บทที่55 ข้อเรียกร้องของโล่หยิวชิว
ซูซีมู่ ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อรีบไปออฟฟิศที่เมืองหลวง หลังจากจัดการกับเหตุฉุกเฉินแล้ว เมื่อกลับมาที่ เมืองA ก็เป็นวันถัดไปแล้ว
ยุ่งอยู่ทั้งคืนเมื่อเขากลับไปที่คฤหาสน์ก็อาบน้ำและพักผ่อนแล้ว
จนเมื่อโทรศัพท์ของลู่ยู่ที่โทรเข้ามาทำให้เขาตื่น
เมื่อได้ยินลู่ยู่เตือนว่าต้องไปทานอาหารเย็นด้วยกันที่หยู้ผินเซียง ซูซีมู่ถือโอกาสให้ลู่ยู่บอกให้เหซิงโม่ไปนั่งเล่นที่คลับดี้เหาในตอนบ่าย
หลังจากวางสาย ซูซีมู่ลุกจากเตียงไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นจึงขับรถไปที่คลับดี้เหา
เมื่อเขาไปถึงคลับดี้เหา ลู่ยู่และเหซิงโม่ก็เดินเข้ามาพอดี
ลู่ยู่เห็นซูซีมู่ก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน “ซูซีมู่วันนี้นายมาตรงเวลาจังนะ”
ซูซีมู่กวาดสายตามองไปที่ลู่ยู่อย่างเย็นชาและไม่พูดอะไร
เมื่อได้รับสายตาจากซูซีมู่ ลู่ยู่รีบแอบอยู่หลังเหซิงโม่ “เฮ้ย ๆ เหซิงโม่ ช่วยด้วย ซูซีมู่กำลังจะใช้พลังน้ำแข็งแช่แข็งฉันแล้ว”
เจ้าเด็กนี่ยังคงกลัวซูซีมู่อยู่เสมอ แต่ก็ยังชอบไปยั่วโมโหเขาอยู่เรื่อย เหซิงโม่ยื่นมือไปตบหน้าผากลู่ยู่หนึ่งทีแล้วหัวเราะ “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
“เหซิงโม่นายมันไม่มีน้ำใจ” ลู่ยู่สีหน้าคับแค้นใจ
เหซิงโม่ไม่สนใจเขา และเข้าไปทักทายซูซีมู่ “ไม่เจอนานเลยนะ”
“ไม่เจอนานเลยนะ” ซูซีมู่พยักหน้าด้วยความเรียบเฉย
เหซิงโม่ไม่ถือสาความเฉยชาของซูซีมู่ เขายิ้มและถาม “ได้ยินลู่ยู่บอกว่าเมื่อกี้วันก่อนนายได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ยังไม่หายดีเหรอ?”
“ค่อยยังชั่วแล้ว” ซูซีมู่ตอบ
“นาย…” เหซิงโม่ยังมีอะไรจะพูดต่อ ลู่ยู่กลับร้องโวยวายอยู่ทางนั้น: “พวกนายยังจะคุยอะไรกัน เอาไว้ไปคุยกันที่ห้องสิ จะมาคุยอะไรกันในล็อบบี้?”
ได้ยินลู่ยู่พูดดังนั้นเหซิงโม่จึงไม่พูดอะไรอีก
ซูซีมู่มองไปที่ลู่ยู่จากนั้นจึงหันหน้าไปโบกมือให้บริกรที่อยู่ไม่ไกล “นายช่วยไปบอกผู้จัดการให้เปิดห้อง999 ทีนะ”
“ครับ” เมื่อบริกรได้ยินว่าเป็นห้องสมาชิกพรีเมียม จึงรีบไปที่ออฟฟิศตามคำสั่งของซูซีมู่
ลู่ยู่ที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น: “ซูซีมู่นายไม่ได้เอาการ์ดมาเหรอ? งั้นไปห้องฉันก็ได้”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรและเดินตรงไปที่ลิฟต์
ลู่ยู่เอามือลูบจมูก เดินเข้าลิฟต์พร้อมกับเหซิงโม่ตามหลังซูซีมู่ไป
เมื่อพวกเขาถึงหน้าห้อง 999 ผู้จัดการคลับดี้เหาก็รีบวิ่งมาจากอีกทางหนึ่ง
เมื่อเขากล่าวทักทายซูซีมู่ และพวกทั้งสามคนแล้ว จึงหยิบการ์ดขึ้นมาเพื่อเปิดประตู
รอซูซีมู่และพวกเข้าไปในห้องแล้ว ผู้จัดการจึงหยุดอยู่หน้าซูซีมู่ ทำความเคารพและยื่นการ์ดให้ “คุณซูนี่คือการ์ดที่คุณทำตกไว้ครับ”
ซูซีมู่มองดูการ์ดในมือพนักงานอย่างงุนงงอยู่นานโดยไม่ยื่นมือออกไปรับ
เมื่อวานเขาให้การ์ดโล่เฟยเอ๋อไปเพื่อเปิดห้อง ทำไมมาอยู่ที่นี่?
“ทำไมถึงอยู่ที่นี่?” ซูซีมู่ถามอย่างเย็นชา
“เมื่อวานมีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งนำมาฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ ให้พวกเรานำมาคืนคุณซูครับ”
ซูซีมู่รู้ได้โดยไม่ต้องคิดว่าใครฝากการ์ดเอาไว้ที่เคาน์เตอร์
แต่เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมโล่เฟยเอ๋อถึงได้ฝากการ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์ ถึงเธอจะอยากคืนมันให้กับเขา เธอก็ควรเอามันไปคืนที่คฤหาสน์สิ
ลู่ยู่ที่อยู่ข้าง ๆ เอียงคอถาม: “ซูซีมู่เมื่อวานนายเอาการ์ดให้โล่เฟยเอ๋อเหรอ?”
ซูซีมู่ตอบอือสั้น ๆ และรับการ์ดมาจากมือของผู้จัดการ
“ทำไมโล่เฟยเอ๋อถึงเอาการ์ดนายฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ล่ะ?” ลู่ยู่หยุดไปชั่วครู่ จากนั้นจึงพูดเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้: “ใช่แล้ว คงเพราะนายหนีออกไปก่อนแน่ ๆ เธอก็เลยทำแบบนี้”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เขาไม่คิดเป็นเพราะเหตุนี้ และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตนเองจึงได้ขนาดนี้
ลู่ยู่ยังพูดต่อ: “ซูซีมู่เมื่อวานนายรีบไปไหน? โล่เฟยเอ๋อมาหานาย พอไม่เจอก็ร้อนรนใหญ่”
“เธอร้อนรนเหรอ?” ซูซีมู่หันไปมองลู่ยู่
ลู่ยู่พยักหน้า “ใช่สิ เมื่อวานพอนายไปไม่นาน โล่เฟยเอ๋อก็มาถามฉันว่านายไปไหน ฉันบอกว่านายกลับไปแล้ว เธอประหลาดใจมากเลย” ลู่ยู่นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงถาม “ฉันว่าซูซีมู่นายกลับไปไม่บอกโล่เฟยเอ๋อสักคำเลย…”
ร้อนรนมาก? ประหลาดใจมาก นายไม่บอกเธอสักคำ?
ลู่ยู่พูดแบบนี้ ทำให้ซูซีมู่หน้าซีดในฉับพลัน
แม้แต่ลู่ยู่ยังรู้ ตอนที่เขาจะไป เขาควรบอกเธอสักคำ
แต่เขาไม่ได้ทำ
โล่เฟยเอ๋อที่ร้อนรนตามหาเขาในตอนนั้น จะรู้สึกอย่างไรนะ?
เมื่อเขาคิดถึงเธอและตั้งใจจะไปเธอ กลับมีเรื่องฉุกเฉินที่บริษัทมาขัดจังหวะเสียอีก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะผู้จัดการนำการ์ดที่เธอฝากไว้มาให้เขา เขาก็คงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว…
เมื่อเห็นสีหน้าซูซีมู่ไม่ค่อยปกติ เหซิงโม่หันหน้าไปถามลู่ยู่ “โล่เฟยเอ๋อนี่ใคร?”
ลู่ยู่แอบมองซูซีมู่ จากนั้นจึงกระซิบเบา ๆ “เป็นผู้หญิงที่ซูซีมู่ได้พบเมื่อเร็ว ๆ นี้…”
ซูซีมู่นั่งงุนงงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นจึงลุกขึ้นจากโซฟา “ฉันไปก่อนล่ะ”
ลู่ยู่ถามขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว “ไป? ซูซีมู่นายไม่ได้จะไปกินข้าวเย็นกับพวกเราเหรอ?”
“นัดใหม่” ซูซีมู่พูดออกมาสองคำ และออกจากห้องไป
หลังออกมาจากห้องแล้ว เขาตรงออกจากclubและโทรหาโล่เฟยเอ๋อ ไปด้วย
สุดท้ายโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อก็เหมือนเมื่อวาน โทรไม่ติด
ความตื่นตระหนกที่อธิบายไม่ได้อยู่ในหัวใจของซูซีมู่
เขาออกไปจากคลับดี้เหาอย่างรีบร้อน จากนั้นจึงรีบขับรถไปที่ชุมชนปี้ไห เพื่อไปหาโล่เฟยเอ๋อ…
เมื่อขับไปถึงชุมชนปี้ไห ซูซีมู่จึงคิดขึ้นมาได้ เขาไม่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋ออาศัยอยู่ห้องไหน ชั้นไหน ตึกไหนในชุมชนปี้ไห
ซูซีมู่นั่งคอตกอยู่ในรถ เตรียมที่จะยืนเฝ้ารออยู่หน้าประตูคอนโด
เขารออยู่ไม่กี่นาที ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
เป็นโล่เฟยเอ๋อรึเปล่า? ซูซีมู่หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าด้วยความยินดี
ผลคือโทรศัพท์โชว์ว่าเป็นเบอร์ของโล่หยิวชิวโทรเข้ามา แววตาปีติของซูซีมู่ค่อย ๆ เลือนหายไป และมีความเย็นชาเข้ามาแทนที่
เดิมทีซูซีมู่คิดจะตัดสายทิ้ง แต่วินาทีที่นิ้วแตะลงไป เขาหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกดรับสายแทน
โล่หยิวชิว ทางนั้นน้ำเสียงดีใจ “คุณซู”
คุณซู ‘อือ’ ตอบห้วน ๆ จากนั้นจึงถาม “คุณรู้ไหมว่าโล่เฟยเอ๋ออยู่ไหน?”
เมื่อได้ยินซูซีมู่ถามหาโล่เฟยเอ๋อ น้ำเสียงโล่หยิวชิวก็ลากสูงไปแปดเท่า “คุณถามหาโล่เฟยเอ๋อทำไม? คุณกับเธอยังมีอะไรกันอีกเหรอ?”
ซูซีมู่ไม่ตอบคำถามโล่หยิวชิว ทำเพียงแค่ย้ำคำถามของตัวเอง “เธออาศัยอยู่ที่ไหน?”
โล่หยิวชิวตอบด้วยท่าทีสงบลงหลังจากนั้น “ฉันบอกคุณให้ก็ได้ว่าโล่เฟยเอ๋ออยู่ที่ไหน แต่มีข้อแม้”
ซูซีมู่ขมวดคิ้วและพูดคำหนึ่ง “พูด”
“ฉันจะบอกคุณต่อหน้า” โล่หยิวชิวพูด
ซูซีมู่ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ สุดท้ายจึงพูดไปด้วยความเรียบเฉย “อีกครึ่งชั่วโมง ที่หน้าตึกตึกอวิ๋นเหซียง” พูดจบซูซีมู่ไม่รอคำตอบของโล่หยิวชิว และตัดสายโทรศัพท์ไป
เขาทอดสายไปทางประตูใหญ่ชุมชนปี้ไหอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงขับรถไปที่ตึกอวิ๋นเหซียงเพื่อพบโล่หยิวชิว