บทที่77 สรุปใครลอกใครกันแน่
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สายมาก ดังนั้นจึงไม่ได้พลาดอะไรไป
หลังจากที่เย่รู่ไป๋พูดจบ ก็รีบออกไปอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่เย่รู่ไป๋ออกไป พนักงานด้านหน้าก็ถือไมค์พูด ให้ทุกคนส่งแบบร่างออกแบบ
จางเจียเจียควักมือเรียกโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ พวกเราไปส่งแบบกัน”
“คนเยอะขนาดนั้น เธอไปก่อนเถอะ” โล่เฟยเอ๋อมองดูคนที่ยืนเป็นกลุ่มแวบหนึ่ง ขมวดคิ้ว
“ก็ได้ ฉันไปก่อนละ” จางเจียเจียมองโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง จากนั้นวิ่งเยาะๆไปทางกลุ่มคน
โล่เฟยเอ๋อมองดูจางเจียเจียที่วิ่งไปอย่างรีบร้อน ส่ายหน้าแล้วหัวเราะ
โล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ขยับ กระทั่งคนตรงหน้าน้อยลงแล้ว ถึงลุกขึ้น
แต่ว่าเธอยังเดินไม่ถึงด้านหน้า ก็มีคนขวางเธอไว้
“มีธุระอะไรเหรอ” มองถังหซิวฉีที่ขวางทางตัวเองอยู่ คิ้วของโล่เฟยเอ๋อค่อยๆขมวดขึ้นมา
ถังหซิวฉีชำเลืองมองโล่เฟยเอ๋อสักพัก จากนั้นพูดเย้ยหยัน “ไม่มีอะไร แค่อยากจะบอกว่า โดนเย่รู่ไป๋จับได้ว่ามาสายแล้ว แต่ยังไม่โดนไล่ออก เธอชั่งโชคดีจริงๆ”
เธอชินกับคำเย้ยหยันของถังหซิวฉีตั้งนานแล้ว และสามารถกลับไปอย่างมีความสุข “ขอบคุณ ฉันรู้อยู่แล้วว่าโชคของฉันดีกว่าเธอ ไม่เช่นนั้นทำไมของที่ฉันไม่เอา เธอมักจะพยายามคิดหาวิธีให้ได้มาละ”
ได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ หน้าของถังหซิวฉีก็ซีด
ไม่ว่าไม่นานเธอกลับมาปกติตามเดิม “โล่เฟยเอ๋อ หวังว่าอีกหน่อยเธอยังจะยิ้มออกมาได้”
โล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของถังหซิวฉี เธอแค่คิดว่าถังหซิวฉีก็แค่พูด
ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดถังหซิวฉี จากนั้นเดินอ้อมถังหซิวฉีที่ยืนขวางตรงหน้าตัวเองอยู่ แล้วเดินไปข้างหน้า
ถังหซิวฉีมองตามหลังโล่เฟยเอ๋อ ริมฝีปากที่ละเอียดละออ ยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยเล็กน้อย
แม้ว่าจะเป็นแค่การแข่งขันเล็กๆภายในแผนกออกแบบเท่านั้น แต่ที่บริษัทดี้ก้วนให้ความสำคัญก็คือความยุติธรรมและยึดมั่นในส่วนรวม หลังจากส่งแบบร่างออกแบบเสร็จ ก็จะมีกรรมการดำเนินการวิจารณ์ในเดี๋ยวนั้นเลย จากนั้นก็ประกาศผลการแข่งขัน
ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนส่งแบบร่างเสร็จ ก็กลับไปนั่งรอที่ที่นั่งของตัวเอง
เนื่องจากเป็นคนในแผนกเดียวกัน แม้จะพูดว่าเพราะการแข่งขันทำให้กลายเป็นคู่แข่ง แต่ท้ายที่สุดก็ล้วนเป็นคนคุ้นเคย ดังนั้นจึงนั่งจับกลุ่มพูดคุยกัน
โล่เฟยเอ๋อและจางเจียเจียพวกเธอคุยกันไปหลายประโยค เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋าแล้วเปิดดู แต่ก็ไม่เห็นข้อความและเบอร์ของซูซีมู่โทรมา โล่เฟยเอ๋อดวงตาเศร้าหมอง กดเปิดเว่ยป๋อ แล้วอ่านข่าว
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน คณะกรรมการที่อยู่ด้านหน้าเริ่มถกเถียงกัน
ทุกคนล้วนมองดูกรรมการที่กำลังถกเถียงกันอย่างงุนงง ซุบซิบเสียงเบา สรุปพวกเขากำลังเถียงกันเรื่องอะไร
ผ่านไปประมาณห้านาที เย่รู่ไป๋ที่ออกไปแล้วก็กลับเข้ามา กรรมการที่กำลังถกเถียงกันอยู่ก็หยุดเถียงกัน
และก็ไม่รู้ว่าพวกกรรมการพูดอะไรกับเย่รู่ไป๋ หน้าของเย่รู่ไป๋ก็ตึงเครียดขึ้นมา
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อกำลังจะหันหน้ามาเล่นโทรศัพท์ต่อ เสียงของเย่รู่ไป๋ก็ดังผ่านไมค์ออกมา
“การแข่งขันในครั้งนี้เกิดเรื่องที่เลวทรามขึ้น ดังนั้นการแข่งขันจึงหยุดลงชั่วคราว”
ได้ยินการแข่งขันต้องหยุดลงชั่วคราว สายตาของทุกคนล้วนมองไปที่เย่รู่ไป๋ รวมทั้งโล่เฟยเอ๋อ
เย่รู่ไป๋หรี่ตา จากนั้นพูด “พบว่ามีการลอกกันในการแข่งขัน พวกคุณน่าจะชัดเจนสำหรับนักออกแบบ การลอกเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมากแค่ไหน อีกอย่างแม้ว่าฉันจะเพิ่งมา แต่ก็ได้ยินมาว่าหัวหน้าคนก่อนถูกไล่ออกเพราะอะไร ดังนั้นวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องที่มีการลอกกันนี้ให้ดี”
น้ำเสียงของเย่รู่ไป๋เรียบเฉย แต่มีความโกรธปนอยู่ในน้ำเสียง และไม่ได้ปกปิด
ในห้องประชุมเงียบจนแม้แต่เข็มตกลงบนพื้นก็ได้ยิน
เย่รู่ไป๋เหมือนกับจะพอใจกับผลที่ออกมาเป็นแบบนี้มาก สายตาของเย่รู่ไป๋กวาดตามองไปรอบๆห้องประชุมรอบหนึ่ง จากนั้นพูด “ตอนนี้ทุกคนมาดูภาพออกแบบสองชุดนี้”
พอเสียงของเย่รู่ไป๋สิ้นสุดลง ภาพวาดออกแบบสองภาพก็ปรากฏขึ้นบนจอ LED ที่อยู่ด้านหลังเขา
ภาพวาดออกแบบสองภาพได้ปรากฏบนจอจอแสดงผล LED คนทั้งหมดในห้องประชุมล้วนอุทานด้วยความตกใจ
ภาพวาดออกแบบสองภาพนี้ คล้ายกันมากจริงๆ ไม่สิ ควรจะพูดว่า นอกจากสีของอัญมณีแล้วที่ไม่เหมือนกัน บนพื้นฐานแล้วภาพวาดออกแบบสองภาพนี้เหมือนกันมาก
เห็นได้ชัดว่าเป็นการลอกกัน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่สองคนจะมีความคิดที่เหมือนกัน แม้แต่ลายเส้นบนแหวนก็เหมือนกันมาก เพียงแค่ไม่รู้ว่าใครลอกใครกันแน่
โล่เฟยเอ๋อมองเห็นภาพวาดออกแบบที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอLED สีหน้าเหลือเชื่อ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ภาพวาดของใครถึงได้เหมือนกับของฉัน”
โล่เฟยเอ๋อมองดูภาพวาดออกแบบอีกภาพ เหมือนกันจริงๆ แม้แต่การออกแบบเล็กที่เธอตั้งใจเพิ่มให้เหมาะสมกับแบบแหวนผู้ชาย ของอีกฝ่ายก็มี
แน่นอนว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ใช่คนโง่พอที่จะคิดว่าแนวคิดการออกแบบของคนอื่นจะเหมือนกับของตัวเองจริงๆ จะคิดว่าคนอื่นจะเหมือนกับตัวเองตั้งใจทิ้งภาพออกแบบแหวนผู้ชายไว้ เธอแน่ใจเป็นอย่างมากว่าคนนั้นแอบดูภาพออกแบบของเธอ เพียงแค่ไม่รู้ว่าคนนี้แอบดูตอนไหน
โล่เฟยเอ๋อยังไม่สามารถหาคำตอบได้ คำพูดของเย่รู่ไป๋ดังขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าของภาพวาดทั้งสองภาพนี้คงไม่ต้องให้ฉันต้องเชิญด้วยตัวเองหรอกมั้ง”
หลังจากเย่รู่ไป๋พูดจบลง ถังหซิวฉีก็ลุกขึ้นยืน
เป็นถังหซิวฉี โล่เฟยเอ๋อจ้องถังหซิวฉีอย่างโกรธแค้น
ในที่สุดเธอก็เข้าใจที่ถังหซิวฉีพูดเมื่อกี้ “หวังว่าอีกหน่อยเธอยังจะยิ้มออกมาได้” ความหมายคืออะไร
เธอขโมยภาพออกแบบของตัวเอง แล้วยังโบยว่าตัวเองเป็นคนลอก
ตามประสบการณ์ที่เคยเจอมา ถังหซิวฉีชนะทุกครั้ง แต่ครั้งนี้โล่เฟยเอ๋อไม่มีทางให้เธอชนะแน่ ไม่มีทางแน่นอน โล่เฟยเอ๋อออกแรงบีบนิ้วมือ
ถังหซิวฉียิ้มเยาะเย้ยให้โล่เฟยเอ๋อ จากนั้นพูดกับอย่างผงาด เย่รู่ไป๋ “เย่รู่ไป๋ ภาพแรกเป็นภาพที่ฉันวาด เป็นแนวคิดการออกแบบที่ฉันคิดขึ้นมาเอง เพื่อนร่วมงานของฉันสามารถเป็นพยานให้ฉันได้”
ถังหซิวฉีพูดจบ เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างเธอหลายคนก็พากันลุกขึ้นและบอกว่าเมื่อวานพวกเขาเห็นถังหซิวฉีวาดภาพออกแบบเองกับตา ถังหซิวฉีไม่มีทางลอกแน่นอน
เย่รู่ไป๋มองพวกถังหซิวฉีแต่ไม่พูดอะไร ผ่านไปสักพักเขาถึงพูด “ภาพออกแบบภาพที่สองใครเป็นคนวาด”
“ฉันเอง” โล่เฟยเอ๋อยอมรับเองว่าเธอไม่ได้ลอก ยืนขึ้นอย่างผงาด
เห็นโล่เฟยเอ๋อยืนขึ้น สายตาของทุกคนในห้องประชุมก็มองมาที่เธอ มีสายตาทุกแบบ
“เธออีกแล้ว” เย่รู่ไป๋มองโล่เฟยเอ๋อ สีหน้าของเขาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
โล่เฟยเอ๋อเม้มปาก จากนั้นพูด “ภาพออกแบบภาพนี้ฉันเป็นคนวาด แต่ฉันไม่ได้ลอก”
สีหน้าของเย่รู่ไป๋ไม่เปลี่ยน เพียงแค่พูดอย่างเรียบเฉย “เธอมีพยานพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ลอก แล้วคุณละ ก็มีพยานเหมือนกันเหรอ”
“ฉันไม่มีพยาน” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า