บทที่ 33 ไม่เต็มใจ
เสื้อผ้าของเธอ? โล่เฟยเอ๋อนิ่งไปครู่หนึ่งถึงเปิดถุงในมือออกดู
ข้างในเป็นเสื้อผ้าที่เธอทิ้งไว้ที่โรงแรมหมิงจู
เมื่อวานเขาบอกว่าได้รับเสื้อผ้าแล้ว ที่แท้เขาก็เอากลับมาด้วย!
โล่เฟยเอ๋อกัดริมฝีปากแน่นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
โล่เฟยเอ๋อซักเสื้อผ้าด้วยหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว
เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นซูซีมู่อยู่ทั้งในห้องครัวและห้องนั่งเล่นแล้ว
โล่เฟยเอ๋อตกใจกำลังจะออกไปตามหาซูซีมู่แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาก่อน
“สวัสดีค่ะ…” โล่เฟยเอ๋อรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าใช่คุณโล่เฟยเอ๋อไหมครับ?” คนปลายสายถามอย่างสุภาพ
“ใช่ค่ะ ฉันคือโล่เฟยเอ๋อ ไม่ทราบว่ามีอะไรเหรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อถามกลับ
“คุณโล่เฟยเอ๋อ ผมอยู่แผนกบุคคลจากบริษัทดี้ก้วน…” คนที่โทรมาอ้างว่าเป็นแผนกบุคคลจากบริษัทดี้ก้วน บอกโล่เฟยเอ๋อว่าเรื่องการเลียนแบบงานทางบริษัทค้นพบความจริงแล้ว เขาขอโทษโล่เฟยเอ๋อในนามบริษัทดี้ก้วนและขอให้โล่เฟยเอ๋อกลับไปทำงานที่บริษัทดี้ก้วนในวันมะรืนนี้
นี่ถือเป็นข่าวที่ดีมาก ๆ โล่เฟยเอ๋อพูดขอบคุณกับอีกฝ่ายซ้ำ ๆ อย่างมีความสุขแล้วถึงวางสาย
ซูซีมู่ลงมาจากชั้นบนพอดีกับตอนที่โล่เฟยเอ๋อวางสาย
เธอรีบวิ่งไปหาซูซีมู่อย่างมีความสุข “ฉันมีอะไรจะบอกคุณ!”
“หืม?” ซูซีมู่เลิกคิ้วขึ้น
โล่เฟยเอ๋อยกยิ้ม เพื่อนร่วมงานที่ใส่ร้ายเธอถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว
“…บริษัทสืบหาความจริงแล้ว ฉันจะได้ไปทำงานวันมะรืนนี้” พูดจบโล่เฟยเอ๋อก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและยิ้มออกมาอย่างเก็บเอาไว้ไม่อยู่
ซูซีมู่มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อแล้วถามออกไปช้า ๆ “ทำไมคุณไม่บอกผม?”
โล่เฟยเอ๋อตอบโดยไม่ได้คิดอะไร “ฉันไม่อยากให้คุณมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
โล่เฟยเอ๋อเหลือบตาลงแล้วพูดออกมา “ฉันถูกไล่ออกมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคุณมาเกี่ยวข้องด้วยจะเป็นยังไง?”
ที่แท้ก็กลัวว่ามันจะทำให้เขาลำบาก… ซูซีมู่มองไปที่หัวของคนตรงหน้าที่เอาแต่ก้มหน้างุดแล้วถามเสียงเบา “ดีแล้วที่มีการตรวจสอบอย่างชัดเจน”
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างมีความสุข “ใช่! เจ๋งมาก!”
เปล่าเลย…ไม่ใช่บริษัทที่เจ๋ง แต่เป็นคุณซูของเธอต่างหากที่เจ๋ง
แต่ที่โล่เฟยเอ๋อพูดมาก็ไม่ผิดเพราะบริษัทดี้ก้วนเป็นของซูซีมู่
ซูซีมู่ครางรับแล้วหันไปเก็บเอกสารให้เรียบร้อยแล้วไว้บนโซฟา
โล่เฟยเอ๋อมองการกระทำของเขาแล้วถาม “คุณจะทำงานเหรอ?”
“มีเอกสารอีกมากที่ต้องอ่าน” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อรีบพูดทันที “ถ้าอย่างนั้นฉันไปนอนนะ”
ซูซีมู่มองเธอแล้วพยักหน้ารับ
โล่เฟยเอ๋อลุกไปถอดที่ชาร์จแบตออกจากเต้ารับ หยิบเอากระเป๋าอีกใบมาไว้บนโซฟา แล้วเดินตามซูซีมู่ไปชั้นบน
ซูซีมู่พาโล่เฟยเอ๋อมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่งบนชั้นสอง “คุณพักห้องนี้”
โล่เฟยเอ๋อเหลือบมองไปที่ประตูห้องที่เธอพึ่งจะหลับไประหว่างวันแล้วพยักหน้า “โอเค”
ซูซีมู่ไม่ได้สังเกตสายตาของโล่เฟยเอ๋อพูดกับเธอ “ผมพักอยู่ประตูถัดไป มีอะไรก็เรียกได้”
ที่แท้ห้องที่เธอนอนเมื่อตอนบ่ายเป็นห้องของเขาและเตียงของเขา
ซูซีมู่เห็นว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก็หันกลับไปที่ประตูห้อง
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองประตูห้องของซูซีมู่พักหนึ่งก็เปิดประตูเข้าไปในห้องที่ซูซีมู่เตรียมเอาไว้ให้
การตกแต่งภายในห้องนี้ไม่ต่างจากห้องของซูซีมู่มากนัก ต่างก็แค่สีของเฟอร์นิเจอร์กับผ้าปูที่นอนเท่านั้น
โล่เฟยเอ๋อวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะแล้วก็เข้านอน
ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้ว แต่เธอตื่นเต้นมากเกินไป
เธอได้กลับไปทำงานที่บริษัทดี้ก้วน! ฉันสามารถออกแบบเครื่องประดับของตัวเองได้แล้ว!
เธอนอนกลิ้งไปมา สุดท้ายก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากใต้หมอนโทรหาหซิวหชูเฉียวเพื่อบอกข่าวดี
หลังจากคุยกับหซิวหชูเฉียวโล่เฟยเอ๋อก็เปิดทีวีไล่ช่องหาละครดู
ดูไปดูมา เธอก็เผลอหลับไป
ซูซีมู่เข้าห้องไปอาบน้ำแล้วก็ไปยังห้องทำงานเพื่ออ่านเอกสารที่ยังอ่านไม่จบต่อจากตอนบ่าย
กว่าจะอ่านจบก็เที่ยงคืนแล้ว
เขาเก็บเอกสารเตรียมกลับห้อง ระหว่างนั้นก็เดินผ่านห้องของโล่เฟยเอ๋อก็ได้ยินเสียงจากภายในห้อง
ดูทีวีเหรอ?
แต่นี่มันเที่ยงคืนแล้ว!
ซูซีมู่ขมวดคิ้ว หยุดเท้าที่กำลังจะก้าวไปยังห้องนอนแล้วถอยกลับไปสองก้าวก็มาถึงประตูห้องของโล่เฟยเอ๋อ ยกมือขึ้นเคาะประตูแต่กลับไม่มีการตอบกลับ
ซูซีมู่เลิกคิ้วขึ้น ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
โล่เฟยเอ๋อหลับสนิทอยู่บนเตียงโดยที่ข้าง ๆ หมอนนั้นมีโทรศัพท์ที่กำลังเล่นละครที่เปิดค้างไว้
พอเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อหลับไปทั้งที่ดูละครซูซีมู่ก็ทั้งตลกทั้งอายแทนเจ้าตัว
เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อมาปิด วางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วจัดการห่มผ้าห่มให้เธอก่อนจะออกจากห้อง
เช้ารุ่งขึ้นในวันที่สอง ตอนที่โล่เฟยเอ๋อลงมาซูซีมู่ก็อยู่ในห้องครัวทำอาหารเช้าแล้ว
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองร่างเพรียวที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารจากข้างหลังอย่างตกตะลึง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงของ ซูซีมู่ดังขึ้น “ตื่นแล้วเหรอ?”
“อ่า…” สติของโล่เฟยเอ๋อกลับมาก็พยักหน้า “อื้อ”
ซูซีมู่พูดขึ้น “ทานข้าวเช้ากัน”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วตามเข้าไปในห้องครัว
ในระหว่างที่ทานข้าวโล่เฟยเอ๋อก็คิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้เธอควรจะกลับได้แล้ว
จริง ๆ แล้วเมื่อวานที่เขาพาเธอมาที่นี่ก็เพราะเธออารมณ์ไม่ดีเท่านั้น
เมื่อวานมารบกวนเขาแล้วก็ยังนอนที่บ้านเขาอีก
เมื่อคิดว่าต้องจากไปโจ๊กรสอร่อยก็กลายเป็นจืดไปทันที
หลังจากเงียบไปพักหนึ่งโล่เฟยเอ๋อก็พูดขึ้นมา “เมื่อวานรบกวนคุณมาเยอะแล้วสักพักฉันจะกลับแล้วล่ะ!”
ซูซีมู่ที่กำลังดื่มโจ๊กอยู่ก็หยุดนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ
เธอจะไปแล้ว? ใช่…เธอควรจะไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องวุ่นวายที่บริษัทก็แก้ไขไปแล้ว เธอก็ควรจะกลับได้แล้ว
ซูซีมู่เงยหน้าขึ้น ตอบเธอเสียงเบา “ไม่เป็นไร” ซูซีมู่หยุดนิ่งไปชั่วคราวแล้วพูดต่อ “เดี๋ยวคุณออกไปพร้อมผมเลยแล้วกัน ทางผ่านพอดี”
ซูซีมู่พูดจบก็ก้มหน้าดื่มโจ๊กต่อ
โล่เฟยเอ๋อตอบรับแล้วกลับไปสนใจโจ๊กตรงหน้าต่อเช่นกัน
หลังอาหารเช้าโล่เฟยเอ๋อตามซูซีมู่ออกมาจากคฤหาสน์พร้อมกัน
หลังจากที่ขึ้นรถแล้วก็ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาเลย
หนึ่งชั่วโมงต่อมาซูซีมู่ก็ขับรถมาจอดตรงหน้าทางเข้าชุมชนปี้ไห
โล่เฟยเอ๋อพูดเสียงเบา “ถึงแล้ว”
ซูซีมู่พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร โล่เฟยเอ๋อจ้องมองซูซีมู่ครู่หนึ่งแล้วถึงเปิดประตูลงมาจากรถ
ซูซีมู่จ้องมองเธอจากข้างหลังด้วยดวงตาสีดำสนิทที่ส่องประกายแห่งความสับสน ลูกกระเดือกเลื่อนขึ้นลงอยู่หลายครั้งอย่างคนคิดอะไรบางอย่าง แต่ที่หน้าอกกลับรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบเอาไว้จนทำให้คิดอะไรไม่ออก
สุดท้ายเขาก็พูด ‘ลาก่อน’ แล้วสตาร์ทรถออกมา