผยลี่เชิน ถามขึ้นด้วยความตั้งใจ “คุณพ่อ ทำไมพวกเขาถึงเรียนคุณพ่อว่าข้าวโอ๊ตล่ะ?”

“ข้าวโอ๊ต?” เผยลี่เชินงงไปชั่วขณะ “ข้าวโอ๊ตอะไรเหรอ?”

ฉีเฟิงที่นั่งอยู่ด้านข้างกลั้นขำไม่ได้ หัวเราะออกมา “ที่เขาพูดคงไม่ใช่ชื่อของประธานเผยหรอกใช่ไหมครับ?”

ได้ยินเช่นนั้น เผยลี่เชินยักคิ้วหันไปหาห้าวเจ๋อน้อย ยิ้มมุมปากพูดขึ้น “หนูชื่ออะไร?”

ห้าวเจ๋อน้อยตอบอย่างหนักแน่นมั่นใจ “ผมชื่อเจ๋อน้อย อายุห้าขวบครับ”

เมื่อได้ฟังอายุของเขา เผยลี่เชินนิ่งไปทันที ทันใดนั้นเขาก็คิดคำนวณเวลาที่ห่างกับไป๋เสว่เอ๋อเป็นวลาหกปีพอดี ถ้าเธอยังอยู่กับเขา อาจจะเป็นไปได้ที่พวกเขาคงมีลูกอายุสี่ห้าขวบด้วยกัน….

“คุณพ่อ แม้ว่าผมจะยอมรับให้คุณเป็นพ่อ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความเห็นของแม่ อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของแม่ ถ้าพ่อสามารถทำให้แม่มีความสุขได้ ผมก็จะยอมรับให้คุณเป็น….”

ได้ฟังเด็กน้อยพูดจาเจื้อยแจ้วด้วยความตั้งใจไม่หยุด เผยลี่เชินยิ้มอย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

อยู่ต่อหน้าเด็กน้อยที่จู่ๆโผล่มาเรียกเขาว่าพ่อ เขากลับไม่รู้สึกรำคาญหรือรังเกียจ แต่เขาไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองมากนัก

ฉีเฟิงมองดูเวลา เดินเข้าไปกระซิบเตือนเผยลี่เชิน “ประธานเผย ใกล้ถึงเวลาแล้วครับ”

เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น พยักหน้า หันหน้ามองไปที่ห้าวเจ๋อน้อย ยกมือขึ้นลูบหัวเขา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “โอเคนะเจ๋อน้อย ผมจะให้คุณลุงยามอยู่รอแม่ของหนูเป็นเพื่อนที่นี่ เป็นเด็กดีนะ อย่าซนล่ะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกไป

ห้าวเจ๋อน้อยลุกขึ้นยืน พูดขึ้น “คุณพ่อ…”

เผยลี่เชินลังเลสักพัก แต่สุดท้ายเขาก็ขมวดคิ้ว รีบเดินออกจากล็อบบี้

ห้าวเจ๋อน้อยหยิบรูปในกระเป๋าเสื้อออกมา ถือรูปวิ่งตามเขาไป “คุณพ่อ พ่อยังไม่ได้ดูรูปถ่าย…”

แต่เผยลี่เชินกับฉีเฟิงเดินออกไปก่อนแล้ว ไม่แม้แต่หันหลังกลับมา กลับเดินออกไปไกลมากขึ้น

คุณลุงยามยื่นมืออกมาจูงห้าวเจ๋อน้อย พูดปลอบ “เด็กน้อย อย่าวิ่งซุกซนสิ พวกเรานั่งคอยแม่ตรงนี้นะ….”

เดินผ่านทางเดินไป เผยลี่เชินนึกถึงคำพูดที่ห้าวเจ๋อน้อยพูดขึ้นเมื่อครู่ “คุณพ่อ” ไม่รู้ทำไมในใจเขาถึงรู้สึกแปลกๆ

เมื่อเดินใกล้ถึงประตู เขาหันมาทางด้านข้าง กำชับฉีเฟิง “อย่าลืมติดต่อไปที่ยาม สอบถามว่าเด็กคนนั้นหาแม่เจอแล้วยัง”

“รับทราบครับ”

ในขณะเดียวกันนั้น มีผู้หญิงสวมชุดกันลมสีดำตัวใหญ่ พร้อมหมวกและหน้ากากอนามัยค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า เธอก้มหน้าเล็กน้อย มองใบหน้าไม่ชัดเขน

ไป๋เสว่เอ๋อก้มหน้าลง เหลือบไปเห็นเผยลี่เชินที่เดินตัวเชิดตรงอยู่ด้านข้าง เธอกลัวจนกำหมัดขึ้นแน่น

เมื่อเห็นว่าฝ่ายชายไม่มีทีท่าหยุดสังเกตเห็นเธอ ใจที่เต้นรัวจนเกือบจะช็อกค่อยๆผ่อนลงทันที

เมื่อแน่ใจว่าเผยลี่เชินเดินออกไปไกลแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อจึงเงยหน้าขึ้น รีบเดินตรงไปที่ล็อบบี้

เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก ถ้าเมื่อครู่ไม่เห็นเผยลี่เชินกับฉีเฟิง เธอคงไม่ตั้งใจเปลี่ยนท่าทางการเดินและความเร็วในการเดิน

รีบเดินตรงไปที่ประตูล็อบบี้ ไป๋เสว่เอ๋อผลักประตูเข้าไป เห็นห้าวเจ๋อน้อยนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีที่ผิดหวัง เธอรีบเดินเข้าไป “เจ๋อน้อย!”

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้น ห้าวเจ๋อน้อยตกใจตะลึง “คุณแม่?”

“ทำไมลูกมาอยู่ที่นี่ได้?” ไป๋เสว่เอ๋อรีบเดินเข้าไปอุ้มห้าวเจ๋อน้อยมาไว้ในอ้อมอก “แม่เป็นห่วงลูกมากเลยรู้ไหม!”

“แม่…ผมไม่เป็นอะไร” ห้าวเจ๋อน้อยกอดคอแม่ไว้แน่น คางน้อยๆวางลงบนไหล่ของไป๋เสว่เอ๋อ แต่น้ำเสียงกลับดูผิดหวัง

ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจ ลูบไปที่หลังของห้าวเจ๋อน้อยเบาๆ พูดปลอบด้วยเสียงแผ่วเบา “เดี๋ยวแม่พากลับบ้านนะ”

ยามที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ลูกกันจริง จึงไม่พูดอะไรมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองไป๋เสว่เอ๋ออยู่หลายครั้ง แต่ไป๋เสว่เอ๋อใส่หมวกกับหน้ากากอนามัย บดบังใบหน้าอย่างมิดชิด มองได้ไม่ชัดเจนแน่นอน

ไป๋เสว่เอ๋อโน้มตัวขอบคุณลุงยาม “ลำบากคุณเลยนะคะ ฉันไม่สบาย ขอไม่ถอดหมวกแล้วกันนะคะ ขอบคุณที่ดูแลให้มากๆเลยค่ะ ฉันขออนุญาตพาลูกกลับก่อนนะคะ”

เมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อพูดจาดี ลุงยามก็ไม่พูดอะไรต่อ พยักหน้า“ไม่ลำบากเลย”

ไป๋เสว่เอ๋ออุ้มห้าวเจ๋อน้อยออกไปจากล็อบบี้ แต่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า มีรูปอันยับเยินตกอยู่ที่มุมโซฟา คงเป็นเพราะเมื่อครู่ห้าวเจ๋อน้อยไม่ทันระวังจึงเธอออกมาจากกระเป๋า

ไป๋เสว่เอ๋ออุ้มห้าวเจ๋อน้อยออกจากตึก มุ่งตรงขึ้นรถไป เธอจึงจะโล่งใจขึ้นมา

เจียงหวั่นหวั่นนั่งอยู่บนรถด้วยความกังวลใจ เมื่อเห็นพวกเขากลับออกมา เธอทั้งดีใจทั้งตื่นเต้น ลืมบอกคนขับไปชั่วขณะ “คุณลุงออกรถด่วนเลยค่ะ!”

รถเคลื่อนตัวออกไป ไป๋เสว่เอ๋อถอดหมวกและเสื้อคลุมสีดำออกมา ส่งให้คนขับรถด้านหน้า “ขอบคุณคุณลุงมากเลยนะคะ”

คนขับรถยื่นมือรับเสื้อ “ไม่เป็นไรครับ!”

หลังจากที่ขับรถผ่านเส้นทางมากมาย ไป๋เสว่เอ๋อจึงจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เธอเงยหน้ามองไปที่เจียงหวั่นหวั่นที่กำลังพูดคุยกับห้าวเจ๋อน้อย พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “หวั่นหวั่น วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ระหว่างทางที่เธอส่งแม่กลับบ้าน จู่ๆก็ได้รับสายจากเจียงหวั่นหวั่น เมื่อได้ยินว่าห้าวเจ๋อน้อยอยู่ในมือของเผยลี่เชิน เธอรีบตรงมาหาหาลูกโดยไม่คิดชีวิต!

ยังดีที่เรื่องทุกอย่างไม่ได้แย่ขนาดนั้น อย่างน้อยเผยลี่เชินก็ยังไม่รู้สถานะของห้าวเจ๋อน้อย

แต่ทว่า เจียงหวั่นหวั่นติดคำอธิบายกับเธอไว้อยู่

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท