บทที่94 ผูกเนคไทให้เขา
ได้ยินซูซีมู่พูดไล่ตรงๆ คุณท่านซูก็ไม่หัวร้อนใดๆ เพียงแค่กล่าวกับบอดี้การ์ดว่า:”อาผินเฮ้ย นี่กี่โมงแล้ว?”
“เที่ยงแล้วครับ คุณท่าน” บอดี้การ์ดที่ชื่ออาผินกล่าวตอบ
แววตาของคุณท่านซูดูนิ่ง พูดเหมือนสบายๆ:”งั้นก็ทานอาหารเที่ยงด้วยกันเลย
“ไม่ว่างครับ”ซูซีมู่พูดตาไม่กะพริบ
คุณท่านซูจ้องหน้าซูซีมู่ แล้วกล่าวอย่างมีเลศนัย:”ไม่ว่างทานข้าวกับปู่? งั้นแสดงว่าต้องเอาเวลาไปอยู่กับคนอื่นละสิ?”
พอคุณท่านพูดจบ ซูซีมู่ก็กวาดตามองไป
“ถ้าคุณปู่ว่างมาก ก็สามารถไปนั่งเฝ้าที่บริษัทใหญ่ก็ได้นะครับ”น้ำเสียงยังคงเยือกเย็น แต่เต็มไปด้วยความข่มขู่
นี่คือการข่มขู่! เป็นการข่มขู่กันชัดๆ! คุณท่านนี่ก็น่าสงสารจริง จำต้องฟังที่เขาบอก เหตุผลง่ายๆเลย เพราะว่าหลานชายเขาเป็นคนพูดจริงทำจริง ขืนทำให้เขาหัวร้อน เขาอาจจะให้เขาไปนั่งเฝ้าบริษัทใหญ่จริงๆด้วย
ไม่พูดท้าทายเขาแล้วดีกว่า เดี๋ยวเขาจะหัวร้อนเอา
คุณจึงเปลี่ยนเรื่องพูดใหม่:”เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น? เองถึงใช้กำลังของบ้านซู?”
กลับมาที่หัวข้อนี้ซะที ซูซีมู่มองคุณท่าน แล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น:”คุณปู่สนใจเหรอครับ? ไปสืบเองสิครับ”
สืบเอง? เขาสามารถสืบได้เหรอ? สืบแล้วก็ต้องถูกเองจัดสรรให้ไปนั่งเฝ้าบริษัทใหญ่? คุณท่านคิดดูแล้วจึงตอบ:”ปู่ไม่สนใจหรอก แค่ถามไปงั้นแหละ”
ซูซีมู่ชำเลืองมองคุณท่าน ไม่พูดอะไร
คุณท่านทำเป็นไอแห้งๆแล้วกล่าว:”นี่ก็สายแล้ว ปู่ต้องไปละ”
ซูซีมู่พูดน้ำเสียงนิ่ง:”ครับ” และเดิยถอยสองก้าว
เมื่อเห็นว่ารถของคุณท่านไปแล้ว ซูซีมู่จึงหันหลังเดินเข้าไปวิลล่า
ตอนเข้าไป โล่เฟยเอ๋อกำลังพูดบ่นเองคนเดียว
“ผลไม้ต้องใส่ตู้เย็นมั้ยนะ?”
“อาหารกระป๋องใส่ตู้เก็บของ?”
“แล้วปลาต้องชั้นธรรมดาหรือช่องแช่แข็ง?”
……….
ซูซีมู่พับแขนเสื้อพร้อมกล่าวขึ้นว่า:”เดี๋ยวผมทำเอง!”
“ขอโทษนะคะ ฉันทำวุ่นวายหมดเลย” เห็นของวางกองไว้บนตู้ครัวกระจัดกระจายไปหมด โล่เฟยเอ๋อหน้าแดง พูดขอโทษไปด้วยและเดินถอยห่างด้วย
“ไม่เป็นไร”ซูซีมู่ส่ายหน้า และจัดการแยกของบนตู้ครัวไปเก็บตามที่ตู้เย็น และตู้เก็บของให้เรียบร้อย
พอเก็บเรียบร้อยแล้ว ซูซีมู่ก็เริ่มทำอาหารกลางวัน ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะมีใจอยากช่วย แต่ความสามารถเธอมีจำกัด
หลังช่วยซูซีมู่ล้างผักแล้ว เธอลืมตาโตจ้องซูซีมู่ทำกับข้าวอย่างกระฉับกระเฉง และคอยพูดคุยกับเขา
ซูซีมู่ก็ไม่ได้บอกให้เธอออกไป สองคนนี้จึงกลายเป็นว่า คนนึงทำกับข้าว อีกคนคอยพูด ดูแล้วไม่อบอุ่นซะเลย
พอทานมื้อกลางวันเสร็จ ซูซีมู่รับสายโทรศัพท์ขึ้นไปชั้นบน
ส่วนโล่เฟยเอ๋อนั่งดูทีวีบนโซฟาในห้องรับแขก ไม่นานเธอก็หลับไป
ตอนซูซีมู่ลงมา เห็นโลเฟยเอ๋อหลับอยู่บนโซฟาโดยไม่มีผ้าห่มอะไร เขาขมวดคิ้ว แล้วขึ้นไปเอาผ้าห่มในห้องมา ห่มให้โล่เผยเอ๋อ
สุดท้าย ตอนที่ห่มผ้าห่มให้โล่เฟยเอ๋อ เธอก็ตื่นขึ้นแล้ว
“คุณยุ่งเสร็จแล้วเหรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อลืมตาเล็กน้อยและถาม
ซูซีมู่ก้มหน้าจ้องมองท่าทีของโล่เฟยเอ๋อที่ครึ่งนอนครึ่งตื่น รู้สึกว่าเธอไม่เคยน่ารักแบบนี้มาก่อน
“ครับ คุณไปนอนบนห้องมั้ยครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”โล่เฟยเอ๋อตอบเสียงต่ำและหลับตานอนต่อ
ซูซีมู่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นโล่เฟยเอ๋อตอนหลับแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม วันนี้เขารู้สึกว่าใบหน้าที่กำลังหลับของโล่เฟยเอ๋อดูแล้วช่างมีเสน่ห์ดึงดูดสายตามาก
เขายื่นนิ้วมือของเขาสัมผัสโดนใบหน้าของเธอ พอเขารู้สึกได้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เขาก็รีบเอามือออก
ครั้งนี้โล่เฟยเอ๋อนอนจนมืดค่ำ สุดท้ายซูซีมู่ต้องมาเรียกเธอให้ตื่น
ที่แท้วันนี้เป็นวันเกิดของเหซิงถิง ซูซีมู่คิดจะพาโล่เฟยเอ๋อไปด้วยกัน
แต่ซูซีมู่ไม่ได้บอกว่าเป็นวันเกิดเหซิงถิง บอกเพียงว่าให้โล่เฟยเอ๋อไปร่วมงานกับเขาหน่อย
“ให้ฉันไปด้วยจะดีเหรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อถามด้วยความไม่ค่อยสบายใจ
“แค่ไปให้เห็นหน้า ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก”ซูซีมู่กล่าวพร้อบหยิบเนคไทมาอันนึง
โล่เฟยเอ๋อ”ค่ะ”คำนึง แล้วสายตาทอดไปตรงเนคไทในมือซูซีมู่”ให้ฉันช่วยคุณผูกเนคไทมั้ยคะ?”
โล่เฟยเอ๋อพูดคำนี้ออกไปแล้วเธอคิดในใจว่าไม่น่าพูดแบบนี้เลย
ปกติแล้วเนคไทของผู้ชาย เขาจะเป็นคนผูกเอง ไม่ก็แฟนเขา ภรรยาเขา
ยังแสดงได้อีกอย่างว่าหญิงสาวผูกเนคไทให้ชายหนุ่มหมายถึงเธอกำลังบอกรักเขา
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้อยากบอกรัก แต่เธอแค่เห็นเนคไทในมือเขา แล้วรู้สึกอยากช่วยผูก
ซูซีมู่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กล่าว”ครับ” แล้วยื่นเนคไทให้โล่เฟยเอ๋อ
เพราะซูซีมู่เป็นคนสูง โล่เฟยเอ๋อจะช่วยเขาผูก เขาจึงต้องก้มศีรษะลง
ตอนผูกเนคไท ทั้งสองคนอยู่ในระยะที่ชิดมาก หากโล่เฟยเอ๋อเพียงแค่เงยหน้า ก็จะได้จูบปากกับเขาเลยแหละ
เพราะฉะนั้นขณะที่ทำการผูกเนคไท โล่เฟยเอ๋อไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้น
เธอก้มหน้าก้มตาตั้งใจผูกเนคไทเสร็จ แล้วกล่าวว่า:”ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
ตาดำของเธอคล้ายกับสัตว์ตัวน้อยที่กำลังวิ่งหลบหนีภัย ซูซีมู่ถึงกับขมวดคิ้วขึ้น แต่เมื่อก้มมองเนคไท เขาก็คลายคิ้วที่ขมวดลง
บ้านเหซิงถือว่ามีชื่อเสียงเกียรติยศในเมืองA เหซิงถิงซึ่งเป็นลูกสาวบ้านเหซิง งานวันเกิดของเธอ จะใหญ่โตเป็นธรรมดา
ความจริงซูซีมู่ก็ไม่ชอบร่วมงานใหญ่โตแบบนี้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหซิงโม่ ทำให้เขาไม่ไปไม่ได้แล้ว
แต่เขาก็แค่ไปให้เห็นหน้า อันแรกเลยเพราะเขาไม่ชอบงานที่มีคนเยอะ อันดับสองคือร่างกายของโล่เฟยเอ๋อยังไม่หายดีพอ
งานวันเกิดจะจัดในโรงแรมบ้ันเต๋าของเมืองA สถานที่แห่งนั้นเป็นที่ที่ประทับใจของโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่
นี่เป็นที่ที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก และเป็นที่ที่พวกเขาหนีงานแต่งด้วยกัน แต่ว่า เรื่องนี้มีเพียงซูซีมู่ที่รู้ว่านี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาสองคนหนีงานแต่งพร้อมกัน แต่โล่เฟยเอ๋อ เธอยังไม่รู้เลยว่าคนที่เธอหนีงานแต่งก็ด้วยคือซูซีมู่
เห็นป้ายที่ติดไว้หน้าประตู โล่เฟยเอ๋อเงิบ:”วันเกิดเหซิงถิงเหรอ?
“ใช่”ซูซีมู่พยักหน้าเบาๆ
“ทำไมคุณไม่บอกฉัน? ฉันไม่ได้เตรียมอะไรเลย”โล่เฟยเอ๋ขมวดคิ้วพูด
ถึงซูซีมู่จะไม่พูด แต่เธอก็เข้าใจได้ว่าเขาหมายถึงของขวัญอยู่นี่
แต่ของขวัญอันนี้ซูซีมู่เป็นคนซื้อนี่นา!
โล่เฟยเอ๋อทำหน้าถอดสี:”นั้นมันคุณเป็นคนซื้อนิ”
ซูซี่ทู่ไม่ตอบโล่เฟยเอ๋อ แต่เอากระเป๋าLVยัดใส่อ้อมแขนของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นเอาสอวมือล้วงเข้ากระเป๋า เดินเข้าไปห้องงานอย่างสบายๆ
โล่เฟยเอ๋อยืนมึนงงอยู่หลายวินาที แล้วรีบตามเข้าไป
ได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงตุ้มๆๆ แววตาของซูซีมู่จากที่เยือกเย็นก็เริ่มยิ้มเบาๆ