ตอนที่ 440 บอกฉันใครคือคนฆ่า
เผยลี่เชินมีสีหน้าลังเลเมื่อได้ยิน เขาก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า วางกล่องกระดาษที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะแล้วพูดว่า “พ่อ ผมซื้อเค้กที่พ่อต้องการมาให้แล้ว”
คุณท่านเผยพยักหน้า เงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อร์ พูดเบาๆ “สาวน้อย เธอเอานี่กลับไปด้วยนะให้เสี่ยวเจ๋อกิน เข้าใจไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า พูดเบาๆ “คะ”
ชายชราไออีกสองสามที ทันใดนั้นโบกมือ พูดเบาๆ “พวกเธอกลับไปเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลก่อนจะพยักหน้าแล้วหยิบกล่องขนมเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงไปด้วย ร่ำลาชายชราหันตัวกลับเดินออกจากห้องวอร์ดไป
ชายชราเงยหน้ามองเผยลี่เชิน ไม่พูดอะไร ได้แต่ส่งสายตาไปทางเขา
เผยลี่เชินเข้าใจในทันที จึงรีบเดินตามออกไป
แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไร แต่ชายชรากลับมองอย่างทะลุปรุโปร่ง เข้าใจทุกอย่างอย่างชัดเจน
เผยลี่เชินรีบเดินตามไป ขวางหน้าเธอไว้พร้อมกับพูดว่า “ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ลังเลยรีบเดินห่างจากเขา “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”
เห็นท่าทางแน่วแน่ของหญิงสาวไม่เปิดโอกาสให้เขาเลยสักนิด เผยลี่เชินจึงได้แต่ขมวดคิ้ว การก้าวเดินไปพูดข้างหน้าไม่ช่วยอะไร เขาจึงคว้าดึงข้อมือของเธอไว้
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกดึงรั้งไว้ให้หยุดก้าว ยังไม่ทันได้ตอบโต้ก็ถูกแรงมหาศาลผลักร่างเข้าหากำแพง เธอเงยหน้ามองดูดวงตาดำขลับของชายหนุ่ม
ดูเหมือนเขาจะใช้ร่างของตัวเองแนบกับร่างของเธอไว้ที่กำแพง ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกันจนจมูกเกือบจะอยู่แนบชิด อีกทั้งเป็นบริเวณทางเดิน แม้ว่าจะมีคนไม่มาก แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างอดไม่ได้ที่จะหันมามองดูพวกเขา
สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์เปลี่ยนไป ลดน้ำเสียงลงต่ำ “ปล่อยฉัน!”
สีหน้าของเผยลี่เชินหม่นหมอง “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอคิดว่าจะหนีพ้นจริงๆ หรือ? คนของฉันไปที่สวนอีเดนแล้ว ถ้าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากยี่สิบนาทีเสี่ยวเจ๋อกับเจียงหวั่นหวั่นก็จะไปถึงน้ำพุที่คฤหาสน์รอเธอที่นั่น”
สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์เปลี่ยนไป มองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่เชื่อ “คุณ…คุณคุกคามฉัน?”
ตอนแรกเธอวางแผนไว้เป็นอย่างดี เมื่อเธอเยี่ยมชายชราเสร็จแล้ว ก็จะกลับไปหาเจียงหวั่นหวั่นที่สวนอีเดน แล้วพาเสี่ยวเจ๋อออกจากที่นี่ตรงไปสนามบินแต่คิดไม่ถึงเผยลี่เชินจะรู้แผนการของพวกเขาเสียก่อน และยังเอาตัวเจียงหวั่นหวั่นกับเสี่ยวเจ๋อไปก่อน!
“นี่ไม่ใช่คุกคาม แต่เป็นเกม” เผยลี่เชินพูดด้วยเสียงเข้ม กระพริบดวงตาเล็กน้อย
เมื่อเห็นชายหนุ่มเป็นแบบนี้ ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์นึกย้อนกลับไปเมื่อหกปีก่อน ตอนที่พวกเขาพึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน เขาก็มีท่าทางแบบนี้ ชัยชนะอยู่ในมือเหมือนตัวเองจะควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันถามกลับ “คุณคิดว่าฉันจะเหมือนเมื่อหกปีก่อนใช่ไหม? เผยลี่เชิน คุณคุกคามฉันไม่ได้หรอก!”
ขณะพูดเธอใช้แรงที่มีอยู่ผลักชายหนุ่มออกไป หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นแจ้งตำรวจโดยไม่ลังเล “ฮัลโหล คุณตำรวจลูกชายของฉันไป๋ห้าวเจ๋อถูกคนจับตัวไป ตอนนี้….”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นข้อมือเหมือนถูกบีบรัด โทรศัพท์มือถือในมือถูกคนแย่งไป เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากดวางสายโทรศัพท์โดยไม่ลังเล ไม่พูดอะไรมากกุมมือของเธอแน่น ดึงเธอเดินไปข้างๆ
“คุณ…คุณจะทำอะไร!” ไป๋เสว่เอ๋อร์หน้าแดงก่ำ ยังไม่ได้ตอบโต้ก็ถูกเผยลี่เชินลากเข้าไปในห้องวอร์ดที่ยังว่างอยู่
ชายหนุ่มขยับตัวด้วยความว่องไวล็อกกุญแจประตูไว้ น้ำเสียงของเขาต่ำขาดๆ หายๆ พูดไม่ชัดเจนด้วยความโกรธ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ตอนนี้ฉันจะบอกกับเธอ เรื่องเมื่อหกปีก่อนคนที่อยากทำร้ายพ่อเธอไม่หยุด ฉันจึงปิดบังไม่บอกอะไรเธอ เพราะกลัวว่าเมื่อเธอรู้ความจริงแล้วเธอจะรับไม่ได้!”
น้ำเสียงของเผยลี่เชินเคร่งเครียด ไม่เหมือนพูดโกหก ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งไป สงบสติอารมณ์ลงในทันที แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นแรง
ทันใดนั้นภายในห้องเงียบลง เผยลี่เชินสบตาไป๋เสว่เอ๋อร์สายตาสองคู่ประสานกัน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่หายใจหอบด้วยความหวาดผวา ความกลัวที่สงบเงียบ
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก ภายในสมองปรากฏคำพูดเมื่อสักครู่ของเขา แล้วพูดอย่างกล้าหาญ “คุณบอกฉันมาว่าใครคือฆาตกร”
สายตาเผยลี่เชินเคร่งเครียด หลังจากนิ่งไปสักครู่ ในที่สุดก็พูดออกมา “หลังจากที่คุณลุงไป๋เกิดเรื่อง ฉันรีบส่งคนไปสืบ สืบได้ความว่าเย่ซิวหรงกับจินจิงจิงจัดหาคน คิดทำร้ายเขา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ….”
สีหน้าไป๋เสว่เอ๋อร์เศร้าสลดเมื่อได้ยิน “คุณพูดว่า….เย่ซิวหรงกับจินจิงจิง?”
เธอไม่คิดว่าสองคนนั้นจะคิดทำร้ายฆ่าพ่อของเธอ
เผยลี่เชินน้ำเสียงเข้ม “ใช่ ตอนนั้นพวกเขาหาคนที่อยู่ในคุกแต่เป็นเพราะพวกนั้นขี้ขลาดไม่กล้า อีกทั้งภายในคุกก็เข้มงวดมาก คนนั้นไม่ได้ลงมือก็หายตัวไป แต่จากนั้นไม่นานก็มาเกิดอุบัติเหตุกับลุงไป๋ คนนั้นเกิดกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะมีคนสงสัยตัวเอง ไม่นานก็ลาออกจากงาน แต่ฆาตกรไม่ใช่เขา”
น้ำเสียงไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นไหวจนยากจะควบคุม “แล้ว…ใครคือฆาตกร?”
ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากที่บอบบาง จากนั้นพูดด้วยเสียงเข้ม “เป็นแม่ของเธอ หวีฮุ่ย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นไปทั้งตัว ดูเหมือนจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว “เป็นไปไม่ได้!”
จะเป็นแม่ของเธอไปได้อย่างไร เธอและพ่ออยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาหลายปี ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้ได้!
ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวถอยหลังไป มองเผยลี่เชินด้วยสายตาตื่นตัว เธอส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เป็นไปไม่ได้ คุณโกหกฉัน!”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วมองไป๋เสว่เอ๋อร์ ความขมขื่นปรากฏขึ้นในใจของเขา
เขาเดาถูกถ้าหากว่าเขาบอกความจริงกับเธอไป เธอต้องไม่เชื่อ เพราะในจิตใต้สำนึกของเธอ บอกเธอว่าแม่เป็นญาติของเธอ ไม่มีทางทำแบบนั้นได้
แต่ความจริงมันตรงกันข้าม
“ฉันเองก็ไม่เชื่อตั้งแต่แรก แต่หลักฐานที่มีอยู่ชี้ชัดไปที่เธอ ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ ดังนั้นจึงให้คนไปจัดการอย่างเรียบร้อยหมดจด ก็เพื่อไม่ให้เธอสามารถหาสาเหตุได้ในภายหลัง”
เผยลี่เชินนิ่งไปสักครู่แล้วพูดต่อ “เพียงแต่ฉันไม่คิดว่า สุดท้ายเธอจะสงสัยในตัวฉัน”
ในใจเขาหวาดกลัว กลัวว่าเมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์รู้เรื่องนี้แล้วจะคิดไม่ตก แต่คิดไม่ถึงเขาจะกลายเป็นแพะรับบาปของคุณแม่ไป๋ที่มองไม่เห็น และบทเรียนและบทลงโทษที่ได้รับทำให้ต้องแยกจากกันถึงหกปี
ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่ายหน้า น้ำตาไหลออกมาจากนัยน์ตา “เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด คุณโกหกฉันแน่ ใช่แน่ๆ”
เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำด้วยน้ำตา หัวใจของเผยลี่เชินเหมือนถูกบีบอัด เขาพูดด้วยเสียงเบาๆ “เธออาจจะไม่เชื่อ แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่เธออยากรู้”
ประโยคนี้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เป็นแนวป้องกันของไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอกัดริมฝีปาก ร่างกายสั่นไหวโดยไม่รู้ตัว
ในสมองปรากฏการกระทำของคุณแม่ไป๋ตลอดหกปีที่ผ่านมา ความทรงจำหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิต ปฏิกิริยาของเธอดูเหมือนว่ามีเส้นที่เชื่อมรายละเอียดทั้งหมดเข้าด้วยกันและชี้ไปที่คำตอบ
หลังจากห้องเงียบสงบ ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองเผยลี่เชินในทันทีพร้อมคำถาม “หลักฐาน คุณมีหลักฐานอะไร?”
เธอพยายามใช้ความฝันที่สวยงามของตัวเองปกป้องหัวใจที่แน่วแน่ครั้งสุดท้าย ความไว้วางใจที่มีฝากไว้ที่แม่
เผยลี่เชินเห็นแบบนี้จึงถอนหายใจยาว “ฉันจะให้ฉีเฟิงส่งให้เธอ”
ไม่นานมีเสียงโทรศัพท์ “ติ๊งต๋อง” ดังขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือโทรศัพท์แต่ไม่กล้าเปิดดู
ถ้าเป็นจริงตามที่เผยลี่เชินบอก ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเธอคือคุณแม่ไป๋ แล้วเธอจะทำอย่างไร?