บทที่ 18 ปรารถนาเหลือเกิน
ตั้งแต่ ซูซีมู่เริ่มส่งข้อความมา ทุกวันโล่เฟยเอ๋อจะต้องพิมพ์ขอความกับซูซีมู่จนเป็นนิสัยแล้ว
ในตอนแรกเธอใช้ความพยายามในการคิดหัวข้อข้อความ ต่อมาก็คุยกันสบายมากขึ้น
ไม่กี่วันนี้ โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ติดต่อกับซูซีมู่ เนื่องจากซูซีมู่บอกกับเธอก่อนหน้านี้ว่า เขาต้อฝเดินทางไปประเทศMหนึ่งสัปดาห์
เธอกังวลว่าจะรบกวนเขา ก็เลยไม่ได้ส่งข้อความไปหาเขา
จ้องมองวันที่ในปฏิทินทุกวัน อีกห้าวันถึงจะกลับ อีกสี่วัน อีกสามวัน….
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในห้วงแห่งรัก ทุกวันล้วนน่าเบื่อ
ถ้าเกิดว่า หลินยี่ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการออกแบบที่สำคัญ กลัวว่าเธอจะถูกเธอด่าเละแน่
ห้าโมงครึ่งเลิกงานตรงเวลา โล่เฟยเอ๋อเดินออกจากบริษัทด้วยความเหงาหงอย
พึ่งเดินถึงประตูบริษัท เป็นข้อความของซูซีมู่ที่ส่งมา
เธอรีบเปิดข้อความอย่างกระตือรือร้น “ผมอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน”
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาด้วยความแปลกใจ เห็นร่างที่คุ้นเคยอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม
สองมือของซูซีมู่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ กำลังยืนพิงรถอยู่
เนื่องจากเขาบังเอิญหันหน้าหนีจากพระอาทิตย์ตก โล่เฟยเอ๋อจึงมองหน้าเขาได้ไม่ชัดเจน
เห็นแค่เสื้อผ้ามีรอยยับ ข้อมือเสื้อยุ่งเหยิง ดูไม่เป็นระเบียบ เผยให้เห็นกลิ่นที่เย็นสะอาดของซูซีมู่ เพิ่มด้วยกลิ่นที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง
บนถนนระหว่างเธอกับเขามีรถผ่านไปผ่านมา จ้องมองอย่างเงียบๆ
สิบวันที่ไม่ได้เธอ สามวันที่ไม่ได้ติดต่อกัน มองดูเขาอีกครั้ง ในใจของเธอรู้สึกมึนงง
ครู่หนึ่ง เธอคิดว่าตัวเองมีอาการหลอน
เขาไม่ได้อยู่ในประเทศMเหรอ? ไม่ได้เหลืออีกสามวันที่เขาจะกลับมาเหรอ? ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่ได้?
โล่เฟยเอ๋อบีบฝ่ามืออย่างแรง ความเจ็บปวดที่คมชัดผ่าเส้นประสาทเจ็บจนเข้าสู่สมอง
เธอถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพหลอน
เขากลับมาแล้วจริงๆ!
ทุกวันนี้ เธอคิดถึงเขาแทบทุกวัน เมื่อเจอเขาจริงๆเธอถึงรู้ว่าเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน….
ซูซีมู่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าเป็นอะไร เดิมทีสัญญาของกลุ่มLM ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์
เป็นผลทำให้เขารู้ว่ามีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นในใจของเขา
หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานเบื้องต้นกับกลุ่มLMแล้ว เขาก็โยนธุระต่อไปให้กับโจวเฉิง
หลังจากลงเครื่องบิน เขาไม่สนใจที่กลับบ้าน ร่างกายที่เต็มไปความความเหนื่อยล้าจากเดินการทางและจากงาน ก็มาที่บริษัทของโล่เฟยเอ๋อโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่เขามาพึ่งจะสี่โมง แต่เขาไม่ได้รีบ รอหนึ่งชั่วโมงครึ่งอย่างอดทน
ถึงห้าโมงครึ่ง เขานั่งเฉยๆไม่ได้ ก็เลยลงจากรถ
เห็นเธอเดินออกจากบริษัท เขาก็รีบส่งข้อความหาเธอทันที
มองเธอหยิบโทรศัพท์อ่านข้อความ หลังจากนั้นก็มองมาทางเขา ความรู้สึกว่างเปล่าในหัวใจของเขาก็หายไป
โล่เฟยเอ๋อที่อยู่ไกลออกไปแค่คิดว่าซูซีมู่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เดินเข้าไปใกล้ถึงสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“คุณกลับมาแล้ว!” โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่อย่างกระตือรือร้น
ใบหน้าของซูซีมู่เรียบเฉย “อือ พึงลงเครื่อง”
พึ่งลงเครื่องก็มาหาเลย! ปลายนิ้วของโล่เฟยเอ๋อสั่น หลังจากนั้นถามเบาๆว่า “เหนื่อยไหมคะ?”
“ได้อยู่” ซูซีมู่ ตอบอย่างสบายๆ
โล่เฟยเอ๋อจ้องใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขา หัวใจเจ็บเล็กน้อย ขนตากระพริบ แล้วพูดว่า “นั่งเครื่องบินเกือบยี่สิบชั่วโมงไม่เหนื่อยเหรอคะ? คุณคิดว่าคุณเป็นเหล็กเหรอคะ? ไม่ต้องพักผ่อนเหรอคะ?” พูดจนถึงตอนท้าย ในน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อเพิ่มการตำหนิเล็กน้อย
ซูซีมู่ฟังโล่เฟยเอ๋อตำหนิอย่างเงียบๆ ไม่มีความรู้สึกไม่พอใจ กลับมีความรู้สึกแปลกๆที่แผ่ซ่านในหัวใจ
“และ คุณยังขับรถมาถึงที่นี่….”
โล่เฟยเอ๋อพูดจบแล้ว ก็เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ พูดไปทางเขาว่า “ขึ้นรถค่ะ”
ซูซีมู่มองเธออย่างไม่เข้าใจ
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างถอนหายใจว่า “การขับขี่ตอนเหนื่อยล้าจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ฉันจะไปส่งคุณ”
ซูซีมู่จ้องใบหน้าเล็กที่โกรธของโล่เฟยเอ๋อ รู้สึกว่าเธอน่ารัก…..อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอจะไปส่งเขา? ข้อเสนอนี้ดูไม่เลวซูซีมู่โค้งมุมปาก นั่งลงในที่ผู้โดยสารด้านหน้า
โล่เฟยเอ๋อปิดประตูรถให้เขา หลังจากนั้นก็เดินอ้อมหน้ารถ แล้วขึ้นรถ ถามในขณะที่สตาร์ทรถว่า “บ้านอยู่ที่ไหนคะ?”
“วิลล่าหลันถิง” หลังจากซูซีมู่ ชำเลืองมองโล่เฟยเอ๋อ ถึงตอบ
โล่เฟยเอ๋อเดามานานแล้วว่าซูซีมู่เป็นคนรวย ดังนั้นได้ยินว่าซูซีมู่อาศัยอยู่ในบ้านพักของวิลล่าหลันถิง จึงไม่แปลกใจ
โล่เฟยเอ๋อ ‘อือ’ หนึ่งคำ หลังจากนั้นก็มองไปที่ถนนด้านหน้าอย่างตั้งใจและไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
ซูซีมู่เหลือบตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง รถก็ขับมาถึงวิลล่าหลันถิง
ซูซีมู่แนะนำว่า ให้โล่เฟยเอ๋อจอดรถไว้หน้าบ้านพักของเขา
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ลงจากรถตามกันมา
โล่เฟยเอ๋อ มองด้านหน้าบ้านพักของเขา หลังจากนั้นก็หันไปมองที่ซูซีมู่
“ถึงแล้วค่ะ!” หัวใจของโล่เฟยเอ๋อผิดหวังหน่อย เขามาถึงแล้ว เธอก็ควรไปเหมือนกัน
ซูซีมู่ ‘อือ’ มาเบาๆ แล้วก็พูดอีกว่า “ขอบคุณที่มาส่งผม”
โล่เฟยเอ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆ บังคับหัวใจที่เสียใจยิ้มไปให้ซูซีมู่! “ไม่เป็นไรค่ะ มันควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มอย่างไม่เต็มใจ หลังจากนั้นก็ลดระดับศีรษะลง
ซูซีมู่มองไปที่หัวที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมของโล่เฟยเอ๋อ ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของเขาหรือเปล่า รู้สึกว่าเธอดูเสียใจมาก ผิดหวังมาก
เขายกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว กำลังจะสัมผัสที่เส้นผมของเธอ
มือของเขาที่พึ่งยกได้แค่ครึ่งเดียว ทันใดนั้นโล่เฟยเอ๋อก็เงยหัวขึ้นมา ตอนที่เห็นมือของเขา สายตาของเธอหยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ฉันควรจะกลับได้แล้ว นี่กุญแจรถของคุณค่ะ….”
โล่เฟยเอ๋อบีบกุญแจรถในฝ่ามืออย่างแรง หลังจากนั้นก็เอากุญแจวางในมือของซูซีมู่ที่ยกขึ้น
ซูซีมู่มองกุญแจในมือของโล่เฟยเอ๋อ รู้สึกไม่อยากได้คืนเลย
มือที่ยกไว้ค้างเติ่ง สายตาจ้องมองกุญแจที่อยู่บนมือ มองอย่างตาไม่กระพริบครูหนึ่ง จึงพูดว่า “ครับ”