บทที่99 ซูซีมู่แก้แค้นถังหซิวฉี
ซูซีมู่ที่ตัดสายอย่างพอใจกวาดสายตามาเห็นโจวเฉิงที่กำลังแสดงท่าทีเหมือนคลื่นไส้
เขายักคิ้ว มองเขาปกติ
โจวเฉิงรีบเก็บสีหน้า และกล่าวอย่างทางการ:”คือ……….ท่านประธานครับ ทางสถานีตำรวจให้ข่าวมาว่า เรื่องการจับตัวคุณโล่มีความคืบหน้าแล้วครับ”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร สีหน้าเข้มสงบดูลึกซึ้งมาก
โจวเฉิงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วกล่าวต่อ:”กู้ชิงหลันเล่าว่า คนที่อยากจับตัวคุณโล่จริงแล้วไม่ใช่เขา แต่เป็นถังหซิวฉี ที่เขามีเบอร์โทรของโจรคนร้าย นั่นเพราะว่าเขาแอบได้ยินถังซิวฉันโทรคุยกับ พอทราบว่าถังหซิวฉีจะจับตัวคุณโล่ ก็เลยขโมยมือถือของถังหซิวฉี ได้เบอร์โทรของคนร้าย จึงเจรจาต่อรองกับโจรคนร้าย เพราะอยากช่วยเหลือคุณโล่”
“ตำรวจเรียกตัวถังหซิวฉีไปโดยใช้ข้ออ้างว่าต้องการขอความร่วมมือในการช่วยสืบคดี แต่เธอก็ไม่ยอมรับว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จับตัวคุณโล่ จากทคนร้ายให้การมา เบอร์โทรที่พวกเขาใช้ติดต่อกับนายที่อยูเบื้องหลังที่อยู่เบื้องหลังไม่มีความเกี่ยวข้องกับถังหซิวฉีเลย เฉพาะนั้น แค่คำให้การของกู้ชิงหลัน ไม่สามารถเอาผิดถังหซิวฉีได้ หลังจากกักตัวไว้24ชั่วโมง ก็จะถูกปล่อยตัวโดยไร้ความผิด” หลังจากกล่าวคำสุดท้าย โจวเฉิงแอบมองประธานของเขา
ซูซีมู่เอาแต่ทำหน้าเข้ม ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร แต่ก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมาเย็นชาเหมือนเดิมไวมาก แต่โจวเฉิงรับรู้ได้ว่า ประธานไม่ปล่อยให้จบง่ายแน่
และแล้ว คำพูดของซูซีมู่ ในวินาทีถัดไป ก็เป็นไปตามที่โจวเฉิงคิดไว้
“ได้ข่าวว่าบ้านถังหซิวฉีมธุรกิจด้วย?”
ท่านประธานซูจะลงมือกับบ้านถัง? โจวเฉิงตอบเสียงเบา:”ถึงแม้บ้านถังในเมืองA จะไม่ใช่ตระกูลใหญ่ แต่รากฐานเขามั่นคงมาก ธุรกิจก็มีไม่น้อย บริษัทถังซื่อในเมืองAถือได้ว่าเป็นธุรกิจอับดับรอง
ซูซีมู่ยักคิ้ว มือเรียวของเขาเคาะโต๊ะทำงานไปแบบสบายๆ เหล่ตาไปมองโจวเฉิง ค่อยพูดว่า:”ผมอยากเห็นธุรกิจของบ้านถังหายไปจากเมืองA ก่อนวันพรุ่งนี้”
“ห๊ะ…….”โจวเฉิงอุทานอย่างตกใจ
เขาไม่คิดว่าประธานเขา จะใจกว้างขนาดนี้ ใจกว้างจนรอไม่ไหวรอที่จะใหธุรกิจของบ้านถังหายไปจากเมืองAก่อนวันพรุ่งนี้
“ประทานซูครับ……..” โจวเฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย ตัวเข้าใกล้ท่านประทาน :”ก่อนวันพรุ่งนี้ เร็วเกินไปมั้ยครับ?”
“ทำไม นายคิดว่าเวลาเยอะเกินไปเหรอ ออ งั้นก่อนเลิกงานต้องเห็นผลลัพธ์”
ซูซีมู่ไม่สนใจในความลำบากของโจวเฉิง อยากทำงานกับเขา หากฝีมือการทำงานแค่นี้ยังไม่มี ก็ไม่มีสิทธิ์มาเป็นผู้ช่วยของซูซีมู่หรอก
“เปล่าครับ เปล่าครับ” โจวเฉิงพูดคำว่าเปล่าครับสองครั้งติดกัน
และรีบออกจากห้องทำงานของซูซีมู่ เกรงว่าขืนอยู่ต่อ คงจะเลื่อนมาเป็นก่อนเลิกงานต้องเห็นผลลัพท์
หลังจากซูซีมู่ออกจากห้องทำงาน โจวเฉิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนเคยได้ยินสิ่งที่ประธานซูคุยกับตนแบบนั้นมาก่อนแล้ว
ผ่านไปสักพัก เขานึกได้ว่าทำไมมันถึงชินหูละ
ครั้งก่อน ประธานซูโทรหาเขาตอนเที่ยงคืน ร้านอาหารใหญ่ของเมืองAต้องกลายเป็นธุรกิจของคนอื่น พูดแบบนี้เหมือนกัน
โจวเฉิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ ยิ่งคิดยิ่งสรุปออกมาว่า เพียงแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณโล่ ประธานของบ้านตนเองที่เยือกเย็นสุขุมก็จะ ก็จะเปลี่ยนเป็นคนใจดำ และจะเป็นแบบที่ทุกคนไม่สามารถหาเรื่องเขาได้เด็ดขาด…..
หลังจากโจวเฉิงได้รับคำสังจากซูซีมู่ ก็เริ่มไปลงมือกับธุรกิจของบ้านถัง
เขาทำงานเร็วจริงๆ ก่อนอื่นตัดสิทธิ์การกู้เงินของบ้านถังกับทางธนาคาร ต่อด้วยจัดการลงมือกับหุ้นของบริษัทถังซื่อแบบเงียบๆ พอคนรู้อีกที บ้านถังถือว่าไม่เลวในธุรกิจอับดับรองก็หุ้นตกระนาวหมด
ทุกคนยังไม่ทันตะลึง ก็สังเกตเห็นได้ว่าธุรกิจที่มีปฏิสัมพันธ์กันเกี่ยวข้องกับบริษัทถังซื่อ ล้วนเกิดปัญหาตาม
ตอนนี้นะ แม้แต่คนโง่ก็ดูออกเลยว่ามีคนลงมือกับบริษัทถังซื่อโดยเฉพาะ
ทุกคนแปลกใจจริง แผนการที่ชาญฉลาดสูงส่งแบบนี้ กำลังอำนาจที่น่ากลัวแบบนี้ บริษัทถังซื่อไปหาเรื่องทำอะไรยังไงให้เขากันแน่?
ความจริง บ้านถังอยากจะบอกว่า พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปก่อเรื่องเดือดร้อนกับใครเมื่อไหร่
ตอนที่หุ้นของบริษัทตกต่ำลง บ้านถังรีบโทรไปที่ธนาคารเพื่อขอกู้เงิน แต่ทางธนาคารได้ตัดสิทธิการกู้เงินของบ้านถังซะแล้ว บ้านถังไม่มีทางเลือก จึงต้องใชธุรกิจส่วนอื่นๆของบ้านถัง เพื่อช่วยบริษัท ไม่คิดว่าผลที่ตามมาคือบ้านถังต้องเสียธุรกิจไปทั้งหมด
และแล้วโจวเฉิงก็ลงมือกับบ้านถังตามที่ซูซีมู่สั่งเสร็จซะที ถือเอกสารมาอย่างเหนื่อยหอบและรายงานให้ซูซีมู่:”ประธานซูครับ ธุรกิจของบ้านถังจัดการเสร็จแล้ว เชิญดูครับ”
ซูซีมู่ไม่ได้ดูเอกสารที่โจวเฉิงยื่นให้ เพียงถามว่า:”แล้วถังหซิวฉีล่ะ?”
“ธุรกิจทั้งหมดของบ้านถังล้มละลายหมดแล้วครับ ถังหมิงชังพาถังหซิวฉีออกจากเมืองAแล้วครับ” โจวเฉิงตอบ
ซูซีมู่พยักหน้า”อืม”
แม้จะไม่แก้แค้นถังหซิวฉีโดยตรง แต่บ้านถังล้มพินาศ ทำให้ถังหซิวฉีต้องตกจากที่สูงลงมาถึงพื้น ผลกระทบต่อจิตใจของถังหซิวฉีคงไม่น้อยเลยล่ะ เพราะฉะนั้นซูซีทู่ยังพอใจมากอยู่เหมือนกัน
ทางด้านโล่เฟยเอ๋อ เธอไม่เลยเลยว่าซูซีมู่ช่วยเธอแก้แค้นถังหซิวฉีแล้ว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถังหซิวฉีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มีคนลักพาตัวเธอ(เพราะเรื่องที่บอกถังซิวฉีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นเพียงคำให้การของกู้ชิงหลัน ทางตำรวจไม่มีหลักฐานที่สามารถเอาผิดเธอได้ จึงไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้โล่เฟยเอ๋อ)
วันถัดมาเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ โล่เฟยเอ๋อเตรียมเอกสารจากคลาสฝึกอบรมพิเศษจะไปหาซูซีมู่ แต่พอออกจากประตู ก็รับสายของเห้อจิ้นเหยา ให้เธอกลับไปทานข้าว
เธอคิดจะปฏิเสธอยู่ แต่เห้อจิ้นเหยาบอกโล่หยิวชิวก็อยู่ด้วย คนในครอบครัวจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากัน เธอจึงตอบตกลง
หลังจากคุยกับเห้อจิ้นเหยาเสร็จแล้ว เธอจึงโทรหาซูซีมู่ เพื่อบอกเขาว่าเธอจะกลับบ้าน ไม่ไปหาเขาแล้วล่ะ
ซูซีมู่กำลังซื้อของอยตลาดซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนเช้า โล่เฟยเอ๋อโทรหาเขาบอกว่า เธอจะมาหาเขาที่วิลล่าให้ช่วยเรื่องเอกสารของคลาสฝึกอบรมพิเศษ เขาคิดๆแล้วก็เลยอยากเตรียมผักต่างสำหรับทำอาหารกลางวัน และอาหารเย็น
ความจริง ซูซีมู่ก็ไม่รู้ว่าทำไเขาถึงรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาปกติ อาจเป็นเพราะชีวิตนี้เขามีโอกาสอยู่กับครอยครัวตนน้อยมากมั้ง เขาจึงชอบความรู้สึกตอนได้นั่งกินข้าวด้วยกันในบ้านกับโล่เฟยเอ๋อ
พอเห็นสายของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่นึกว่าเธอมาถึงวิลล่าแล้ว จึงบอกเธอให้เข้าไปในบ้านก่อน
“คุณมาถึงแล้วเหรอครับ? เข้าไปข้างในได้เลย…….”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดจบด้วยซ้ำ เพราะโล่เฟยเอ๋อบอกเขาว่าเธอมีธุระด่วน มาไม่ได้แล้ว
สีหน้าของซูซีมู่เย็นแข็งไปแป๊บนึง บอก”ครับ”คำเดียว แล้วก็ตัดสายทันที
ซูซีมู่เลือกของได้ครึ่งส่วนแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะเลือกต่ออีก อีกทั้งไม่รู้เลยว่าจะทำต่อไปเพื่ออะไร
เขาก็เลยทิ้งรถเข็นไว้อย่างนั้น แล้วออกไปจากตลาดซุปเปอร์มาร์เก็ต