บทที่ 82 โทรผิด
ทั้งที่จริงแล้วโล่หยิวชิวเป็นลูกสาวแท้ๆ แต่กลับถูกรับเลี้ยงเป็นลูกสาวบุญธรรมมานานหลายปี โล่ชิงไป๋จึงรู้สึกขอโทษเธออย่างมาก
โดยเฉพาะในสายตาของเขาแล้วเขาดูเอ็นดูโล่หยิวชิวลูกสาวบุญธรรมคนนี้มากกว่า และเธอยังทำให้เขาพอใจมากกว่าด้วย
ดังนั้นตอนที่โล่หยิวชิวบอกว่าคนในรูปไม่ใช่เธอ เขาเชื่อเธอทันที
สำหรับเรื่องรูปหลุดของโล่หยิวชิวในที่สุดจบลงด้วย ” รูปปลอม ”
ถึงแม้โล่ชิงไป๋จะเชื่อเธอ แต่โล่หยิวชิวกลับไม่มีความั่นใจอีกเลย
เพราะสุดท้ายแล้วก็มีเพียงเธอที่รู้ว่ารูปพวกนั้นไม่ใช่รูปปลอม เลยทำให้เธอกลัวอิทธิพลและจุดมุ่งหมายจองอีกฝ่าย จนไม่กล้าออกจากบ้านไปไหน…..
เมื่อวานเย่รู่ไป๋บอกให้โล่เฟยเอ๋อเข้าไปหาเขาที่สำนักงาน ดังนั้นวันนี้พอลงชื่อเข้างานเสร็จ เธอก็เลยเดินไปที่ห้องสำนักงานของเขา
” สวัสดีค่ะ ฉันมาหาหัวหน้าค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพูดกับเลขาของเย่รู่ไป๋อย่างสุภาพ
เลขาของเย่รู่ไป๋เหลือบมองโล่เฟยเอ๋อก็เห็นว่าไม่ใช่คนตำแหน่งสูงอะไรของบริษัทเลยถามไปอย่างไม่แยแส
” คุณเป็นใคร ? มาหาหัวหน้ามีธุระอะไร ? ”
” ฉันอยู่แผนกออกแบบกลุ่ม A ค่ะ….คือว่าผู้จัดการเขาให้ฉันมาหาเขา ” โล่เฟยเอ๋อตอบพร้อมกับบีบจมูก
พอได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าหัวหน้าให้เธอมาหา เลขาก็ถึงกับตกใจเงยหน้าขึ้นมา
เรื่องนี้เมื่อผู้จัดการได้เตือนเธอไว้แล้วว่าจะมีคนชื่อ” โล่เฟยเอ๋อ” จากแผนกออกแบบเข้ามาหาเขา เพียงแต่เธอไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงวัยรุ่นขนาดนี้
” คุณชื่อโล่เฟยเอ๋อใช่ไหมคะ ? ” คราวนี้น้ำเสียงของเลขาสุภาพขึ้นเล็กน้อย
“เอ่อ ใช่ค่ะ ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
” หัวหน้าอยู่ในสำนักงานรอคุณอยู่ค่ะ ” เลขาพูดพร้อมกับเดินไปยังหน้าห้องสำนักงานของเย่รู่ไป๋แล้วเคาะประตูสามครั้ง
” หัวหน้าคะ คุณโล่เฟยเอ๋อมาแล้วค่ะ ”
เสียงของเย่รู่ไป๋ดังขึ้นมาจากด้านใน
” ให้เธอเข้ามา ”
เลขาผลักประตูเข้าไปแล้วยืนอยู่ตรงประตูพร้อมกับพายมือเชิญโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อยิ้มให้กับเลขาแล้วก็เดินเข้าไปในห้องของเย่รู่ไป๋
สำหรับเธอแล้วสำนักงานนี้ก็ถือว่าค่อนข้างคุ้นชิน ต้องขอบคุณหลินยีที่ให้เธอเข้ามาคราวที่แล้ว
ถึงแม้เจ้าของห้องจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ของที่ตกแต่งอยู่ในห้องนั้นกลับไม่เปลี่ยนไปเลย
เย่รู่ไป๋ที่กำลังนั่งโทรศัพท์อยู่ตรงโต๊ะทำงานพอเห็นโล่เฟยเอ๋อเข้ามา เขาก็ชี้ให้เธอไปทางโซฟาและให้เธอนั่ง
โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้รบกวนเขา ทำเพียงเดินไปนั่งรอที่โซฟาอย่างเงียบๆ
ผ่านไปประมานห้านาที เย่รู่ไป๋ก็วางสาย แล้วจ้องมองมายังโล่เฟยเอ๋อ
” มาแล้วหรอ ? ”
โล่เฟยเอ๋อก็พยักหน้าพร้อมกับตอบ’อืม’คำหนึ่ง จากนั้นก็ถาม
” ไม่ทราบว่าหัวหน้าเรียกฉันมามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ? ”
เย่รู่ไป๋ไม่ได้ตอบกลับคำถามของโล่เฟยเอ๋อแต่กลับถามกลับ
” คุณคิดว่าไงล่ะ ? ”
” เอ่อ….” โล่เฟยเอ๋อถึงกับนิ่ง เธอมองไปยังเย่รู่ไป๋ด้วยความไม่เข้าใจความหมายของเขา
เย่รู่ไป๋จ้องมองโล่เฟยเอ๋ออย่างเงียบๆครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดต่อ
” ตั้งแต่คุณเรียนจบมาอยู่บริษัทจนถึงตอนนี้เพิ่งสามเดือนใช่ไหม ? ”
โล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมหัวหน้าถึงได้ถามเธอแต่ก็ยังพนักหน้าอย่างว่าง่าย
” ใช่ค่ะ ”
” ครั้งที่แล้วผมถูกขโมยแบบสินค้าตัวโดยรุ่นพี่ที่พาคุณไปร่วมในการประชุมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คราวนี้ผมถูกเพื่อนจากมหาลัยเดียวกันที่เป็นเพื่อนร่วมงานลอกเลียนแบบแบบร่างการออกแบบที่ใช้แข่งขัน ”
เย่รู่ไป๋เล่าเรื่องการถูกลอกเลียนผลงานทั้งสองครั้งด้วยน้ำเสียงที่นิ่งให้กับโล่ดฟยเอ๋อ
” เอ่อ….คือว่า ” โล่เฟยเอ๋อลูบจมูกด้วยความลำบากใจ
จู่ๆเย่รู่ไป๋ก็ถามแทรกขึ้นมา
” อยากเข้าร่วมหลักสูตรอบรมพิเศษหรือเปล่า ? ”
” คะ ? ” โล่เฟยเอ๋อตามไม่ทันอารมณ์ของหัวหน้าอย่างเห็นได้ชัด
เย่รู่ไป๋เงียบ ทำเพียงหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะส่งให้กับโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋ออึ้ง แล้วก็รับแฟ้มเอกสารมาแล้วเปิดดู พอดูแล้วก็เห็นว่สเอกสารนี้อธิบายถึงการแนะนำหลักสูตรอบรมพิเศษ เงื่อนไขและอื่นๆอีกหลายอย่าง
พอดูเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นมองเย่รู่ไป๋
” หัวหน้าคะ ฉันเพิ่งมาที่นี่ไม่ถึงครึ่งปี ดูเหมือนเรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะสมค่ะ ”
” คุณเป็นถึงผู้ชนะเลิศการแข่งขันของแผนกออกแบบครั้งนี้คงไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอก ” เย่รู่ไป๋กล่าวอย่างเรียบเฉย
ชนะเลิศ ? เธอ ? โล่เฟยเอ๋อตกใจ
เย่รู่ไป๋มองดูเธอ จากนั้นก็กล่าวอย่างเรียบๆ
” คุณเอาเอกสารไปค่อยๆดู ถ้าหากตัดสินใจดีแล้วก็มาหาผม ”
โล่เฟยเอ๋อดึงสติกลับมาจากนั้นก็พยักหน้า
” อ๋อ ค่ะ ”
” อืม ออกไปได้แล้ว ” เย่รู่ไป๋สบัดมือ
โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งเคารพอย่างสุภาพแล้วก็ออกจากห้องสำนักงานไป
สายตาที่เห็นโล่เฟยเอ๋อจากไป เย่รู่ไป๋ก็ค่อยๆเอนตัวลงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ ปลายนิ้วเขี่ยโต๊ะทำงานเบา ๆ
เรื่องการอบรมพิเศษนี้เป็นเงื่อนไขที่ผู้บังคับบัญชาให้เขามาตอนที่เขาตกลงเข้ามาทำงานในยริษัทดี้ก้วน
เดิมทีเขามีตัวเก็งที่เลือกเอาไว้แล้ว แต่ ” ออร่า”ของโล่เฟยเอ๋อดันเข้าตาเขาอย่างมาก ใช่แล้ว เขามองเห็นออร่าจากภาพวาดออกแบบนั่นเอง ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจที่จะเพิ่มผู้เข้าร่วมอีกคน
” การแข่งขันออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ยังเหลืออีกครึ่งปีนี่…..”
โล่เฟยเอ๋อที่ไม่เข้าใจความในใจของเย่รู่ไป๋ถือเอกสารที่เย่รู่ไป๋ด้วยความรู้สึกลังเลเล็กน้อย
เธออยากจะเข้าร่วมหลักสูตรอบรมพิเศษนี้แต่ก็กังวลว่าตัวเองที่เป็นเพียงพนักงานฝึกงานออกแบบคนต้อย ประสบการณ์ไม่เพียงพอ
คิดไปคิดมา เธอก็โทรไปหาซูซีมู่เพื่อฟังความเห็นจากเขา
เธอคิดว่าโทรศัพท์ของซูซีมู่ยังซ่อมไม่เสร็จ ดังนั้นเลยโทรไปยังเบอร์สำนักงานของซูซีมู่แทน
พออีกฝ่ายรับสาย โล่เฟยเอ๋อก็รีบพูดอย่างรีบร้อน
” ซูซีมู่วันนี้คุณว่างหรือเปล่า ? ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ ”
เสียงที่ดังแทรกขึ้นมากลับไม่ใช่เสียงของซูซีมู่แต่เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง
” สวัสดีค่ะ ”
ทำไมถึงมีผู้หญิงมารับสายโทรศัพท์ของเขาได้ ? โทรผิดหรอ ? ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมองของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นพูดบางอย่างผ่านสาย
” ขอโทษค่ะ ฉันโทรผิดหน่ะค่ะ ” แล้วจึงวางสายอย่างเร่งรีบ
ในห้องสำนักงานของซูซีมู่ เลขาสาวยืนฟังเสียงตุ๊ดๆๆๆจากสายก็ไม่ได้กลับไปใส่ใจเรื่องนี้ต่อ แล้วก็ออกจากห้องสำนักงานของซูซีมู่ไป
ห้าโมงเย็น ซูซีมู่ประชุมเสร็จก็กลับมายังห้องสำนักงาน
โจวเฉิงเดินหอบเอกสารเดินตามหลังซูซีมู่พลันถาม
” ประธานซู วันนี้คุณจะทำโอทีใช่ไหมครับ ? ”
ซูซีมู่ไม่ได้หยุดเท้าเพียงแต่ตอบ”อืม”คำเดียว
” ถ้าอย่างนั้นอาหารเย็นคุณอยากทานอะไรดีครับ ? ” โจวเฉิงเปิดดู IPADพร้อมกับถามไปด้วย
” คุณดูเองแล้วกัน ” ซูซีมู่ตอบอย่างไม่เป็นทางการและผลักประตูสำนักงานเข้าไป
โจวเฉิงส่ายหน้า จากนั้นก็ก้มหน้าลงดูอาหารที่จะสั่งให้ซูซีมู่
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ เขาก็เตรียมตัวที่จากกลับ
เลขาสาวของสำนักงานที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เตรียมจะเข้าไปในห้องสำนักงานของซูซีมู่ก็ถูกโจวเฉิงกันไว้
” คุณทำอะไร ? ”
เลขาสาวที่ต้องการเข้าไปหาประธานซูกลับถูกโจวเฉิงห้ามไว้ก็พูดออกไปด้วยความไม่ค่อยพอใจ
” ผู้ช่วยโจวคะ ตรงนี้มีเอกสารด่วนที่ต้องให้ประธานซูเซ็นนะคะ ”
โจวเฉิงมองไปยังเอกสารบนมือของเลขาก็ตอบกลับ
” ส่งมาให้ผม ”
เลขาสาวเบ้ปาก แล้วเอาเอกวารในมือส่งให้กับโจวเฉิง จากนั้นเขาก็มองเธออย่างเฉยเมยแล้วหยิบแฟ้มและเข้าไปในห้องทำงานของซู่ซีมู่