สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 415

ตอนที่ 415

ตอนที่ 415 ถูกจับเป็นตัวประกัน

เมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าเพื่อดื่มของเหลวแล้ว เขาถึงได้รู้สึกโล่งอกแล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

เขาเดินไปที่ระเบียงทางเดิน จากนั้นวางถาดลงมองไปรอบๆ แล้วเดินไปเสาที่สี่ของระเบียงทางเดิน

เห็นจินจิงจิงยืนอยู่ด้านหลังเสา เขารีบเปิดปากทันที “ทุกอย่างเรียบร้อยดี”

จินจิงจิงลดเสียงต่ำถามว่า “นายแน่ใจนะว่าเห็นเธอดื่มแล้ว?”

บริกรพยักหน้า “ครับ ผมเห็นกับตาว่าเธอดื่มแล้ว”

“ดี” จินจิงจิงสูดหายใจลึก “ห้องที่ให้เธอหาเตรียมไว้แล้วใช่ไหม?”

บริการยื่นคีย์การ์ดให้ “ชั้นสองห้องแรกครับ นี่ครับคีย์การ์ด”

จินจิงจิงกวาดตามองดูคีย์การ์ด แต่ไม่ได้รับมา เพียงแต่ถามว่า “โอเค จากนี้ทำอย่างไรต่อนายรู้ชัดเจนใช่ไหม?”

บริการพยักหน้า พูดเสียงต่ำ “ชัดเจนครับ”

จินจิงจิงโบกมือ “เอาล่ะ ไปได้ ฉันจะคอยดูนายตลอดเวลา หากมีอะไรนอกเหนือจากนี้ฉันจะช่วยนายเอง”

เมื่อเห็นบริกรเดินจากไปแล้ว สายตาของจินจิงจิงปรากฏรอยยิ้มเย็นชาดุจน้ำแข็ง รออีกไม่นาน เธอก็จะทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้อับอายต่อหน้าผู้คน

ภายในห้องโถงงานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปด้วยความครึกครื้นสนุกสนาน ทุกคนต่างดื่มต่างพูดคุย ทันใดนั้นก็มีเสียง “ชั๊ก” แล้วไฟทั้งหมดก็ดับลง

วินาทีต่อมามีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ผู้คนตื่นตระหนกไปหมด

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังกินอาหารอยู่ คิดจะไปหาเผยลี่เชิน แต่ใครจะรู้จู่ๆ เกิดไฟดับขึ้นมากะทันหัน

ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่วพร้อมเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตกใจจนเธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นมีแรงจากด้านหลังเข้าโจมตี ต่อจากนั้นมีคนจากด้านหลังใช้ผ้าโป๊ะที่จมูกของเธอ

“อู——”

ลมหายใจที่อันตรายแผ่ปกคลุมตัวเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ทันได้โต้ตอบก็ถูกลากไปด้านหลังด้วยแรงอันมหาศาลที่มาจากด้านหลัง

เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ถูกอุดปากไว้ นอกจากเสียง “อูอู”แล้ว ก็ไม่สามารถออกเสียงอื่นใดได้เลย

อีกทั้งตอนที่เธอรับโทรศัพท์ ก็ออกมารับในที่ที่มีคนน้อยมาก แถมยังค่อนข้างมืด มีเพียงสถานที่ที่คนอยู่รวมกันถึงมีแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือ แต่ตรงที่ที่เธอยืนอยู่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากคนอื่นได้!

ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่รู้ว่าตัวเองถูกดึงมาที่ไหน เธอยังคงได้ยินเสียงของผู้คนที่อยู่ห่างไกลจากตัวเธอ จนทำให้ความกลัวภายในจิตใจเพิ่มมากขึ้น

เธอรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีพละกำลังมากแม้ว่าเธอจะดิ้นรนอย่างหนักก็ไม่ได้ช่วยอะไร ทันใดนั้นเธอถูกเตะที่หน้าแข้ง ไป๋เสว่เอ๋อร์ซึ่งสวมรองเท้าส้นสูง เคลื่อนไหวไม่สะดวก ตอนนี้ยังถูกเตะจนตัวงอไม่สามารถขัดขืนได้

ถูกกระชากลากถูไปถึงชั้นสอง ไป๋เสว่เอ๋อร์พยายามดิ้นรน แต่ทันใดนั้นเกิดเอวกระตึกขื้นมา เนื่องจากมีสิ่งของแหลมคมทิ่มอยู่บริเวณนั้น “อย่าดิ้นไปดิ้นมา ไม่อย่างนั้นจะแทงให้ตายเลย!”

ขณะนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเย็นไปทั้งตัว ขนลุกพร้อมกับเหงื่อที่ปรากฏทั่วตัว

หกปีที่ผ่านมาเธอคุ้นเคยกับชีวิตที่เรียบง่ายมั่นคง ไม่เคยทะเลาะกับคนอื่นเลย แต่มาตอนนี้เธอกลับถูกนักเลงที่ไหนไม่รู้เอามีดจ่อตรงเอวของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร

ชายคนนั้นเห็นเธอไม่ขยับ ก็ดึงเธออย่างแรงแล้วเดินไปข้างๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์อาศัยแสงไฟสีเขียวส่องสว่างอยู่ที่กำแพง ทำให้รู้ว่านี่คือห้อง

เกิดความไม่สงบภายในจิตใจอย่างรุนแรง ไป๋เสว่เอ๋อร์พอเดาออกว่าเขาจะทำอะไร เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวให้มาก

เมื่อเดินมาถึงประตูห้องแรก ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกว่ามือที่ชายปิดปากเธอไว้ค่อยๆผ่อนคลาย และเขายังเก็บมีดปลายเล็กลงไปด้วย ดูเหมือนเขาจะถืออะไรบางอย่าง

ในขณะนั้นเองไป๋เสว่เอ๋อร์ปากกว้างกัดที่มือของชายคนนั้น

มีเสียงมาจากด้านหลัง วินาทีต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ใช้แรงผลักเขา

“แม่ง!”

เสียงคำรามของชายคนนั้นดังขึ้นในความมืด ไป๋เสว่เอ๋อร์วิ่งชนวิ่งสะดุดไปข้างหน้า วิ่งจนทิ้งระยะห่างได้สักหน่อย ถึงได้รู้ว่าควรจะหลบอยู่ในห้อง

ในขณะนี้ เสียง “ชั๊ก” ดังขึ้นอีกครั้ง แล้วแสงไฟก็สว่างขึ้นอีกครั้ง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึง หันกลับไปมองทางที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสักครู่ ตอนที่เห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน เธอแทบจะตกตะลึง

นั่นคือบริกรที่พึ่งจะส่งเหล้าให้เธอดื่มเมื่อสักครู่!

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ทันได้ตอบโต้ ทันใดนั้นผมและหนังศีรษะถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง

เสียงเรียกด้วยความเจ็บปวด ไป๋เสว่เอ๋อร์หันหลังกลับมา เมื่อเห็นเป็นจินจิงจิง ทำให้ตะลึงอีกครั้ง “เธอ….”

“เพิง!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะ จนรู้สึกหน้ามืดมึนงงและล้มลงกับพื้น

จินจิงจิงทิ้งถาดไม้ที่อยู่ในมือ สายตาแสดงถึงความโกรธแค้นอย่าดุเดือด “ไป๋เสว่เอ๋อร์ วันนี้เธอหนีไม่รอดแน่”

ขณะที่พูด เธอนึกอะไรออกในทันทีทันใด รีบหันไปมองบริกรที่อยู่อีกด้าน “ยังไม่รับเข้ามาช่วยอีก!”

ทันใดนั้นบริกรรู้สึกลังเล มองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงระเบียงทางเดินด้วยความตื่นกลัว พูดด้วยความประหม่า “ไฟมาแล้ว กล้องวงจรปิดจะรีสตาร์ทและมันจะทำงานอีกครั้ง ฉันไม่อยู่ที่นี่แล้ว…”

เขาพูดจบก็ทิ้งคีย์การ์ดไว้ แล้วรีบหันตัวกลับหนีไป

“นาย!” จินจิงจิงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “โธ่..สุนัขรับใช้ ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด!”

จินจิงจิงกัดฟันเมื่อเห็นหญิงสาวที่ล้มลงอยู่ที่พื้น ก้มตัวลากเธอไปยังห้องแรก

บริกรบอกเธอว่าหลังจากที่ไฟถูกตัด กล้องวงจรปิดที่ระเบียงทางเดินต้องรีสตาร์ทถึงจะเริ่มทำงานใหม่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงมีเวลาประมาณห้านาทีในช่วงกล้องรีสตาร์ท ดังนั้นภายในห้านาทีเธอต้องลากไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไปในห้องให้ได้!

หลังจากพยายามลากคนไปที่ประตูห้อง จินจิงจิงหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา ขณะกำลังเปิดประตู ทันใดนั้นเองไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นอนอยู่ที่พื้นเริ่มขยับตัว

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันระงับความเจ็บปวดที่บริเวณศีรษะ เธอสูดหายใจ ค่อยลุกขึ้นจากพื้น

เธอไม่รู้ว่าจินจิงจิงมีจุดประสงค์อะไรที่ทำเช่นนี้ แต่ที่เธอรู้ชัดเจนคือว่าเธอต้องไม่เข้าไปที่ห้องนี้โดยเด็ดขาด!

เมื่อเห็นจินจิงจิงเปิดประตู กำลังจะหันกลับมา เธอกัดฟันอีกครั้งใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักจินจิงจิงจากด้านหลังให้เข้าไปในห้อง

จินจิงจิงยืนไม่มั่นคงจึงล้มลงกับพื้นพร้อมกับส่งเสียงร้อง ยังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ ก็ได้ยินเสียงจากด้านหลังตัวเอง “ปัง” แล้วประตูก็ถูกปิดลง!

เธอตอบโต้อย่างรุนแรง ไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย รีบลุกขึ้นจากพื้น พยายามกดและดึงประตูให้เปิดออก

ไป๋เสว่เอ๋อร์ซึ่งอยู่ด้านนอกประตู ใช้มือทั้งสองข้างดึงประตูไว้

“ไป๋เสว่เอ๋อร์! ปล่อยฉันนะ!” จินจิงจิงเปิดประตูไม่ได้ ก็เข้าใจในทันทีว่าด้านนอกมีคนดึงประตูไว้ เธอยกมือขึ้นทุบประตู หันกลับมามองภายในห้องด้วยความกังวล

นี่คือห้องชุด เมื่อเข้ามาจากประตูจะเป็นห้องนั่งเล่น ภายในเป็นห้องนอน ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นไม่มีใคร แต่จินจิงจิงกลับขนลุกไปทั้งตัว เพราะทั้งหมดเธอเป็นจัดการเอง เธอจึงรู้ดีว่าถ้าไม่ออกไปจากห้องนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

บางทีเธออาจเคลื่อนไหวมากเกินไป จึงปรากฏเสียงฝีเท้าภายในห้องนอน จากนั้นชายร่างใหญ่เปลือยกายท่อนบนปรากฏขึ้นที่ประตู

จินจิงจิงมึนงงพยายามใช้แรงถึงสองสามครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถเปิดประตูได้ เธอมองไปยังชายที่เข้ามาใกล้เธอ ยกมือชี้ไปที่จมูกของเขาออกคำสั่งว่า “นายกลับไปที่ห้องเลยนะ!”

ชายคนนั้นได้ยินถึงกับหัวเราะเสียงดัง “แม่สาวงาม ฉันรอเธอมานานแล้ว!”

ขณะพูดเขาก็กระโจนเข้าใส่จินจิงจิงโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท