บทที่7 ที่แท้นายชอบแนวนี้
โล่เฟยเอ๋อร้องไห้จนตาแดงบวมกลับที่พักของหซิวหชูเฉียว ดึงดูดความสนใจของ หซิวหชูเฉียวโดยธรรมชาติ
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อไม่คิดจะเอาเรื่องของถังหซิวฉีกับกู้ชิงหลันบอกหซิวหชูเฉียว แต่หซิวหชูเฉียวเข้าใจเธอที่สุด ดังนั้นในที่สุดก็ปิดบังเขาไม่ได้
ตอนที่รู้ว่าในขณะที่กู้ชิงหลันไม่ชัดเจนกับโล่เฟยเอ๋อ ในเวลาเดียวกันก็มีความสัมพันธ์กับถังหซิวฉี,หซิวหชูเฉียว โมโหโกรธมาก
“นึกไม่ถึงเลยว่าแท้จริงแล้วกู้ชิงหลันจะเป็นผู้ชายที่เหี้ยได้ขนาดนี้ ไม่ชัดเจนกับเธอในเวลาเดียวกัน ก็ยังคบกับถังหซิวฉี ผู้หญิงคนนั้น”
“ที่จริงเป็นฉันที่คิดเองเออเอง แต่ไรมาเขาไม่เคยบอกชอบฉันเลย…” แม้ว่าปากจะพูดไปแบบนั้น แต่ในใจกลับเจ็บปวด
หซิวหชูเฉียวรีบพูดทันที “อะไรเรียกว่าเขาไม่เคยบอกชอบเธอเลยเหรอ การกระทำของเขาพวกนั้น ไม่ใช่แสดงออกชัดเจนว่าชอบเธอเหรอ เฟยเอ๋อ เธออย่าโง่ไปหน่อยเลย กู้ชิงหลันโกหกช่วงชีวิตวัยรุ่นของเธอสี่ปี เขาก็คือผู้ชายเหี้ยที่เหยียบเรือสองแคม”
โล่เฟยเอ๋อกระพริบ จากนั้นสูดหายใจลึกแล้วพูด “ใช่หรือไม่ใช่คนเลว ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับฉันแล้ว”
หซิวหชูเฉียวพยักหน้าแล้วพูด “ถูก อย่าไปคิดถึงผู้ชายเหี้ยคนนั้นอีกเลย คางคกสามขาหายาก ผู้ชายสองหามีอยู่ทุกที่ ถึงเวลาหาผู้ชายที่ดีกว่ากู้ชิงหลันร้อยเท่า ทำให้อ้ายอีเยี่ยงหมาคู่นั้นโกรธจนช็อคตายไปเลย”
โล่เฟยเอ๋อรู้ว่าหซิวหชูเฉียวพูดให้เธอดีใจ แต่กลับยิ้มไม่ออกเลยสักนิด เพียงแค่พูด‘ขอบใจนะ’เบาเบา กับหซิวหชูเฉียว
หลังจากที่ซูซีมู่ออกมาจากคลับดี้เหา ก็ตรงกลับไปที่บ้าน
ในบ้านเงียบสงบมาก ทุกที่มืดมิด ซูซีมู่เปิดไฟแล้วเข้าประตู
เขาทั้งเดินขึ้นข้างบน ทั้งถอดเน็กไท ผลักเปิดประตูห้องนอน เขาเปิดไฟ จากนั้นโยนเสื้อคลุมชุดสูทและเน็กไทลงบนโซฟา จากนั้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต แล้วเดินไปเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เพิ่งออกจากประตูห้องอาบน้ำ โทรศัพท์ที่เขาวางไว้ในเสื้อคลุมชุดสูทก็ดังขึ้น
เขาขมวดคิ้ว จากนั้นเดินไปที่โซฟา หยิบโทรศัพท์ มองสายที่โทรเข้าแวบหนึ่ง แล้วกดปุ่มรับสาย
ซูซีมู่ยังเงียบ มีเสียงจากลู่ยู่อย่างร้อนรน “ซูซีมู่ นายอยู่ที่ไหน”
“บ้าน” ซูซีมู่พ่นออกมาคำหนึ่งอย่างเย็นชา
ลู่ยู่รีบพูดทันที “ซูซีมู่ นายโกหกใครอ่ะ นายไม่ได้อยู่บ้าน แต่นายอยู่ในห้อง…”
ซูซีมู่คิ้วขมวด ขี้เกียจที่จะคุยเรื่องไร้สาระกับลู่ยู่ต่อ จึงกดตัดโทรศัพท์ แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำ
เดิมทีซูซีมู่คิดว่า เพื่อนลู่ยู่คนนี้แค่รู้สึกเบื่อถึงโทรหาเขา ก็เลยไม่ใส่ใจ แต่คิดไม่ถึงว่าเช้าตรู่ของวันที่สอง เพื่อนลู่ยู่คนนี้ตั้งใจมาหาเขาที่ออฟฟิศเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เช้าตรู่ของวันที่สอง ซูซีมู่เข้าไปออฟฟิศตามปกติ เพิ่งจะเปิดคอม ยังไม่ทันได้ใส่รหัส ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกเคาะ
การกระทำของซูซีมู่ที่กำลังจะใส่รหัสคอมหยุดลง พูดเสียงเย็นชา “เข้ามา”
ประตูเปิดออกและคนที่เข้ามาคือลู่ยู่ ในมือยังถือกระเป๋าเอกสาร ชัดเจนว่ามาหาเขาที่นี่ก่อนจะไปบริษัท แววตาของซูซีมู่แสดงความแปลกประหลาดใจ “นายทำไมมาที่นี่”
ลู่ยู่ไม่ได้ตอบคำถามของซูซีมู่ เพียงแค่พูด “ซูซีมู่ ที่แท้นายชอบแนวนี้เหรอ”
ซูซีมู่เลิกคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของลู่ยู่
ลู่ยู่เดินไปนั่งบนโซฟาอย่างขี้เกียจ ไม่เกรงใจเลยสักนิด หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัดคำหนึ่ง แล้วเปิดปากพูด “ซูซีมู่ นายไม่ต้องแกล้ง เมื่อคืนฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นออกมาจากห้องของนาย”
ซูซีมู่เข้าใจในทันที เมื่อคืนลู่ยู่เห็นโล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องของเขา เข้าใจผิดคิดว่าโล่เฟยเอ๋อกับเขามีความสัมพันธ์กัน
เขาเม้มปาก ไม่ตอบลู่ยู่ เพราะเขารู้สึกว่าไม่จำเป็น
ลู่ยู่คิดเองพูดเอง “ฉันว่าซูซีมู่ เมื่อคืนฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นตาแดงวิ่งเข้าไปในลิฟต์ หรือว่านายใช้ความรุนแรงกับเธอ…. ซูซีมู่ ตัวตนนี้ของนาย รูปลักษณ์ภายนอกนี้ของนาย แท้จริงชอบใช้ความรุนแรงเหรอ แจ๊ะแจ๊ะแจ๊ะ…”
ตอนที่ซูซีมู่ได้ยินที่ลู่ยู่พูดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นตาแดงวิ่งเข้าไปในลิฟต์’ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ
ลู่ยู่ไม่สังเกตุเห็นความผิดปกติของซูซีมู่เลยสักนิด ก้ถามตรงๆ “ซูซีมู่ เมื่อคืนรู้สึกยังไงบ้าง…”
เขาพูดยังไม่จบ ซูซีมู่ก็ขัดจังหวะเขา “ถ้าไม่มีเรื่องอื่น นายก็ไปได้แล้ว”
ลู่ยู่ยากที่จะพบจุดบกพร่องของ จะยอมแพ้ง่ายๆอย่างนี้ได้อย่างไร แค่เห็นเขาลุกขึ้นจากโซฟา จากนั้นเดินมาที่หน้าโต๊ะทำงานของซูซีมู่แล้วพูด “ซูซีมู่ เมื่อคืนพวกนายได้กันหรือยัง นายชอบสไตล์แบบนั้นจริงๆเหรอ”
ลู่ยู่พูดยังไม่จบ ก็เห็นสีหน้าของซูซีมู่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างมาก เขารีบหุบปากทันที เดินไปที่ประตูห้องทำงานอย่างรวดเร็ว “ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ ฉันยังมีธุระ ไปก่อนล่ะ…”
พูดจบ ลู่ยู่ก็ดึงประตูเปิดออก เดินออกจากห้องทำงาน
ผ่านไปประมาณสิบวิ ประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง ลู่ยู่แค่โผล่หน้าเข้ามา “ซูซีมู่ นายวางใจได้ ฉันจะช่วยนายเก็บความลับ”
ประมาณว่ากลัวซูซีมู่ จะระเบิดความโกรธออกมา ลู่ยู่พูดประโยคนี้จบ ก็รีบปิดประตูแล้วจากไป
หลังจากที่ลู่ยู่จากไปนานมากแล้ว ซูซีมู่นั่งอยู่ตรงนั้น รักษาท่าทีเงียบขรึมก่อนหน้าไว้ตลอด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก
ซูซีมู่ขมวดคิ้วเบาเบา พูดคำว่า “เข้า” คำหนึ่งง่ายๆ
ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดออก โจวเฉิงถือเอกสารชุดหนึ่งเข้ามา “ประธานซู นี่คือรายงานการเงินที่ส่งมาจากบริษัทดี้ก้วนคุณดูสักหน่อย”
ซูซีมู่ยืนมือไปรับเอกสารจากในมือของโจวเฉิง ทั้งเปิดเอกสารดูทั้งพูดไปด้วย “วันนี้มีตารางงานอะไร”
โจวเฉิงรายงานตารางงานวันนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เก้าโมงครึ่งมีประชุม สิบโมงไปร่วมงานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์บริษัทตงซิ่นที่ใจกลางเมือง ตอนบ่านไปประชุมที่บริษัทดี้ก้วน……”
ตอนที่ซูซีมู่กำลังฟังทั้งหมดอยู่นั้น ไม่ละสายตาไปจากเอกสารที่ถืออยู่ในมือของตัวเอง เขารอให้ โจวเฉิงพูดจบ ถึงค่อยพูด “ยกเลิกงานช่วงเช้าให้หมด”
โจวเฉิง พูด ‘ห๊า’ ออกมาก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น “ครับ”
ซูซีมู่ไม่สนใจโจวเฉิง เขาทั้งลุกขึ้นเดินไปข้างนอก ทั้งพูด “แจ้งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทดี้ก้วน เก้าโมงสามสิบนาทีฉันจะไปประชุม”
“ครับ…ประธานซู” หลังจากที่โจวเฉิงอึ้งไปสองวิ ก็รีบตามไป