ตอนที่ 412 พบคุณเวิน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ได้ยินห้าวเจ๋อน้อยทักทายเผยลี่เชินแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะตะลึง
เผยลี่เชินยิ้มมุมปาก ก้มตัวอุ้มห้าวเจ๋อน้อยขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเจ๋อก็หล่อเหมือนกัน!”
เห็นทั้งสองคนอยู่ในโหมดเปิดเจรจาทางธุรกิจ ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ครั้งนี้เธอไม่คิดจะแต่งกายให้ดูฉูดฉาดเกินไป เพียงแต่ให้เหมาะสมกับเผยลี่เชินเท่านั้น จึงสวมชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มมีผ้าโปร่งสีน้ำเงินเข้มพันรอบคอ กระโปรงเป็นแบบเรียบๆ ไม่มีเครื่องประดับตกแต่ง ทุกอย่างเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
ไป๋เสว่เอ๋อร์สวมกระโปรงตัวนี้ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ขณะที่เธอเดินออกจากห้อง ห้าวเจ๋อน้อยต้องประหลาดใจอีกครั้ง
เด็กน้อยพูดอย่างจริงจัง “แม่ แม่เหมือนนางฟ้าเลย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร ฉีเฟิงเดินเข้ามาเตือนเผยลี่เชิน “ประธานเผย ควรไปถึงงานเลี้ยงก่อนเวลานะครับ พวกเราเตรียมพร้อมออกเดินแล้วครับ”
เผยลี่เชินพยักหน้าเล็กน้อย แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ เขาพูดเบาๆ “นายไปก่อนเถอะ เดี๋ยวอีกสักครู่พวกเราจะตามไป”
ฉีเฟิงพยักหน้า เดินจากไป
เห็นห้าวเจ๋อน้อยเอาแต่ดึงไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ยอมปล่อย เผยลี่เชินเดินไปข้างหน้าแล้วดึงมือไป๋เสว่เอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม กำฝ่ามือตัวเองไว้แน่น
ไป๋เสว่เอ๋อร์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกอันอบอุ่นอ่อนโยนที่ถูกส่งถ่ายจากมือเขามาสู่มือเธอ ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ก็เห็นเผยลี่เชินก้มศีรษะพูดกับห้าวเจ๋อน้อยว่า “เมื่อกี้ก็บอกแล้วไม่ใช่หรือ? คืนนี้เธอเป็นของฉัน เธอไม่ควรบิดพลิ้ว
ห้าวเจ๋อน้อยเบ้ปากท่าทางไม่ค่อยพอใจ แต่สุดท้ายก็ต้องพยักหน้า “ได้ งั้นพ่อก็ต้องรับปากหนูว่าจะดูแลแม่ดีๆ”
เผยลี่เชินยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้ว”
เห็นผู้ชายทั้งสองคนเจรจาต่อรองกันอย่างจริงจัง ไป๋เสว่เออร์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
ที่แท้การได้รับความรักจากผู้ชายทั้งสองคนในเวลาเดียวกันมันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง
ขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ ทั้งสองคนก็บรรลุข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว เผยลี่เชินกำมือไป๋เสว่เอ๋อร์แน่น เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไปเถอะ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเขาดึงตัวออกไปขึ้นรถ ขณะที่เธอกำลังขึ้นรถถึงได้พบว่ารองเท้าส้นสูงของเธอหลุดออกมา
เธอสวมรองเท้าส้นสูงนี้เพราะมันเหมาะกับเสื้อผ้าชุดนี้ แต่มันมีขนาดใหญ่จึงสวมไม่ถนัด
ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังสวมรองเท้าให้ดี ทันใดนั้นมีมือขนาดใหญ่ยื่นมาที่เท้าของเธอ “อย่าขยับ ฉันช่วยเธอเอง”
ขณะพูดเผยลี่เชินยกมือขึ้นมือเพื่อยกเท้าของเธอขึ้น วางไว้บนตักของตัวเอง จับข้อเท้าของเธอด้วยความอ่อนโยนจากนั้นสวมรองเท้าให้เธอ
มือของชายหนุ่มทั้งร้อนทั้งใหญ่จนเกือบจะห่อข้อเท้าของเธอได้อย่างมิดชิด เขากำลังช่วยเธอใส่รองเท้าส้นสูง สายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงที่ปรากฏอยู่บนหลังเท้าของเธอจนเขาอดไม่ได้ที่จะตะลึง
จากนั้นเขาเงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมคำถาม “รองเท้าคู่นี้ไม่เหมาะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะเห็น
เธอพูดเบา “ใหญ่กว่านิดหน่อย จึงหลวมไม่เหมาะกับเท้า แต่ก็ใส่ได้”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว ใบหน้าแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย “แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก?”
ไม่รอคำตอบใดๆ จากเธอ เขาเงยหน้าไปทางคนขับเจิงหงที่อยู่ด้านหน้า “แวะร้านรองเท้าที่อยู่แถวนี้ก่อน”
ฉีเฟิงพูดเตือนขึ้นมา “ประธานเผย ใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานแล้วนะครับ หากยังยืดเยื้อจะทำให้ไปสายได้นะครับ”
“นายไม่ต้องบอกฉันก็รู้แล้ว” เผยลี่เชินขมวดคิ้ว “ไปร้านรองเท้าก่อน”
เรื่องที่เขาตัดสินใจทำแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้เห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของชายหนุ่ม รู้สึกหลงเสน่ห์เขาอยู่สักพัก
เผยลี่เชินหันมาสบสายตาเธอพอดีด้วยความอบอุ่น ถามเบาๆ “แอบดูฉันทำไม?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หน้าแดงรีบละสายตาจากเขาทันที “ใครแอบมองคุณ อย่ามามั่ว!”
เผยลี่เชินยิ้ม ใช้มือที่อยู่ข้อเท้าของเธอลูบที่ข้อเท้าของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงคลุมเครือ “ยังไม่ยอมรับ?”
ได้ฟังคำพูดง่ายๆ แต่เสียดแทงจิตใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงกับหน้าแดง เธอยกเท้าต้องการดึงเท้ากลับมาแต่กลับถูกมือของเขากดไว้ไม่ให้เคลื่อนไหวไปไหน
เผยลี่เชินหยุดมองอยู่ที่กระโปรงของหญิงสาวด้วยสายตาแอบดู เขาเงยหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิ “ใส่กระโปรงตัวนี้คิดจะทำอะไร? ตั้งใจจะยั่วยวนฉันหรือไง?
ผิวขาวนวลผ่องของหญิงสาวเป็นประกายสาดส่องนัยน์ตาของเขา ถ้าไม่ได้เจตนาแล้วมันคืออะไร?
ไป๋เสว่เอ๋อร์โต้ตอบ “พูดบ้าอะไร?”
ขณะกำลังพูดจบ เผยลี่เชินรีบเข้าไปหาเธอโดยทันที
ที่ว่างภายในรถมีจำกัด ถ้าพวกเขาเป็นแบบนี้ ก็จะยิ่งรู้สึกคับแคบมากขึ้น กลิ่นน้ำหอมในกายของชายหนุ่ม ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์สับสนไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นรถหยุดลง เสียงของฉีเฟิงดังขึ้นมา “ประธานเผย ถึงร้านรองเท้าแล้วครับ”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้นจึงค่อยๆ ปล่อยไป๋เสว่เอ๋อร์ แต่สายตาที่มีรอยยิ้มยังคงไม่ลดจางลงไป
หลังจากที่ทั้งสองไปซื้อรองเท้าที่เหมาะสมกับเท้าของเธอ จึงออกเดินทางไปงานเลี้ยงอีกครั้ง
ผ่านไปสี่สิบนาทีในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เดินผ่านสนามหญ้าสีเขียวก็จะมองเห็นน้ำพุสีขาว
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามเผยลี่เชินลงจากรถ มองดูผู้คนที่มาร่วมมากันอย่างคึกคัก จึงพอคาดเดาได้ว่างานเลี้ยงในคืนนี้ไม่ใช่เล็กๆ
เมื่อเดินเข้าไปในงานด้วยกัน ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นชายวัยกลางคนไว้เครา สวมชุดสูท อายุเขาน่าจะสักประมาณสี่สิบกว่าๆ ร่างกายและผิวพรรณได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของผู้ชายวัยกลางคนที่บอกไม่ถูก
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินใกล้เผยลี่เชินมากขึ้น “นั่นใช่คุณเวินหรือเปล่า?”
เผยลี่เชินพูดอย่างเรียบๆ “อืม เวินซิวหวี บุคคลผู้ทรงอิทธิพล เธอแค่ไปทักทายเขาก็พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรมาก”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้ารับทราบ คล้องแขนชายหนุ่มเดินเข้าไปในงานพร้อมกัน
เป็นจังหวะพอดีที่เวินซิวหวีเงยหน้าขึ้นมาทันที มองข้ามใครต่อใครจนมองเห็นเผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์
น่าแปลกคู่ที่เหมาะสมกันเมื่อปรากฏกายให้เห็นตามธรรมชาติสามารถเห็นได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่ออยู่ในกลุ่มฝูงชน
เพียงไม่กี่ก้าวเวินซิวหวิยิ้มและทักทายกับเผยลี่เชิน “ประธานเผย ไม่ได้เจอกันนาน”
เผยลี่เชินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “คุณเวิน ไม่ได้พบกันนานเลย”
คนที่อยู่รอบเวินซิวหวีต่างก็หลีกไปอีกทางไม่อยู่ขัดจังหวะ ในเวลานี้พวกมีฝีมือทั้งหลายพวกเขาไม่สามารถแทรกซึมอะไรได้
“ตอนแรกฉันคิดว่าหากวันไหนมีเวลาว่างจะไปเยี่ยมประธานเผยที่บริษัท แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาพบกันที่นี่เสียก่อน”
เวินซิวหวีส่งยิ้มให้แล้วเหลือบไปเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างเผยลี่เชินด้วยสายตาเป็นประกาย เขาถามด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงนี้คือ….”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มให้เขาพร้อมพยักหน้า พูดเสียงเบาๆ “ฉันชื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ สวัสดีคะ”
“เป็นผู้หญิงสวยอารมณ์จริงๆ” เวินซิวหวีกล่าวชื่นชม อีกทั้งหันหน้าไปทางเผยลี่เชินด้วยสายตาอารมณ์สับสน “ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เผยลี่เชินมีไม่น้อยจริง”
ภาษาแบบนี้พอมาเป็นคำพูดฟังดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอได้คิดมันก็ทำให้คนอดคิดมากไม่ได้
ใบหน้าไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงยิ้มไม่เปลี่ยน แต่ในใจกลับรู้ชัดเจนที่เวินซิวหวีพูดเช่นนี้คือลับหลังเธอเผยลี่เชินมีหญิงอื่นนอกเหนือจากเธอ
แน่นอนเขาไม่รอให้เผยลี่เชินได้พูด เวินซิวหวีหัวเราะพร้อมกับถาม “ประธานเผย ครั้งที่แล้วคุณเหอใช่ไหมที่มากับคุณ?”