บทที่6 เขาให้ความสนับสนุนเธอ
ตามองเห็นมือของถังหซิวฉี กำลังจะตบลงที่หน้า โล่เฟยเอ๋อหลับตาจากจิตใต้สำนึก
เธอสามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงลมแรงที่พัดมาจากมือของถังหซิวฉี
แต่ทว่า ความเจ็บปวดในจินตนาการยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นเสียงความเจ็บปวดที่คุ้นเคย
นั้นคือถังหซิวฉี… โล่เฟยเอ๋ออึ่งไปหลายวิ ลืมตาขึ้น ก็เห็นมือของถังหซิวฉีที่ตบหน้าเธอถูกอีกมือหนึ่งจับไว้แน่น
มือนั้นสะอาดและสวยงามจนไม่อาจพรรณนาได้ สายตาของโล่เฟยเอ๋อหยุดอยู่ที่มือนั้นหลายวิ ถึงละสายตาจากมือข้อมือขาวๆของอีกฝ่าย เป็นใบหน้าที่ตกใจของซูซีมู่
แต่ไหนแต่ไรมาหน้าเขาไร้ความรู้สึก บัดนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่ไม่อาจคาดเดาได้ ในตาคือเปลวไฟแห่งความโกรธ
ซูซีมู่เหมือนกับไม่เห็นสายตาของโล่เฟยเอ๋อ เขาหรี่ตา มองไปยังถังหซิวฉี ในสายตามีอันตรายของความหยิ่งผยอง “คุณจะตบเธอเหรอ”
ไม่รู้ว่าถังหซิวฉีถูกรูปร่างหน้าตาของซูซีมู่ทำให้ตกใจ หรือว่าถูกซูซีมู่ทำให้ตกใจ เขาจ้องเขาอย่างตะลึง ไม่มีการตอบสนอง
สายตาของซูซีมู่ฉายประกายความรังเกียจ จากนั้นตอนที่ทุกคนไม่มีการตอบสนอง ก็สะบัดข้อมือของถังหซิวฉีทิ้งอย่างแรง
อารมณ์นั้น เหมือนกับสลัดขยะอะไรที่ทำให้เขารู้สึกขยะแขยง
แรงเยอะมาก การกระทำสะเพร่า ถังหซิวฉีถูกเขาสะบัดไปที่ประตูห้อง หัวกระแทกกับประตูห้อง เสียงดัง ‘ปัง’เสียงหนึ่ง
และในช่วงเวลานี้ กู้ชิงหลันที่ไปเอาเสื้อคลุมที่ระเบียงกลับเข้ามา เห็นฉากนี้พอดี เขาจึงรีบวิ่งไปประคองตัวถังหซิวฉีขึ้นมา “หซิวฉี เธอเป็นอย่างไรบ้าง”
“ชิงหลัน,เฟยเอ๋อบอกว่าฉันแย่งคุณไปจากเธอ เธอร่วมมือกับคนอื่นรังแกฉัน…” ถังหซิวฉีหดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของกู้ชิงหลัน ร้องไห้ออกมาอย่างทุกข์ใจ
กู้ชิงหลันตบที่หลังเธอเบาเบา ให้กำลังใจเธอ จ้องมองซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋ออย่างโกรธเคือง “โล่เฟยเอ๋อ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ ทั้งหมดก็คือเธอคิดเองเออเอง เธอปฏิบัติกับหซิวฉีแบบนี้ ทำให้ฉันโกรธมากจริง ๆ
ไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอ คิดเองเออเองเหรอ
โล่เฟยเอ๋อมองกู้ชิงหลันอย่างตะลึงอยู่นานไม่มีการตอบสนอง ซูซีมู่รู้สึกถึงในใจมีไหม้กองหนึ่งกำลังลุกไหม้ ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับมือของโล่เฟยเอ๋อ หมุนตัวแล้วเดินจากไป
ในทางเดินเงียบสงบมาก โล่เฟยเอ๋อถูกลากโดยซูซีมู่ ทั้งสองคนไม่พูดคุยอะไร ได้ยินเสียงโฮ้ร้องเบาๆเป็นครั้งคราว ออกมาจากห้องที่ประสิทธิภาพกั้นเสียงยอดเยี่ยม
เดินไปจนถึงสุดทางเดิน ซูซีมู่ถึงหยุด เขาหยิบการ์ดจากกระเป๋าของเขาออกมาหนึ่งใบ รูดบัตร จากนั้น
ผลักประตูเปิดออก ลากโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้อง จากนั้นมีเสียงปิดประตูดังปัง
หลังจากโยนโล่เฟยเอ๋อลงบนโซฟาซูซีมู่ก็ไปรินน้ำแก้วหนึ่งบนบาร์ แล้วดื่ม
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองเป็นอะไร เรื่องของผู้หญิงคนนี้เกี่ยวอะไรกับเขาเหรอ เขายืนมือเข้าไปยุ่งทำไม
หลังจากที่ดื่มน้ำในแก้วหมด ซูซีมู่ก็วางแก้วในมือลงบนบาร์แรงๆ จากนั้นพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างเย็นชา “คุณนั่งโง่พอแล้ว ก็ออกไปเอง”
พูดประโยคนี้จบ ซูซีมู่ก็ไม่ได้อยู่ต่อ ทิ้งให้โล่เฟยเอ๋ออยู่คนเดียว เดินออกจากห้องไป
เดิมทีซูซีมู่เตรียมจากออกไปเลย พอเดินถึงหน้าประตูลิฟท์ถึงนึกขึ้นได้ เสื้อคลุมและของของเขายังอยู่ในห้องของลู่ยู่ เขาหยุดไปหลายวิ จากนั้นก็เดินกลับไปที่ห้องของลู่ยู่
ตอนที่เดินกลับไป ชายหญิงที่อยู่ด้านในกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานคึกคัก ลู่ยู่มองเห็นเขาเดินกลับมา ก็พูดใส่ “ออกไปเดินเล่นนานขนาดนี้ ฉันคิดว่านายหลงทางแล้ว”
ซูซีมู่ เงียบ เพียงแค่เดินไปถึงที่แขวนเสื้อผ้า ก็หยิบเอาเสื้อคลุมของตัวเอง
ลู่ยู่เห็นการกระทำของเขา ก็รีบลุกขึ้น “ซูซีมู่ ไม่ใช่มั้ง จะไปอย่างนี้เลยเหรอ”
“มีธุระ” ซูซีมู่พูดออกมาสองคำอยางเย็นชา
ลู่ยู่มองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “ในเมื่อมีธุระ ฉันก็ไม่รั้งนายไว้ พรุ่งนี้ค่อยนัดกันใหม่”
“ค่อยว่ากัน” ซูซีมู่พูดคำสองคำนี้เบา ๆ จากนั้นเดินออกไปจากห้อง
โล่เฟยเอ๋อหลังจากที่ซูซีมู่ออกไป ก็ทนไม่ไหว นั่งร้องไห้ออกมาขึ้นโซฟา
สี่ปีมานี้ พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น เธอเคยคิดว่ากู้ชิงหลันชอบเธอ เคยคิดว่าในใจของเขามีแค่เธอ เขาคุกเข่าขอถังหซิวฉีเป็นแฟนของเขา
เขาชอบคนที่โล่เฟยเอ๋อเกลียดมากที่สุด…
เขาพูดว่าเธอคิดเองเออเอง เขาพูดว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิด
โล่เฟยเอ๋อเธอยอมแพ้ได้หรือยัง
โล่เฟยเอ๋อร้องไห้จนแทบจะขาดใจ คนที่เธอชอบมาเต็มๆสี่ปี
ความรักทั้งหมดของเธอ
โล่เฟยเอ๋อร้องไห้นานมาก นานมากจนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอดังขึ้น ถึงหยุดร้อง
เธอปาดมือเช็ดน้ำตาบนหน้า จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกจากในกระเป๋า แล้วรับโทรศัพท์
เป็นหซิวหชูเฉียวโทรหาเธอ ถามว่าเธออยู่ที่ไหน ทำไมไม่ไปหาเขา
โล่เฟยเอ๋อพูดจบประโยคจะกลับไปเดี๋ยวนี้ แล้วก็วางสาย
หลังจากที่เธอเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าแล้ว เธอถึงนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือห้องของผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวกะทันหัน ขัดขวางไม่ให้ถังหซิวฉีตบเธอ ช่วยเธอรังแกถังหซิวฉีกลับอย่างโหดร้าย จากนั้นเขาก็พาเธอมาถึงที่นี่…
แม้แต่ชื่อของเขาเธอก็ยังไม่รู้ กลับช่วยเธอไว้ตั้งสองครั้ง
นึกคำพูดของเขาก่อนจากไปขึ้นได้ ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อมองด้านล่าง
หลังจากนั่งนิ่งอยู่นาน เธอก็เปิดกระเป๋า หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งและปากกาหนึ่งแท่งออกมา
บนกระดาษ แต่ละเส้นแต่ละขีดเขียนสามคำ ‘ขอบคุณคุณ’หยุดอยู่ชั่วครู่ เธอก็เขียนชื่อของตัวเองลงอีก
เธอไม่รู้ว่ากระดาษนี้จะถูกบริกรของห้องเก็บเป็นขยะไปทิ้งหรือไม่ แต่เธอยังคงเอามันวางไว้ใต้แก้วบนบาร์
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย โล่เฟยเอ๋อถึงออกไปจากห้อง
ตอนที่ออกไป ประตูห้องข้างๆเปิดออกพอดี มีชายหญิงหลายคนเดินออกมาจากด้านในห้อง
โล่เฟยเอ๋อมองแค่แวบเดียว ก็รีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์
เธอไม่รู้ว่า ลู่ยู่อยู่ท่วมกลางคนเหล่านั้นพอดี เห็นโล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องของซูซีมู่ อารมณ์บนหน้าของลู่ยู่ อันดับแรกคือตะลึง ต่อมาคือตกใจ จากนั้นคือไม่น่าเชื่อ
หลังจากอารมณ์ตกใจทั้งหมดหายไปแล้ว เขาก็ส่งคนอื่นกลับ จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาจากระเป๋า โทรหาซูซีมู่