ตอนที่ 434 ให้เธอกลับตัวขึ้นมาไม่ได้ไปตลอดกาล
เผยลี่เชินรีบเข้าไปในทันที มองเห็นภายในรถว่างเปล่า มีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งวางอยู่บนเบาะที่นั่ง เขาก็มีการตอบสนองกลับคืนมาอย่างกะทันหัน
ฉีเฟิงลองดึงประตูรถให้เปิดออก ก็ดึงไม่ออก “ประธานเผย คนไม่อยู่ คงจะจงใจหลอกล่อพวกเราให้มาที่นี่!”
คิ้วของเผยลี่เชินขมวดเข้าหากันแน่น หันหน้ามองไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านข้าง เอ่ยปากโน้มน้าวขึ้นเบาๆว่า “คนไม่อยู่ที่นี่ พวกเราขึ้นรถก่อน”
ในขณะที่พูด เขากำลังจะยื่นมือออกไปจับมือของไป๋เสว่เอ๋อร์ แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะสัมผัสถูกเธอเท่านั้น มือก็ถูกเธอสะบัดออกไปในทันที
“คุณไปเถอะค่ะ ฉันจะอยู่หา”
ในขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์พูด ก็หมุนตัวไปในทันที เดินไปทางด้านในของนิคมอุตสาหกรรมร้างด้วยความรวดเร็ว
คิ้วของเผยลี่เชินขมวดเข้าหากันแน่นมากยิ่งขึ้น ก้าวขาเดินตามเข้าไป “ที่นี่อันตรายมาก คุณขึ้นรถก่อน ผมให้พวกฉีเฟิงเขาไปหา”
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “สถานการณ์ในตอนนี้ของห้าวเจ๋อน้อยเป็นยังไงฉันก็ยังไม่รู้ คุณจะให้ฉันสบายใจกลับไปได้ยังไงกัน? ตอนนี้รถต่างก็ทิ้งเอาไว้ที่นี่แล้ว พวกเขาจะต้องไปได้ไม่ไกลอย่างแน่นอน!ฉันจะต้องหาเขาให้เจอ!”
ด้านในนิคมอุตสาหกรรมทุกที่ต่างก็คือขยะกับหญ้ารกๆ พื้นผิวขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อยังกองเต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆมากมาย ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวลึกก้าวตื้นเดินเข้าไปด้านใน ร้อนอกร้อนใจจนถึงขีดสุด
หากวันนี้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้นกับห้าวเจ๋อน้อยจริงๆแล้วล่ะก็ เธอคนเดียวจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไงกันล่ะ?
เผยลี่เชินก้าวขาตามขึ้นไปข้างหน้า ยื่นมือจับข้อมือของเธอเอาไว้แน่น “ไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณใจเย็นหน่อย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกดึงจนฝีก้าวหยุดชะงักลง เดินต่อไปไม่ได้ ได้แต่หันหน้ากลับมามองเขา
“คุณลองคิดดู ด้วยนิสัยของจินจิงจิงแล้ว เธอจะหลบอยู่ในสถานที่แบบนี้หรอ? วันนี้คนที่ลักพาตัวห้าวเจ๋อน้อยจะต้องเป็นคนที่เธอส่งไป เธอไม่มีทางลงมือเองอย่างแน่นอน!ตอนนี้พวกเขาจงใจนำรถทิ้งไว้ที่นี่ก็เพื่อหลอกตา ถ่วงเวลาเอาไว้ ที่รอก็คือให้คุณยอมจำนนก่อนที่จะหาพวกเขาพบ!”
เผยลี่เชินจ้องไปในดวงตาของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “อีกอย่างเมื่อสักครู่นี้ผมมองดูแล้ว บนพื้นมีรอยล้อรถรอยนึงลึกรอยนึงตื้นที่ลายไม่เหมือนกันอยู่สองเส้น เห็นได้ชัดว่ามีรถสองคันขับผ่านมาที่นี่ พวกเขาเอารถทิ้งไว้ที่นี่ก็เพื่อจงใจหลอกตาพวกเรา พวกเขาจะต้องนั่งรถอีกคันนึงไปแล้วอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่พวกเราหาร่องรอยการเคลื่อนไหวของรถอีกคันนึงพบ ก็จะสามารถหาพวกเขาเจอ!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก็มองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือแวบหนึ่ง สายตาเยือกเย็นขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องมาถึงตอนนี้ ตั้งแต่รับสายโทรศัพท์จากจินจิงจิงจนมาถึงตอนนี้ ได้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว ภายในระยะเวลาที่เหลือเพียงแค่ไม่ถึงสี่สิบนาที พวกเขาจะสามารถยืนยันได้ยังไงกันว่าจะหาจินจิงจิงพบและช่วยห้าวเจ๋อน้อยออกมาได้สำเร็จ!
ใครต่างก็ไม่กล้ายืนยัน เธอยิ่งไม่อาจจะทุ่มสุดตัวไปท้าเดิมพันเช่นนี้ได้!
ปัดมือของเผยลี่เชินออกอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันแน่น เงยหน้ามองไปยังนิคมอุตสาหกรรมร้างที่ทรุดโทรมระเนระนาดไปทั้งแถบจนสุดจะทนอยู่ครู่หนึ่ง แทบจะตัดสินใจภายในชั่วพริบตา หมุนตัวเดินกลับไปในทันที
ตอนนี้ ขอเพียงแค่สามารถรับประกันความปลอดภัยของห้าวเจ๋อน้อยได้ ชื่อเสียงเกียรติยศ ความบริสุทธิ์อะไรของเธอต่างก็สามารถสละทิ้งออกไปได้
เธอเปิดประตูรถ คว้าเอากระเป๋าที่เมื่อสักครู่นี้ตกอยู่บนรถ หยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรไปที่เบอร์ๆหนึ่ง
ดังไม่กี่ที ฝั่งนั้นก็รับสาย
ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยปากขึ้นทีละคำทีละประโยคว่า “หวั่นหวั่น เธอช่วยฉันหาอะไรสักอย่าง ช่องทางการติดต่อของผู้สื่อข่าวสังกัดนั้นที่เธอชอบดูข่าวซุบซิบดารา เธอสามารถหาได้ไหม?”
เจียงหวั่นหวั่นมึนงงไปหมด “น่าจะ…ได้มั้ง เสว่เอ๋อร์ เธอจะเอานี่ไปทำไม?”
“มีเรื่องด่วน เธอช่วยฉันหาก่อนเถอะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”
พูดจบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ไม่ยอมพูดอะไรมากไปกว่านี้อีก วางสายโทรศัพท์ลงไปในทันที
เผยลี่เชินเดินเข้ามาข้างหน้า ได้ยินประโยคนึงอย่างเลือนราง อีกทั้งเห็นสีหน้าที่เด็ดเดี่ยวของไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็แทบจะเข้าใจอะไรในทันที
“คุณคิดจะทำอะไร?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปากเล็กน้อย เอ่ยออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “ฉันจะช่วยชีวิตห้าวเจ๋อน้อย”
เรื่องมาถึงตอนนี้ เธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
สีหน้าของเผยลี่เชินอึมครึมลงอย่างกะทันหัน เอ่ยถามย้อนกลับว่า “คุณจะทำอย่างนั้นตามที่จินจิงจิงบอกนำความผิดทั้งหมดเอามาไว้ที่ตัวของคุณเอง?”
เรื่องมาถึงตอนนี้ ข่าวลือเหล่านั้นที่อยู่บนเว็บไซต์ แทบจะโจมตีทุกการกระทำของจินจิงจิงไปหมดแล้ว หากเธอยังอยู่ภายในประเทศ จะต้องถูกชาวเน็ตออกมาแซะทีละคนๆจนจมน้ำลายตายอย่างแน่นอน แม้กระทั่งต่อให้ทีมประชาสัมพันธ์ของเธอทุ่มเงินก็ช่วยเธอเอาไว้ไม่ได้ แต่ขอเพียงแค่ไป๋เสว่เอ๋อร์นำโคลนสาดใส่ตัวเอง ทีมของจินจิงจิงก็จะสามารถช่วยเธอชำระล้างจนขาวสะอาดด้วยวิธีต่างๆ เช่นนี้แล้ว เธอก็จะสามารถกลับตัวขึ้นมาใหม่ได้
ทว่าหากไป๋เสว่เอ๋อร์ทำเช่นนี้ไปแล้ว ก็แทบจะเป็นการบีบตัวเองไปจนถึงริมหน้าผา เธอไม่มีทางหนี ยิ่งไปกว่านั้นพลังความรุนแรงของอินเทอร์เน็ตในตอนนี้ไม่อาจจะดูถูกได้ แทบจะสามารถนำคนปกติในชีวิตจริงบีบจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า เธอจะสามารถทนได้ยังไงกัน?
“คุณว่าตอนนี้ยังมีวิธีอื่นอีกหรือเปล่าคะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้น สบสายตากับเผยลี่เชินตรงๆ “เหลือเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแล้ว”
เผยลี่เชินกำลังคิดที่จะพูดอะไรออกมา อยู่เสียงโทรศัพท์มือถือของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ดังขึ้น ได้รับข้อความเข้ามา
เธอกดเปิดดู เห็นตัวอักษรแถบหนึ่ง…เบอร์โทรศัพท์ของบรรณาธิการสื่อบันเทิง ด้านหลังมีเบอร์โทรศัพท์แนบเข้ามา
มือของไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นเล็กน้อย กดไปที่ตัวเลขแผงนั้น กำลังจะกดโทรออก แต่อยู่ๆมือใหญ่ข้างหนึ่งก็ยื่นเข้ามาอย่างกะทันหัน กุมมือของเธอเอาไว้แน่นในทันที
เผยลี่เชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง “คุณโทรไม่ได้ คุณรู้ไหมว่าคุณโทรเบอร์นี้ออกไปจะเกิดผลลัพธ์อะไรตามมาในภายหลัง?”
“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันได้คิดดีแล้ว” ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด “คุณปล่อยฉัน”
เผยลี่เชินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “จินจิงจิงไม่ใช่คนที่พูดคำไหนคำนั้น ต่อให้คุณโทรไปยอมรับความผิดเอาไว้เองจริงๆ เธอก็จะไม่ปล่อยคนออกมาง่ายๆ!ตอนนี้ห้าวเจ๋อน้อยอยู่ในมือของเธอ เธอไม่กล้าจะยังไง ตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือหาร่องรอยของเธอให้พบให้เร็วที่สุด ช่วยห้าวเจ๋อน้อยออกมา!”
ไฟโกรธลุกไหม้ขึ้นมาในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอสะบัดมือของเผยลี่เชินออกอย่างแรง “คุณจะสามารถยืนยันได้ยังไงว่าเธอไม่กล้าจะยังไง? หากห้าวเจ๋อน้อยเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆจะทำยังไงคะ?”
พูดจบ เธอก็ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น โทรเบอร์นั้นออกไปในทันที ทว่าจากนั้น ภายในมือก็ว่างเปล่า อยู่ๆโทรศัพท์มือถือก็ถูกแย่งเอาไปอย่างกะทันหัน
“โทรไม่ได้ ผมจะคิดหาวิธี”
ในขณะที่เผยลี่เชินพูด ก็วางสายโทรศัพท์ลงไปในทันที ยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกมาคว้าเธอเอาไว้ดึงเธอเดินไปขึ้นรถ
ทันใดนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์โมโหด้วยความขุ่นเคือง สะบัดมือของชายหนุ่มออก แม้แต่จะคิดก็ยังไม่คิดกัดลงไปบนมือของชายหนุ่มภายในทันที
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ปล่อยมือออกโดยจิตใต้สำนึก
ดวงตาทั้งสองข้างของไป๋เสว่เอ๋อร์แดงก่ำ สูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสมบูรณ์แบบ “เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน!คุณช่วยเขาไม่ได้ฉันช่วยเอง!คุณคืนมาให้ฉัน!”
“คุณใจเย็นหน่อย!” เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ไม่ทันได้ระวัง โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือก็ถูกเธอแย่งกลับคืนไปใหม่อีกครั้ง
เห็นท่าทีที่เด็ดเดี่ยวของไป๋เสว่เอ๋อร์ จะรั้งก็รั้งเอาไว้ไม่อยู่ เผยลี่เชินหมดหนทาง มองเห็นเธอกดโทรออกนำโทรศัพท์วางเอาไว้ที่ข้างหู เขาก็รีบก้าวขาเข้ามา ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยังคงยกมือขึ้นสะบัดไปบนท้ายทอยของหญิงสาวอย่างแรง
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวแข็งทื่อ ด้านหน้ามืดลง สลบลงไปในทันที
เผยลี่เชินถือโอกาสโอบเธอเข้ามาไว้ข้างในอ้อมกอด มองดูหญิงสาวที่มีสีหน้าที่ซีดขาวภายในอ้อมแขน เขาก็ปวดใจทั้งยังจนปัญญา
ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก ไม่ทำให้เธอสลบลงไปไม่ได้ ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่มีทางที่จะยอมให้เธอยอมรับความผิดแทนจินจิงจิงอย่างเด็ดขาด
เขาโน้มตัวลงอุ้มหญิงสาวขึ้นมา พาขึ้นไปบนเบาะหลังของรถ จากนั้นหันไปทางฉีเฟิงด้วยสีหน้าที่มืดมน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ไม่ว่าต้องใช้คนมากเท่าไร ใช้เงินมากเท่าไร ก็จำเป็นจะต้องหาร่องรอยการเคลื่อนไหวของจินจิงจิงมากับผมให้ได้!ไม่เช่นนั้นผ่านพ้นวันนี้ไป คุณก็ไม่ต้องมาทำงานกับผมอีก!”
ฉีเฟิงได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ซีดลง รีบตอบรับในทันทีว่า “ครับ!”
เผยลี่เชินมองไปยังด้านหน้าด้วยสายตาที่มืดมนและเยือกเย็น มือที่โอบไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้รัดเข้าหากันแน่นอย่างช้าๆ
คราวนี้ หากจับตัวของจินจิงจิงได้แล้วล่ะก็ เขาจะต้องคิดหาทาง ให้เธอกลับตัวขึ้นมาไม่ได้อีกไปตลอดกาล