บทที่ 41 โล่หยิวชิวยุแยงโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่กลับมาที่ทะเลสาบเย่วแล้วหนึ่งรอบ กำลังเตรียมตัวจะกลับ
ตอนอยู่ที่ลานกว้างหวั้นด๋า บนหน้าจอก็มีรายงานข่าวขึ้นมาพอดี
“การลงทุนในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกภายใต้บริษัทซูซื่อ 《zero》กำกับโดยคุณจาง ฉายรอบปฐมทัศน์ที่โรงภาพยนตร์ ลานกว้างหวั้นด๋า พรุ่งนี้รอบเย็นเวลาแปดนาฬิกาห้าสิบนาที”
“《zero》ในที่สุดก็ฉายแล้ว!”โล่เฟยเอ๋ออุทานออกมาเบาๆ
ซูซีมู่หันไปมองที่โล่เฟยเอ๋อ,“คุณชอบเหรอ?”
“อืม ฉันชอบหนังที่เขากำกับที่สุด ทุกเรื่องที่เขากำกับฉันดูมาหมดแล้ว。”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อย
ซูซีมู่นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า:“ผมมีตั๋ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อก็ตาป็นประกาย “จริงเหรอ?”
“อืม” ซูซีมู่พยักหน้า แล้วถามกลับ “อยากได้กี่ใบ?”
“สองใบ ไม่ สามใบ” โล่เฟยเอ๋อยื่นมือออกมานับ ‘สอง’ แล้วก็นึกได้ว่าหซิวหชูเฉียวก็ชอบผู้กำกับคนนี้เหมือนกัน ก็รีบเปลี่ยนเป็น‘สาม’
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อขอตั๋วหนังสามใบ ซูซีมู่ก็นิ่งไปครู่หนึ่ง จึงเบือนหน้าหนีแล้วพูดว่า:
“ผมจะให้โจวเฉิงส่งตั๋วให้คุณพรุ่งนี้”
ได้ยินซูซีมู่บอกว่าจะให้โจวเฉิงส่งตั๋วให้คุณพรุ่งนี้ โล่เฟยเอ๋อก็รีบถามกลับ“คุณไม่ไปเหรอ?”
ซูซีมู่นิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง และไม่ตอบ
เขาไม่ไป แล้วเธอจะไปทำอะไรหล่ะ?งั้นต้องการแค่ตั๋วใบเดี๋ยวให้หชูเฉียวก็พอแล้ว
“คุณไม่ไป งั้นขอตั๋วหนังแค่ใบเดียวก็พอแล้ว” โล่เฟยเอ๋อ ตอบโดยไม่ได้คิด
คุณไม่ไป งั้นขอตั๋วหนังแค่ใบเดียวก็พอแล้ว?นั่นคือความหมายที่เขาเข้าใจรึเปล่านะ?ซูซีมู่ค่อยหันหน้าไปมองโล่เฟยเอ๋อ
สีสันของแสงไฟนีออนกระทบลงที่ร่างของซูซีมู่ ทำให้ใบหน้าอันงดงามของเขาเปล่งประกายออกมาอย่างงดงาม
หัวใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบเหลือบตามองเขา “คือว่า……มืดมากแล้ว พวกกลับกันเถอะ”
ซูซีมู่พูดว่า:“ผมจะไป”
โล่เฟยเอ๋อได้ยินเขาพูดก็เงยหน้ามองเขา“จริงเหรอ”
“อืม ผมจะไปรับตอนสองทุ่มนะ” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อทำหน้าบึ้งแล้วรับปาก“ก็ได้”
ซูซีมู่พยักหน้าลงเล็กน้อย แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
ทั้งสองคนเดินออกจากลานกว้างหวั้นด๋าไปด้วยกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันขึ้นรถ……
โล่เฟยเอ๋อออกจากบริษัทตอนเย็นห้าโมงครึ่ง
ตอนที่เพิ่งรอรถไฟใต้ดินอยู่พอด ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลัง“โล่เฟยเอ๋อ”
โล่เฟยเอ๋อหันกลับไปมอง ตอนที่เห็นโล่หยิวชิว ก็ตกใจไม่น้อย “พี่สาว มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ที่จริงแล้วโล่หยิวชิวก็ไม่ได้ต้องการจะเจอโล่เฟยเอ๋อ แต่เดิมเธอตั้งใจไปหาซูซีมู่โดยตรง
เพียงแต่คาดไม่ถึง ซูซีมู่คนคนนี้แต่ไหนแต่ไรเธอมาไม่เคยหาเขาเจอ เธอทำได้แค่ยืมมือโล่เฟยเอ๋อแล้ว
โล่หยิวชิวยิ้มอย่างอ่อนโยนให้โล่เฟยเอ๋อ“ฉันมาเยี่ยมเธอ”
โล่เฟยเอ๋อดีใจมากที่ได้คลี่คลายความสัมพันธ์ก่อนหน้ากับโล่หยิวชิว “ขอบคุณนะพี่”
สายตาของโล่หยิวชิวแวบหนึ่งมีความเหยียดหยาม แต่ต่อหน้ากลับยิ้มให้อย่างสนิทชิดเชื้อ “ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”
โล่เฟยเอ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า:“ได้ แต่ว่าตอนสองทุ่มห้าสิบนาทีฉันมีธุระ”
“ธุระอะไรเหรอ?” ดวงตาของโล่หยิวชิวเหมือนมีแสงสว่างวาบ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า:“กินข้าวแค่มื้อเดียวใช้เวลาไม่นานหรอก ไม่กระทบธุระของเธอหรอก”
โล่เฟยเอ๋อ‘อืม’ออกมาคำเดียว แล้วพูดกับโล่หยิวชิวว่า:“พี่ ฉันขอโทรศัพท์ก่อนนะ”
“ได้”โล่หยิวชิวพยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้คิดอะไรมากนัก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาจากกระเป๋าและโทรหาซูซีมู่
ราวกับว่าซูซีมู่รอโทรศัพท์อยู่แล้ว เขารับสายแทบจะทันทีแล้วตอบกลับ“อืม”
โล่เฟยเอ๋อพูดทางโทรศัพท์:“คือว่า……ฉันจะบอกคุณสักหน่อย คุณไม่ต้องไปรับฉันที่ชุมชนปี้ไหแล้วนะ
ฉันจะไปกินข้าวเย็นกับพี่สาว ไม่กลับไปที่ชุมชนแล้ว หลังเมื่อถึงเวลาฉันกินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็จะตรงไปที่ลานกว้างหวั้นด๋าเลย”
ทางนั้นเงียบไปสองสามวินาที ถึงจะตอบกลับมา‘ได้’
“แล้วเจอกันนะ” โล่เฟยเอ๋อยิ้มเล็กยิ้มน้อย……
หลังจากโล่เฟยเอ๋อคุยกับซูซีมู่เสร็จแล้ว ก็โทรหาหซิวหชูเฉียวอีกครั้ง
หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มให้โล่หยิวชิว “พี่สาว พวกเราไปกันเถอะ”
โล่หยิวชิว‘อืม’มาหนึ่งคำ หลังจากนั้นก็เดินไปกับโล่เฟยเอ๋ออย่างสนิทสนม
พวกเธอมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากบริษัทดี้ก้วน สำหรับกินมื้อเย็น
ในขณะที่รับประทานอาหาร โล่หยิวชิวก็พูดคุยกับโล่เฟยเอ๋อ คุยไปคุยมาก็พูดถึงซูซีมู่
“โล่เฟยเอ๋อ หนุ่มหล่อที่อยู่กับเธอเมื่อวานชื่ออะไรเหรอ?”
“พี่ ถามถึงเขาทำไม?”โล่เฟยเอ๋อมองไปที่โล่หยิวชิวอย่างสงสัย
“ก็ไม่ทำไม ถามไปอย่างนั้นแหละ” โล่หยิวชิวยิ้มตอบกลับไป
โล่เฟยเอ๋อตอบตามความจริง “เขาแซ่ซู ฉันไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไร”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” รอยยิ้มบนใบหน้าของโล่หยิวชิวก็เป็นประกายมากขึ้น เธอคีบอาหารให้โล่เฟยเอ๋อ
“โล่เฟยเอ๋อ กินเยอะๆหน่อย”
“ขอบคุณ พี่สาว”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีโล่หยิวชิวจู่ๆก็ลุกขึ้นแล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อ:“โล่เฟยเอ๋อ โทรศัพท์ฉันแบตเตอรี่หมดแล้วฉันขอยืมโทรศัพท์ของเธอหน่อย”
“ได้สิ” โล่เฟยเอ๋อไม่ปฏิเสธโล่หยิวชิว และหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าส่งให้เธอ
“เธอกินไปก่อนเลย ฉันโทรศัพท์เสร็จแล้วจะกลับมา” โล่หยิวชิวยิ้มให้โล่เฟยเอ๋อ แล้วหยิบโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อก่อนลุกออกไปจากห้องอาหาร
เมื่อประตูห้องอาหารปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของโล่หยิวชิวก็หายไปทันที
เธอหันกลับไปมองด้านหลังแล้วเดินไปอีกด้านของทางเดิน แล้วเปิดรายชื่อติดต่อในโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อ หาชื่อที่บันทึกไว้ว่า แซ่ซู ในที่สุดก็หาเจอ‘มิสเตอร์ซู’สามคำนี้ เธอหยุดไปครู่หนึ่งแล้วรีบบันทึกเบอร์ลงในโทรศัพท์ของเธอ
หลังจากบันทึกเบอร์โทรศัพท์แล้ว เธอก็ตรวจดูโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋ออีกครั้งไม่เจอเบอร์อื่นที่บันทึกว่าแซ่ซู
เธอถึงออกจากรายชื่อติดต่อ
เธอหันกลับไปมองประตูห้องอาหารที่ปิดอยู่ แล้วแสร้งทำเป็นกดเบอร์ลงบนโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อ
หลังจากคุยกับอีกฝ่ายไม่กี่นาทีโล่หยิวชิวก็วางโทรศัพท์ และกลับห้องอาหารไปด้วยความพอใจ
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าแล้วพูดว่า:“พี่สาว พี่กลับมามาแล้ว”
“อืม”โล่หยิวชิวพยักหน้า แล้วส่งโทรศัพท์คืนโล่เฟยเอ๋อ “นี่ โทรศัพท์ของเธอ”
โล่เฟยเอ๋อหยิบโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นพูดว่า:“พี่สาว จะสายแล้ว ฉันควรไปได้แล้ว”
โล่หยิวชิว พูดว่า “ได้สิ”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องอาหาร
โล่หยิวชิวมองตามหลังโล่เฟยเอ๋อเดินออกไปแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าออกมาดูเบอร์ที่เพิ่งจะบันทึกไว้ แล้วกดโทรออกไป
นานทีเดียวกว่าทางนั้นจะรับสาย
“ฮัลโหล”
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย โล่หยิวชิวก็รู้ว่าไม่ได้เอาเบอร์มาผิด
รอยยิ้มมีเลศนัยปรากฏบนใบหน้าของเธอแล้วพูดกลับไปที่โทรศัพท์ว่า:“คุณซู สวัสดี”
ทางนั้นเงียบไปครู่หนึ่งถึงถามกลับว่า “เอาเบอร์มาจากไหน?”
“โล่เฟยเอ๋อให้ฉัน!” โล่หยิวชิวเบะปากแล้วพูดว่า:“เมื่อกี้นี้โล่เฟยเอ๋อให้ฉันเป็นพิเศษบอกว่าอยากจะแนะนำให้ฉัน……”
โล่หยิวชิวยังพูดไม่ทันเสร็จ ทางนั้นก็ตัดสายไป
โล่หยิวชิวไม่ได้โกรธ กลับหัวเราะออกมาแทน
ที่โทรมาหาเขาครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจผิดระหว่างโล่เฟยเอ๋อกับชายคนนั้น…