บทที่51 เขาหนุนหลังเธอ
โล่เฟยเอ๋อ ได้เตรียมใจไว้แต่แรกแล้วว่าเสื้อผ้าในร้านนี้จะต้องมีราคาแพง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยมาซื้อของที่เขตซีหลัน มาก่อน แต่ก็เคยได้ยินมา
กลับไม่คิดว่าเสื้อผ้าจะแพง แต่สุดแสนจะแพง
อย่างน้อยที่ถูกที่สุด ราคาก็เป็นตัวเลขห้าหลัก
โล่เฟยเอ๋อทั้งตกตะลึงและเลือกเสื้อผ้าไปในเวลาเดียวกัน
พนักงานในร้านเมื่อเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อแต่งตัวธรรมดา จึงไม่ได้ทำการต้อนรับดูแลเธอ และทุ่มความสนใจไปที่ลูกค้ารายอื่นในร้านแทน
จนเมื่อโล่เฟยเอ๋อหยิบเสื้อในร้านมาตัวหนึ่ง พนักงานทางนั้นจึงรีบเดินมาหาเธอ
“คุณผู้หญิง เสื้อตัวนี้ไม่เหมาะกับคุณค่ะ”
ไม่เหมาะกับเธอ? โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปครู่หนึ่งแล้ววางเสื้อลง จากนั้นจึงได้หยิบอีกตัวขึ้นมา
สุดท้ายพนักงานจึงได้หยิบเสื้อที่เธอกำลังเทียบไซส์ไปจากมือเธอโดยตรง “คุณผู้หญิง คุณไปเลือกเสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้าดีกว่าค่ะ เสื้อผ้าของทางร้านเราไม่เหมาะกับคุณหรอกค่ะ”
คำพูดของพนักงานสาวในร้านที่พูดออกมา คนรอบข้างหันมามองโล่เฟยเอ๋อเป็นสายตาเดียวกัน หลายคนชี้ไม้ชี้มือไปที่ โล่เฟยเอ๋อ
และโล่เฟยเอ๋อ เข้าใจแล้ว คนอื่นคิดว่าเธอคงไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าในร้านนี้ได้
แท้จริงแล้วโล่เฟยเอ๋อรู้สึกโมโหมาก แต่คนอื่นก็ไม่ได้พูดผิด
เธอไม่สามารถซื้อได้จริง ๆ ถึงเธอจะเป็นทายาทของบริษัทโล่ซื่อก็ไม่สามารถซื้อเสื้อผ้าในร้านนี้ได้ เธอตัดขาดความช่วยเหลือทางการเงินจากตระกูลแล้ว
“ขอโทษนะคะ…” โล่เฟยเอ๋อกำลังจะขอโทษ แต่เสียงอันเย็นชาก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“ไม่เหมาะสม?”
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย โล่เฟยเอ๋อหันไปและพบกับซูซีมู่ยืนอยู่ด้านหลัง “คุณ…เข้ามาทำไม?”
“เข้ามาดู” ซูซีมู่ ที่มีใบหน้าเย็นชา แต่ตอนนี้ใบหน้าเย็นชานั้นมีความน่ากลัวด้วย
เดิมทีซูซีมู่ตั้งใจจะรอโล่เฟยเอ๋อเลือกเสื้อผ้าอยู่ข้างนอก และเข้ามาจ่ายเงินภายหลัง
คิดไม่ถึงว่าระหว่างที่รอโล่เฟยเอ๋ออยู่ด้านนอก กลับได้ยินสิ่งเหล่านั้นที่พนักงานร้านพูดกับโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อ สังเกตได้จากสีหน้าของซูซีมู่ ว่าเขาได้ยินคำพูดพวกนั้น หันไปพูดกับซูซีมู่อย่าลำบากใจ: “ฉันไปดูที่ร้านอื่นดีกว่า”
“ที่นี่แหละ” ซูซีมู่กวาดสายตาใส่พนักงานขายอย่างเย็นชาและเหี้ยมโหด
พนักงานสาวในร้านตกใจกลัวสายตาของซูซีมู่จนตัวสั่นอยู่ตลอด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ซูซีมู่พูดอย่างเย็นชา: “ภายในห้านาที เสื้อผ้าที่เหมาะกับเธอทั้งหมดในร้าน เอาใส่ถุง มีเท่าไหร่เอาเท่านั้น เลยห้านาทีนี้ไป ก็ไม่เอาแล้ว”
“ซูซีมู่ ไม่ต้องสิ้นเปลืองหรอก” โล่เฟยเอ๋อดึงแขนเสื้อซูซีมู่เพื่อปฏิเสธ
“ไม่เปลืองหรอก” เสียเงินซื้อศักดิ์ศรีของเธอ เขาไม่รู้สึกสิ้นเปลืองสักนิด กลับยังรู้สึกว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำ
“แต่ว่า…” โล่เฟยเอ๋อคิดจะพูดต่อ แต่ซูซีมู่กุมมือเธอไว้ไปนั่งที่โซฟาด้านหนึ่ง แล้วพูดเตือนกับพนักงานขายตรงนั้น “พวกคุณยังมีเวลาเหลืออีกสี่นาทีห้าสิบวินาที”
หลังจากคำพูดของซูซีมู่ พนักงานขายในร้านจึงได้สติและรีบหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนชั้นอย่างบ้าคลั่ง กลัวว่าจะช้าไม่ทันใจ อย่างน้อยหยิบได้ชิ้นสองชิ้น
ภายในเวลาห้านาทีที่ซูซีมู่กำหนดไว้ พนักงานในร้านเหล่านั้นจัดใส่ถุงและคิดเงินจนมือไม้อ่อน
หลังจากห้านาทีผ่านไป ซูซีมู่ไม่แม้แต่จะกะพริบตา ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีก็เซ็นชื่อจ่ายเงินเสร็จ
การจ่ายเงินถือได้ว่ารวดเร็ว…เป็นการจ่ายเงินที่มีความสุข…อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นสำคัญคือทุกสายตาต่างจับจ้องโล่เฟยเอ๋อด้วยความอิจฉาริษยา
ไม่อิจฉาไม่ได้ จะมีใครเคยเห็นผู้ชายสักคนรักเอ็นดูผู้หญิงสักคนขนาดนี้รึเปล่า? ซื้ออะไรก็ได้ มีเงินแค่ไหนก็ได้!
เมื่อเซ็นชื่อเสร็จ ซูซีมู่ให้โล่เฟยเอ๋อเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดที่ซื้อก่อนหน้านี้ ส่งนามบัตรให้พนักงานขายคนหนึ่ง ให้พวกเขาส่งของไปที่ที่อยู่ตามนามบัตรนั้น จากนั้นจึงพาโล่เฟยเอ๋อออกจากร้านไป
หลังจากที่ออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้ว โล่เฟยเอ๋อ พูดกับ ซูซีมู่อย่างลำบากใจ: “ซูซีมู่ เสื้อผ้าเมื่อกี้คืนได้รึเปล่า? เงินเยอะขนาดนั้นฉันใช้คืนไม่ไหว”
เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดเช่นนั้น ซูซีมู่โกรธจนแทบปะทุออกจากอก เขาซื้อให้เธอ ไม่ต้องการให้เธอใช้คืน
“ไม่มีใครบอก…” แต่เมื่อหน้าไปเจอกับดวงตาใสดำขลับที่เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและกระวนกระวายคู่นั้นของโล่เฟยเอ๋อ ความโกรธของเขาก็หายในฉับพลัน
น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป: “นอกจากชุดที่คุณใส่ ที่เหลือผมจะให้น้องสาว”
ที่แท้ก็ซื้อให้น้องสาวหรอกเหรอ! โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอก
เสื้อผ้าพวกนั้นราคารวมแล้วซื้อตึกได้เลย
ยังมี…ยังมี…
ไม่อย่างนั้นเธอคงใช้คืนไม่หมด
โล่เฟยเอ๋อคิดไปพลางพร้อมกับยิ้มให้ซูซีมู่อย่างอ่อนแรง “งั้นก็ดีค่ะ”
เมื่อพบว่าโล่เฟยเอ๋อไม่มีสีหน้าของความน้อยเนื้อต่ำใจและกระวนกระวายใจอีกแล้ว ซูซีมู่ ค่อย ๆ
หันไปมองทางอื่น
“ไปคลับดี้เหา”
“ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
วันการจราจรค่อนข้างติดขัด จากเดิมที่ใช้เวลาเพียงยี่สิบนาทีเดินทางจากเขตซีหลัน ไปคลับดี้เหาสุดท้ายวันนี้ใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วโมง
เมื่อซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อไปถึงคนที่ควรมาร่วมงานก็มาเต็มแล้ว
“ซูซีมู่ทำไมนายถึงมาสายขนาดนี้” เมื่อลู่ยู่เห็นซูซีมู่เข้างานมา จึงปลีกตัวจากคนอื่นทันที และรีบมาทักทายเขา
ซูซีมู่ตอบอย่างเรียบเฉย: “มีเรื่องนิดหน่อย”
“นายก็มีเรื่องตลอด…” ลู่ยู่พูดได้เพียงครึ่ง ก็สังเกตเห็นโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ด้านหลังซูซีมู่ งงเป็นไก่ตาแตก
“คุณ…คุณ…ไม่ใช่…” ลู่ยู่ตกตะลึงที่ได้เห็นโล่เฟยเอ๋อ นี่ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่เขาเห็นที่ออกมาจากห้องห้องของซูซีมู่ในวันนั้นหรอกเหรอ? เขาเองยังเคยตั้งใจไปสอบถามซูซีมู่ที่ออฟฟิศในวันที่สองเลย
เหมือนจะยังเคยเจอที่นั่น? ลู่ยู่ย้อนคิดอย่างละเอียดอีกครั้ง…
ใช่แล้ว ครั้งที่แล้วที่หน้าคฤหาสน์ที่clubเจียงหนานคนที่ซูซีมู่ไปตามก็คือเธอ
เป็นเธอไม่ผิดแน่ ในเวลานั้นเขายังคิดว่าคุ้นหน้าเป็นอย่างมาก
“สวัสดีค่ะ” โล่เฟยเอ๋อก็จำลู่ยู่ได้ว่าเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่clubเจียงหนานกับซูซีมู่ แต่ด้วยความที่ไม่สนิทสนม จึงทำได้แค่เพียงทักทายตามมารยาทเท่านั้น และไม่ได้พูดอะไรอีก
“สวัสดีครับ ผมชื่อลู่ยู่” ลู่ยู่ ได้สติยื่นมือไปที่โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อ ยิ้มเล็กน้อยจากนั้นจึงยื่นมือออกไปจับทักทายกับลู่ยู่ “ฉันชื่อโล่เฟยเอ๋อค่ะ”
โล่เฟยเอ๋อ? นั่นไม่ใช่ผู้หญิงที่ CALL หา ซูซีมู่ ที่clubเจียงหนานในคืนนั้นหรอกเหรอ? ลู่ยู่ตกตะลึงอึ้งไปเลย จับมือของโล่เฟยเอ๋อจนลืมปล่อย
โล่เฟยเอ๋อคิดอยากจะดึงมือออก แต่ลู่ยู่ไม่ปล่อยมือ เธอจึงไม่สามารถดึงมือออกมาอย่างแข็งขืนได้ อย่างไรเสียเขาเป็นเพื่อนของซูซีมู่ เธอไม่อยากทำให้ซูซีมู่ ต้องเสียหน้า
ซูซีมู่รู้สึกว่าการที่ลู่ยู่จับมือโล่เฟยเอ๋อเป็นภาพที่ขัดหูขัดตา ทำให้เขาเกิดอยากจะดึงมือออกมา
และในความจริง เขาก็ทำแบบเดียวกัน
เพียงแค่เห็นมือของเขาก็รีบยื่นมือออกไป ให้มือจับมือโล่เฟยเอ๋อแล้วดึงออกจากมือของลู่ยู่ จากนั้นจึงนำตัวเธอไว้ที่ด้านหลังตัวเขา ใช้ตัวเขาเองเป็นที่ขั้นกลางระหว่างลู่ยู่และโล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่ที่กระทำการโดยไม่คาดคิดนี้ ทำให้ทั้งโล่เฟยเอ๋อและลู่ยู่หันไปมองเขา
“ซูซีมู่นายทำอะไร?” ลู่ยู่ถามเชิงบ่น
เขาทำอะไร? ในใจของซูซีมู่เองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน