บทที่ 70 ดูหนังด้วยกัน
ซูซีมู่ล้างมือออกมาจากห้องน้ำ โล่เฟยเอ๋อกำลังพลิกดูหนังสือภาพอยู่บนโซฟา
เขานั่งลงมาที่เดิม หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมา: “ ตอนเย็นมีงานเลี้ยง เพราะฉะนั้นจะกลับเมืองAช้าหน่อย ได้ไหม? ”
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมามองเขา หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ ได้ค่ะ ”
ซูซีมู่ส่งเสียงอือเบาๆ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ ถึงตอนนั้นคุณไปเข้าร่วมงานเลี้ยงกับผมนะ ”
โล่เฟยเอ๋อชะงักไปนิดหน่อย หลังจากนั้นก็พูดถามขึ้นมา “ ถ้าฉันตามคุณไปด้วย คงไม่ดีมั้งคะ ”
“ ไม่หรอก เป็นงานเลี้ยงส่วนตัวน่ะ ” เป็นซูซีมู่เองที่เชิญรองประธานบริษัทกลุ่มนายทุนLMรับประทานอาหารเป็นการส่วนตัว ดังนั้นซูซีมู่ถึงได้พาโล่เฟยเอ๋อไปด้วย
ถ้าเป็นที่สาธารณะ ซูซีมู่ก็คงจะไม่ไป
ได้ยินซูซีมู่บอกว่าเป็นงานเลี้ยงส่วนตัว โล่เฟยเอ๋อถึงได้พยักหน้า “ ได้ค่ะ ”
ซูซีมู่ส่งเสียงอือ หลังจากนั้นก็หยิบแผ่นซีดีออกมาจากในกระเป๋าราชการ “ แผ่นหนังเรื่องzero ดูไหม? ”
ไม่ใช่ว่าแผ่นหนังเรื่องzero อยู่ที่เมืองA หรอ? ทำไมเขาถึงได้พามาที่เมืองหลวงละ?
โล่เฟยเอ๋อมองแผ่นซีดีที่อยู่บนมือซูซีมู่อย่างสงสัย หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ ดูค่ะ ”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาลุกขึ้นหยิบเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมาจากในกระเป๋าราชการ เปิด และใส่แผ่นซีดีลงไปในคอมพิวเตอร์ ถึงค่อยส่งให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อรับคอมพิวเตอร์มา สายตาไปหยุดอยู่บนกองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะชาข้างหน้าซูซีมู่ “ ไม่รบกวนคุณใช่ไหม? ฉันไปดูในห้องดีกว่า ”
พูดเสร็จโล่เฟยเอ๋อก็ทำท่าจะลุกขึ้น แต่กลับถูกซูซีมู่เรียกไว้เสียก่อน
“ ดูด้วยกัน ”
ดูด้วยกัน? ยังมีเอกสารมากมายที่ยังไม่ได้อ่านไม่ใช่หรอ? สายตาของโล่เฟยเอ๋อไปหยุดอยู่บนกองเอกสารที่อยู่ข้างหน้าซูซีมู่
สังเกตได้ถึงสายตาของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่จึงพูดอธิบาย: “ ไม่รีบอ่าน ”
“ โอ้ ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า หลังจากนั้นก็กอดคอมพิวเตอร์และนั่งลงข้างซูซีมู่ ระยะห่างขนาดหนึ่งช่วงแขน
กลัวว่าซูซีมู่จะมองไม่เห็น โล่เฟยเอ๋อจึงพยายามวางคอมพิวเตอร์ให้เอียงไปทางซูซีมู่
ซูซีมู่เอียงหัวมองโล่เฟยเอ๋อนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ขยับตัวเข้าไปใกล้โล่เฟยเอ๋อ
เดิมทีระยะห่างขนาดหนึ่งช่วงแขน ใกล้เข้ามาเป็นระยะห่างไม่เท่าหนึ่งกำปั้น
ใกล้จนโล่เฟยเอ๋อสามารถมองเห็นรูขุมขนบนใบหน้าของซูซีมู่ได้อย่างชัดเจน และสามารถรับรู้ถึงลมหายใจของซูซีมู่
เดิมทีหนังเรื่องนี้ โล่เฟยเอ๋อรอคอยที่จะดูมันมาก แต่วันนี้เธอกลับดูอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ช่วยไม่ได้ เพราะเธอตื่นเต้นเกินไป
ลมหายใจของซูซีมู่ อุณหภูมิร่างกายของซูซีมู่ กลิ่นที่อยู่บนตัวของซูซีมู่ ไม่มีสักอย่างที่ไม่ทำให้เธอตื่นเต้น
ถึงแม้ว่าจะตื่นเต้นมาก แต่โล่เฟยเอ๋อยังคงใช้สายตามองไปที่ซูซีมู่อย่างอดไม่ได้ มองผู้ชายที่ตัวเองรักมาก
เธอหวังให้เวลาหยุดอยู่ในช่วงเวลานี้จริงๆ ให้พวกเขาได้หยุดอยู่ในช่วงเวลานี้ตลอดไป
แต่ความจริงกลับทำไมได้
เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก
เป็น สงเฟยเหวิน ที่มาเตือนซูซีมู่ว่าควรไปตามนัดได้แล้ว
“ ประธานซูคะ งานเลี้ยงกับ คุณเย่ ตอนหนึ่งทุ่มครึ่งค่ะ ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงแล้วนะคะ ”
ซูซีมู่ส่งเสียงอือนิ่งๆ หลังจากนั้นก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อ: “ ค่อยดูต่อตอนกลางคืนไหม? ”
“ อือ ได้ค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า ปิดหนังบนคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นก็เอาแผ่นซีดีออกมาจากที่ใส่ซีดี
ปิดคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเก็บของของตัวเอง
รอจนกินอาหารค่ำเสร็จ ก็ต้องกลับไปที่เมืองAเลย ไม่ได้กลับมาที่โรงแรมแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องเอาของไปด้วย
สงเฟยเหวิน ช่วยซูซีมู่เก็บของเสร็จแล้ว เห็นโล่เฟยเอ๋อยังเก็บไม่เสร็จ จึงเดินไปช่วยโล่เฟยเอ๋อ “ คุณหนูโล่คะ ฉันช่วยค่ะ ”
“ ขอบคุณค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพูดขอบคุณ และส่งถุงให้ สงเฟยเหวิน
ตอน สงเฟยเหวิน รับถุงมา ก็เห็นสีทาเล็บบนนิ้วนางข้างขวาของโล่เฟยเอ๋อพอดี เธอจึงพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างเล่นหน้าเล่นตา: “ สีทาเล็บบนมือคุณหนูโล่สวยจังเลยนะคะ ประธานซูเป็นคนทาให้ใช่ไหมคะ? ”
ได้ยินคำพูดของ สงเฟยเหวิน โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเขินอาย หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาเสียงเบา: “ ความหมายของการทาสีเล็บนั้น คุณอย่าบอกเขานะคะ ”
ที่โล่เฟยเอ๋อไม่ให้ สงเฟยเหวิน บอกความหมายของการทาสีเล็บกับซูซีมู่ ก็เพราะไม่อยากให้ซูซีมู่รู้ความคิดของเธอยังไงละ
แต่ สงเฟยเหวิน นึกว่าโล่เฟยเอ๋อหน้าบางถึงไม่อยากบอกซูซีมู่ จึงยอมช่วยเธอปิดบัง
“ ได้ค่ะ ฉันจะไม่บอกประธานซู ”
ได้ยิน สงเฟยเหวิน ยอมช่วยปิดบัง โล่เฟยเอ๋อก็ค่อยโล่งใจหน่อย
หลังจากที่เก็บของเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกมาจากโรงแรม
ประตูทางเข้าโรงแรม มีคนขับรถที่มารับพวกเขาที่สนามบินตอนเช้าได้มารออยู่แล้ว
เห็นพวกซูซีมู่ออกมา เขาจึงรีบลงจากรถ และเดินมาเปิดประตูรถให้
สงเฟยเหวิน นั่งอยู่ข้างคนขับ ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อนั่งขนาบกันอยู่ข้างหลัง
ทางที่รถกำลังแล่นไป ไม่ใช่ทางเข้าเมือง แต่เลียบไปทางสายนอก ขับไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวง เพราะไม่ได้เข้าเมือง ดังนั้นจึงไม่พบกับสถานการณ์รถติด
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป โล่เฟยเอ๋อก็มองเห็นสิ่งปลูกสร้างที่ภายนอกเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรปที่โดดเด่นมาแต่ไกล
ต่อให้โล่เฟยเอ๋อไม่มีความรู้เรื่องนี้ แต่ก็รู้ว่าอาคารสไตล์ยุโรปแบบนี้เป็นสถานที่ที่คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้
รถแล่นมาถึงหน้าประตูอาคาร โล่เฟยเอ๋อถึงรู้ว่าที่นี่คือคลับ
ไม่เหมือนสไตล์ของคลับดี้เหาที่เมืองAเลยสักนิดเดียว ที่นี่เป็นทัศนียภาพแบบสวนหย่อม มีลานบ้าน มีศาลา วิวทิวทัศน์ตามแบบธรรมชาติ มีภูเขาและแม่น้ำ
“ ที่นี่สวยมากเลยค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพูดชมขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
สายตาที่เย็นชามาโดยตลอดของซูซีมู่ ปรากฏรอยยิ้มขึ้น “ ชอบ? ”
“ อือ ชอบ ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า เบนสายตาไปมองซูซีมู่ “ สวยกว่าคลับดี้เหาเยอะเลยค่ะ ”
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าที่นี่คือคลับของบ้านซู ต้อนรับแค่แขกระดับสูงของบ้านซูเท่านั้น คลับดี้เหาเทียบไม่ติด?
“ ชอบขนาดนั้นเลย? ” ซูซีมู่รู้สึกคาดไม่ถึง
เขารู้ว่าของที่โล่เฟยเอ๋อชอบกินมากทีสุดคือทีรามิสุ งานอดิเรกที่ชอบคือออกแบบอัญมณี ทั้งสองสิ่งก็นำหน้าความรู้ที่เขามีต่อคุณหนูบ้านโล่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเธอจะชอบสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบแบบนี้ด้วย
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “ แน่นอนค่ะ ”
ซูซีมู่พูดถามขึ้นมา: “ อยู่ยาวเลยเป็นไง? ”
“ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะมีความสุขมากๆเลย ” โล่เฟยเอ๋อพูดเสร็จก็ได้ถามขึ้นอีกครั้ง: “ อะแฮ่ม งั้นไม่ล้อเล่นแล้ว ที่นี่มีข้าวให้กินไหมคะ? ”
ตอนนี้ โล่เฟยเอ๋อทำแค่ล้อซูซีมู่เล่น มีสักวัน ตอนเธอเข้ามาอยู่ที่บ้านซูแล้ว ถึงจะรู้ว่าที่ซูซีมู่พูดมาทั้งหมดคือไม่ได้เป็นการล้อเล่นแต่อย่างใด
คุณท่านซูชอบสไตล์ธรรมชาติแบบโบราณ เพราะฉะนั้นบ้านใหญ่จึงเป็นสไตล์แบบนั้น และคลับแห่งนี้สร้างขยายออกมาตามสไตล์บ้านใหญ่ และแน่นอนว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันทีหลัง
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อสงสัยว่าที่นี่มีข้าวให้กินหรือเปล่า ซูซีมู่ก็หลุดขำออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“ มีข้าวให้กิน ”
“ งั้นก็ดี ฉันหิวแล้ว ” โล่เฟยเอ๋อพูดเสร็จก็แลบลิ้นนิดหน่อย
“ ตอนกลางวันไม่ได้กินหรอ? ” ซูซีมู่เลิกคิ้ว
โล่เฟยเอ๋อตอบ “ กินเคเอฟซีแล้ว ”
“ ทำไม สงเฟยเหวิน ถึงได้พาคุณไปกินเคเอฟซีละ? เหลวไหลมาก ” คิ้วของซูซีมู่ขมวดเข้าหากันทันที
เห็นซูซีมู่ทำท่าเหมือนโกรธ โล่เฟยเอ๋อจึงรีบพูดอธิบายทันที: “ เป็นฉันเองที่ยืนหยัดจะกินเคเอฟซีค่ะ ไม่เกี่ยวกับ คุณสง
ซูซีมู่มองโล่เฟยเอ๋อนิ่งๆ หลังจากนั้นก็พยักหน้า “ อือ ”
โล่เฟยเอ๋อไม่สบายใจจึงพูดเสริมขึ้น “ คุณอย่าโทษเธอเลยนะคะ ”
“ รู้แล้ว ” ซูซีมู่พูดเสร็จก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน
โล่เฟยเอ๋อเดินตามหลังเขาไปอย่างเชื่อฟัง