สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 446

ตอนที่ 446

ตอนที่ 446 ตัดขาดความสัมพันธ์

คุณแม่ไป๋ได้ยินสีหน้าถึงกับหน้าชา มองไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างยากที่จะอธิบายได้ หลังจากนิ่งไปสักครู่ เธอถามด้วยเสียงเย็นชา “ลูกไปได้ยินได้ฟังเรื่องไร้สาระอะไรมา….”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึก ถามซ้ำอีกครั้งหนึ่ง “แม่ เพียงแค่ตอบคำถามของหนูมาก็พอ เมื่อหกปีก่อน แม่ทำอะไรกับพ่อไว้?”

“แม่จะไปทำอะไรได้? แม่ไม่ได้ทำอะไรเลย!”

คุณแม่ไป๋ขณะพูดก็วางถ้วยชาลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ “เสว่เอ๋อร์ ถ้าลูกจะมาหาเรื่องแม่ ลูกก็รีบออกไปซะ แม่มีงานที่ต้องทำ!”

ขณะพูด เธอลุกขึ้นยืนก้าวเท้าเดินไปที่บันได

ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบลุกตามทันที เดินไล่ตามเธอแล้วขวางหน้าคุณแม่ไป๋ไว้ “แม่ รู้ไหม หนูมีหลักฐานอยู่ในมือมันมากพอที่จะพิสูจน์ว่าเมื่อหกปีก่อนแม่ทำอะไรไว้กับพ่อ หนูถึงได้มาถามแม่ เพื่อให้แม่สารภาพกับหนู แต่….”

ดวงตาที่ซ่อนน้ำตาเอาไว้จ้องมองไปที่คุณแม่ไป๋ การรอคอยและความหวังที่มีแต่เดิมตอนนี้กลายเป็นความผิดหวังไปเสียแล้ว เธอยังคงคิดว่าคุณแม่ไป๋จะสารภาพกับเธอ แต่ใครจะรู้….

สีหน้าของคุณแม่ไป๋ขาวซีดปราศจากสีเลือด เธอสกัดกั้นความสงสัยที่อยู่ในหัวใจ และยังคงนิ่งไม่ถามคำถามที่สงสัย

เห็นคุณแม่ไป๋ไม่พูดอะไรตั้งนาน ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าด้วยความผิดหวัง ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง “ได้ แม่ไม่พูด งั้นหนูพูดเอง”

“เมื่อหกปีก่อน แม่ซื้อตัวคนที่อยู่ในคุกให้เขาหาโอกาสทำร้ายพ่อ และทำให้เรื่องทั้งหมดดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แม่ติดต่อกับชายคนนั้นเป็นการส่วนตัวหลายครั้ง ที่ร้านน้ำชาจิงหมิง แม่แต่งกายมิดชิดระมัดระวังตัว แต่ก็ถูกกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งหนูดูออกว่าคนคนนั้นคือแม่!”

ได้ยินที่ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดเช่นนี้ สีเลือดบนใบหน้าของคุณแม่ไป๋ค่อยๆ จางหายไป ริมฝีปากสั่นเทา ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร ไป๋เสว่เอ๋อร์ชิงพูดเสียก่อน “หลังจากที่ผู้คุมเรือนจำทำร้ายพ่อจนตาย ก็ทำให้เรื่องกลายเป็นเขาลื่นล้มในห้องน้ำจนสมองได้รับความกระทบกระเทือน และให้ผู้คุมเรือนจำอีกคนนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาล หลังจากมาถึงโรงพยาบาล แม่กลัวว่าตัวเองจะถูกสงสัย กลัวการชันสูตรศพ จึงพูดให้หนูรีบจัดการศพพ่อให้เสร็จไวไว แต่อันที่จริงนอกจากร่างกายของพ่อจะมีบาดแผลที่ด้านหลังศีรษะแล้ว บนตัวยังมีบาดแผลอื่นๆ อีก ซึ่งหนูก็เห็นแล้วและก็ไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบอะไร!”

ในที่สุดคุณแม่ไป๋ก็ปรากฎท่าทางตื่นตระหนกจนก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าว ตอบโต้กลับ “เสว่เอ๋อร์ ลูกไปฟังคำพูดลมลมแล้งแล้งนี้มาจากที่ไหน เรื่องพวกนี้มันไร้สาระทั้งนั้น!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “แม่ หลังจากที่ผู้คุมคนนั้นได้เงินที่แม่ให้เขาไปแล้ว ก็รีบหนีออกจากเมืองไห่เฉิง หนูว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ต่างจังหวัดบ้านเก่าของเขา ซึ่งห่างจากไห่เฉิงไปไม่ไกล ถ้าพวกเราพบเขา….”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังพูดไม่จบ คุณแม่ไป๋ก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยความตกใจ จับมือของเธอไว้ พูดอย่างตื่นตระหนก “เสว่เอ๋อร์! อย่านะ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเช่นนี้ หัวใจเย็นดุจน้ำแข็ง เธอก้าวถอยหลังไป สกัดกั้นน้ำตาของตัวเองไว้พร้อมกับถามว่า “แม่ แม่เคียดแค้นชิงชังอะไรนักหนาถึงได้ทำร้ายพ่อถึงตายได้?”

สีหน้าคุณแม่ไป๋ตื่นตระหนกหลบสายตาของเธอ แต่ไม่พูดเหตุผลสักคำ

ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจลึก ถามกลับ “เป็นเพราะเฝิงเจิ้งปางใช่ไหม? เพราะพ่อต้องอยู่ในคุกสามปี ไม่แน่ว่าอาจจะได้ออกมาก่อน ดังนั้นแม่จึงทำร้ายพ่อ?”

“หรืออาจเป็นเพราะแม่คุ้นเคยกับชีวิตที่ร่ำรวยสุขสบาย แต่ถ้าพ่อออกมาจากคุกอายุก็มากแล้ว มันยากที่จะกลับไปเหมือนเดิมได้ ดังนั้นแม่จึงรู้สึกว่าควรจะหาที่พึ่งพาใหม่ที่ดีกว่านี้…..”

เมื่อสักครู่ขณะที่เดินกำลังเดินทางมาที่นี่ เธอนั่งคิดถึงเหตุผลและสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมด และเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่ไป๋มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะลงมือกับพ่อของเธอ

“เสว่เอ๋อร์….ลูกต้องเข้าใจแม่นะ แม่เองก็ถูกบังคับ ลูกไม่รู้หรอกว่าหลังจากที่ตระกูลไป๋ล้มละลายแม่ต้องใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง แม่นอนไม่หลับทุกคน ลูกรู้…แม่ไม่เคยใช้ชีวิตที่ลำบากมาก่อน ลูกให้แม่….”

คุณแม่ไป๋ก้าวไปข้างหน้าใช้มือข้างหนึ่งกุมมือของไป๋เสว่เอ๋อร์ไว้ด้วยความสั่นไหว อธิบายไปพร้อมน้ำตา

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอสะบัดมือจากมือคุณแม่ไป๋ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดังนั้นแม่เลยทำร้ายพ่อจนตาย? ลงมือฆ่าคนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบกว่าปี!”

คุณแม่ไป๋เสียงสั่น “เสว่เอ๋อร์ แม่ไม่มีทางเลือก…แม่ไม่อยากใช้ชีวิตอย่างยากลำบากตอนแก่ แม่ไม่มีทางเลิกใช้ชีวิตเหมือนในอดีตได้…”

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจนเกิดความรู้สึกขึ้นภายในจิตใจที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าอยากอยู่ห่างๆ จากเธอ เธอคิดเสมอว่าแม่คือญาติสนิทที่สุดของเธอ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่จะใจคอโหดเหี้ยมดุร้าย

เธอก้าวถอยหลังไป เว้นระยะห่างจากคุณแม่ไป๋ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา หายใจลึก “แม่มีสิ่งที่ไม่สามารถละวางได้ หนูก็มีสิ่งที่หนูไม่สามารถละวางได้เช่นกัน แม่ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูจะเรียกแม่ นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเราต่างคนต่างอยู่”

หลังจากพูดคำพูดเหล่านี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกก้อนหินที่กดทับหัวใจเธอได้สลายหายไปในทันทีทันใด ความกดดันและความรู้สึกผิดที่มีแต่แรกได้มลายหายไปจนสิ้น นอกจากนั้นยังรู้สึกโล่งใจมากขึ้น

เธอหันกลับเดินออกไปทางประตู

คุณแม่ไป๋ตะลึง รีบตามไปลากตัวเธอไว้ “เสว่เอ๋อร์! ลูกจะไปไหน! ลูกจะตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกจริงๆ ใช่ไหม!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดก้าวแล้วหันกลับมามองเธอ “นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราไม่เกี่ยวข้องใดๆ กันอีก ความสัมพันธ์ในอดีตก็ดี บุญคุณก็ช่าง หนูไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ อีก”

เธอพูดแล้วดึงมือออกจากมือของคุณแม่ไป๋

เห็นท่าทางที่แน่วแน่ของไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณแม่ไป๋ได้แต่กลั้นน้ำตาไว้ พูดอะไรไม่ออกสักคำ

นี่แหละคือเธอ ที่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์ของครอบครัวได้

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก ดึงรอยยิ้มอันขมขื่นกดดันหัวใจของเธอไว้ เธอไม่หันกลับไปมองสักนิดรีบเดินออกไปทางประตูโดยเร็ว

ที่ด้านนอกประตู เผยลี่เชินกำลังยืนคอยอยู เมื่อเห็นเธอเดินออกมาจึงค่อยๆ อ้าแขนทั้งสองข้างออกอย่างช้าๆ “ไปเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”

หัวใจไป๋เสว่เอ๋อร์ทรุดลง มองดวงตาที่ลึกซึ้งของชายหนุ่ม อดน้ำตาไหลออกมาไม่ได้

ตอนที่เธอคิดว่าตัวเองไม่มีบ้าน เผยลี่เชินกลับพาเธอกลับบ้านอีกครั้ง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตามเผยลี่เชินขึ้นรถ เงยหน้ามองกระจกมองหลังเห็นคฤหาสน์ค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ จิตใจรู้สึกสับสน

นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอมาที่นี่ ตอนนี้พ่อของเธอไม่อาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ เมื่อเธอได้รู้ความจริงก็ไม่สามารถให้แม่มาชดใช้คืนได้ แต่เธอก็ไม่มีทางยกโทษให้แม่ได้

ก็ได้แต่แยกย้ายกันไป ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถละวางได้

รถขับมาถึงถนนสายหลักนอกพื้นที่คฤหาสน์แล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์หันกลับมามองร่างของชายหนุ่มทันทีทันใดพร้อมกับพูดว่า “คุณไปเยี่ยมพ่อกับฉันได้ไหม?”

เมื่อความจริงปรากฏ ตลอดหกปีที่ผ่านมาเธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเขา เธออยากจะขอโทษเขา เธออยากจะขอโทษเขาต่อหน้าหลุมศพพ่อของเธอ

เผยลี่เชินลังเลสักครู่ก่อนจะพูดเบาๆ “ขอเพียงเธอต้องการ ไม่ว่าจะที่ไหนฉันจะไปกับเธอด้วย”

จะเป็นความเข้าใจผิด หรือกล่าวโทษก็ตาม สรุปแล้วพวกเขาตลอดหกปีที่ผิดพลาดมาทำให้เขาได้ลิ้มรสความขมขื่นมามากพอแล้ว ตอนนี้เขาจะไม่ยอมให้เธอหนีจากเขาไปอีก

รถเลี้ยวกลับตรงไปยังสุสาน ขับมาได้ครึ่งทางโทรศัพท์มือถือของเผยลี่เชินดังขึ้น

เขารับโทรศัพท์จึงได้ยินเสียงกระวนกระวายของฉีเฟิงดังขึ้น “ประธานเผย คุณอยู่ที่ไหน เกิดเรื่องที่บริษัทแล้วครับ!”

ฉีเฟิงเป็นคนใจเย็นอารมณ์ไม่หวั่นไหว ตอนนี้เขาร้อนรนเช่นนี้ ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน

เผยลี่เชินขมวดคิ้ว รีบถามกลับทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“การประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ คุณไม่อยู่ประชุม ตอนนี้พวกผู้ถือหุ้นตัดสินใจลงคะแนนถอดถอนคุณออกจากตำแหน่ง

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท