บทที่107 เขาทำให้มันเป็นแบบนี้เอง
ลู่ยู่เพิ่งตัดสายทิ้ง เหซิงถิงที่อยู่ข้างๆก็ถามขึ้นมา “พี่ยู่ เป็นไงบ้าง เฟยเอ๋อมาไหม”
“เธอยังมีเรื่อง เลยไม่มาแล้ว” ลู่ยู่ส่ายหน้าพลางเอามือถือใสในกระเป๋ากางเกง
“เธอบอกช่วงนี้ได้ร่วมการอบรมของบริษัท เนื้อเรื่องที่เรียนนั้นมันสำหรับเธอ เธอต้องใช้เวลามากในการหาข้อมูล “ลู่ยู่นำคำพูดโล่เฟยเอ๋อ พูดต่ออีกรอบให้เหซิงถิงฟัง
“อ๋อ แบบนี้เอง” เหซิงถิงพยักหน้ารับรู้ จากนั้นจู่ๆดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้เลยถามไปว่า” ใช่แล้ว พวกพี่รู้ไหมว่าเฟยเอ๋อทำงานอยู่ที่ไหน”
ลู่ยู่กับเหซิงโม่จ้องมองกันแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็พร้อมใจส่ายหน้า “ไม่รู้ เรื่องนี้น่าจะมาแค่ซูซีมู่เท่านั้นที่รู้”
เหซิงถิงขมวดคิ้ว แล้วถาม “งั้นวันนี้พีซีมู่จะมาไหม ”
“พีซีมู่ของเธอรับปากแล้วว่าจะมา”ลู่ยู่พยักหน้า
“อือ ถึงตอนนั้นฉันจากถามพีซีมู่เอง”เหซิงถิงกระพริบตา แล้วถามต่อว่า”แล้วต่อไปถ้ามีเวลาฉันก็จะไปหาเฟยเอ๋อเล่น”
ลู่ยู่ทำอะไรกับน้องสาวตัวแสบของตัวเองไม่ได้เลย จึงได้แต่เตือนไปว่า “เล่นนะได้ แต่เธอห้ามไปรบกวนเวลาทำงานของคนอื่น”
เหซิงถิงโบกมือบอก “พี่ชาย ฉันรู้อะไรควรไม่ควรอยู่แล้ว ”
ลู่ยู่อยากจะพูดมากเลย ว่าถ้าเธอรู้ว่าอะไรควรไม่ควร เธอจะไปเป็นหมอได้ไง แน่นอนเขาไม่ได้พูดออกไป ถ้าได้พูดออกไป มีหวังเหซิงถิงได้โวยวายเขาแน่
ผ่านไปไม่นาน ซูซีมู่ก็มาถึงแล้ว
เขาตอบรับการทักทายของทุกคนด้วยความแสนเย็นชา แล้วนั่งลง
เพราะก่อนซูซีมู่จะมานั้น อาหารทุกอย่างก็สั่งเอาไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อเขานั่งลง อาหารก็เริ่มทยอยมาเรื่อยๆ
ทุกคนกินไปพูดไป แต่ซูซีมู่ไม่เคยพูดอะไรออกมาสักคำ
จนจู่ๆเหซิงถิงก็ถามขึ้นมาว่า “ใช่แล้ว พีซีมู่ พี่รู้ว่าเฟยเอ๋อทำงานที่ไหนไหม”
ซูซีมู่เมื่อได้ยินเหซิงถิงพูดเฟยเอ๋อสองคำแล้ว เหมือนความรู้สึกที่เก็บลึกได้ถูกขุดขึ้นยังไงยังงั้น
ที่จริงพวกเขาไม่ได้เจอกันแค่สองอาทิตย์เอง แต่ทำไมกลับเหมือนไม่ได้เจอกันนานแสนนาน
และช่วงนี้เขาก็ได้คิดตลอด ว่าเธอน่าจะสังเกตถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา เพราะตั้งแต่ออกจากบ้านเขาวันนั้น ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เขาอีกเลย
รวมไปถึงไม่โทร ไม่ส่งข้อความด้วย
ถ้าวันนี้ไม่ใช่เหซิงถิงเอ่ยถามถึง เขาคงนึกว่าเธอหายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว
เขารู้ว่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการแค่ให้พวกเขารักษาความเป็นเพื่อนไว้เท่านั้น แต่ไม่ใช่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ที่ดูเหมือนตัดขาดเลิกคบกันไปแล้ว
และสถานการณ์ตอนนี้คือสิ่งเขาที่เขาทำมันขึ้นมาเอง และเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำมันให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไง
หรือกดโทรหาเธอดี แต่ทุกครั้งที่เขาจะกดโทรออกไป ก็นึกถึงตอนที่เธอโทรหาเขา แล้วเขาตอบไม่ว่างไป แต่เธอก็พูดด้วยยิ้มแย้มว่างั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว
ไม่รบกวน เธอไม่รบกวนอีกเลยจริงๆ
จะไปหาเธองั้นเหรอ ก็อยากก้าวข้ามไปหา แต่มันยากมากจริงๆ
ซูซีมู่กำตะเกียบในมือแน่น จากนั้นก็ค่อยๆหลุดพูดออกมาสองคำ”บริษัท ดี้ก้วน”
เหซิงถิงอ๋อแล้วไม่พูดอะไรอีก กลับเป็นลู่ยู่ที่ถามอย่างแปลกใจ”บริษัทดี้ก้วน ไม่ใช่บริษัทจิวเวลรี่ที่แกรับซื้อมาเหรอ”
ซูซีมู่ตอบแค่อือ แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ
ลู่ยู่แสดงสีหน้าเข้าใจแล้วเอ่ย”ก็ว่าทำไมเมื่อกี้ที่คุยโทรศัทพ์ฉันบอกไม่พอใจที่เจ้านายเธอให้เธอทำโอ แล้วเธอก็รีบพูดแก้ตัวให้เจ้านาย ที่แท้ก็แก้ตัวให้แกนี่เอง”
ซูซีมู่ไม่เชื่อคำพูดลู่ยู่แม้แต่น้อย เพราะเขารู้ดีว่าโล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าเขาคือเจ้านายที่แท้จริงของบริษัทดี้ก้วน
แค่คำว่าทำโอสองคำ กลับดึงดูดความสนใจของเขาไว้
“ทำโอทีเหรอ”
“ไม่ใช่ทำโอที แต่น่าจะร่วมเรียนชั้นฝึกอบรมของบริษัทดี้ก้วน เรื่องนี้แกน่าจะรู้มั้ง “พูดถึงที่สุด ลู่ยู่ก็มองไปยังซูซีมู่
ซูซี่มู่ไม่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะเล่าเรื่องอบรมพิเศษนี้ลู่ยู่ฟัง เขานิ่งไปเล็กน้อย แล้วพยักหน้า”อือ รู้”
“จากที่เฟยเอ๋อเล่ามาว่าเนื้อหาคลาสเรียนสำหรับเธอแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะแบบนี้เธอเลยต้องใช้เวลามากไปกับการหาข้อมูลอะไรนั้น”ลู่ยู่พยักไหล่แล้วตอบ
เมื่อได้ยินลู่ยู่บอกว่าโล่เฟยเอ๋อใช้เวลามากไปกับการหาข้อมูล ซูซีมู่ถึงกับชะงักเล็กน้อย
เขารู้ ว่าเธอนั่นกำลังหาข้อมูลชั้นฝึกอบรม…..
ทีแรกเขารับปากว่าจะช่วยเธอหาข้อมูล ตั้งแต่วันนั้นมา เขาก็เริ่มหลบหน้าเธอ
เพราะแบบนี้เธอจึงต้องใช้เวลามากมาหาพวกข้อมูลนั้น
ลู่ยู่ไม่ทันได้สังเกตถึงความแปลกไปของซูซีมู่ เขายิ้มร่าเริงแล้วถาม”เฟยเอ๋อเข้าอบรมอะไรเหรอ เธอทำอะไรบ้างในบริษัททำดี้ก้วน”
เหซิงโม่ที่อยู่ข้างๆถึงกับมองบนแล้วบอก”ยังไงก็น่าจะตำแหน่งผู้จัดการขึ้นไปแหละ แกไม่ดูหรือไงว่าความสัมพันธ์ของซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อเป็นยังไงกัน”
“ก็ใช้ เฟยเอ๋อ……”ลู่ยู่ยังพูดไม่จบ ซูซีมู่วางตะเกียบในมือลง จากนั้นก็เตะเก้าอี้ออกไปข้างหลัง แล้วลุกยืนขึ้น
ลู่ยู่ถามด้วยความมึนงงว่า”ซูซีมู่ แกจะไปไหน”
เหซิงโม่กับเหซิงถิงมองซูซีมู่ด้วยแปลกใจ
ซูซีมู่ค่อยๆพูดออกมาประโยคหนึ่ง”ฉันจะออกไปสูบอากาศรับลมหน่อย”แล้วรีบออกไปจากห้องเลย
เมื่อซูซีมู่ออกไปจากห้อง เหซิงถิงจึงได้ถามขึ้นมา “พีซีมู่เป็นอะไรไป”
“เมื่อกี้ยังพูดคุยกันดีๆอยู่เลย แล้วจู่ๆก็เป็นแบบนี้ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”ลู่ยู่ที่แสดงสีหน้ามึนงงไปหมด
เหซิงโม่นึกถึงปฏิกิริยาของซูซีมู่เมื่อครู่แล้ว ความรู้สึกเขาที่แสดงออกมาเหมือนอะไรสักอย่าง แต่เขากลับนึกไม่ออก
ซูซีมู่ยืนอยู่ที่ระเบียง มองลงไปข้างล่างถนนที่แสงไฟสลัว ไม่รู้คิดอะไรอยู่
ผ่านมาสักพัก เขาดูเหมือนจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ด้วยการเอามือถือออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดหาเบอร์โล่เฟยเอ๋อโทรออกไป
เสียงโทรศัพท์ดังมาสักพัก โล่เฟยเอ๋อถึงจะรับสาย “ฮัลโหล”
ซูซีมู่ถอนหายใจเบาๆแล้วบอก”ฉันเอง”
โล่เฟยเอ๋อตอบอือเบาๆ จากนั้นผ่านไปหลายวินาที เธอถึงจะเอ่ยถามว่า “มีเรื่องอะไร”
ซูซีมู่กำมือถือไว้แน่ จากนั้นก็เอ่ย ” เมื่อกี้ได้ยินลู่ยู่เล่าว่าเธอกำลังหาข้อมูลชั้นฝึกอบรมนั้น”
โล่เฟยเอ๋อตอบอ๋อไปเบาๆ
ซูซีมู่สูบหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ “ยากมากไหม ถ้ายากมาก……”ฉันสามารถช่วยเธอหาได้ คำข้างหลังนี้ซูซีมู่ไม่ทันได้พูดมันออกไป โล่เฟยเอ๋อก็เอ่ยแทรกตัดคำพูดเขาไปเลย
“ยังโอเค”
สายตาซูซีมู่หม่นลง และสุดท้ายก็เอ่ยอ๋อออกไป
โล่เฟยเอ๋อเงียบไปเป็นเวลานาน จากนั้นจึงเริ่มปริปากถาม “คืนนี้พวกคุณอยู่ด้วยกันเหรอ”
“อยู่คลับดี้เหา เขาบอกเธอไม่ว่าง “พูดถึงคำหลัง ซูซีมู่ก็ทอดสายตาลง
โล่เฟยเอ๋อจิกฝ่ามือเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบด้วยเสียงธรรมดามากที่สุด ” ใช่ ฉันยุ่งมาก”
“อือ” ซูซีมู่หยุดนิ่งไปแป๊บหนึ่ง แล้วจึงพูดต่อ “ฉันก็ยุ่งมากเหมือนกัน”
“อย่าเหนื่อยมากล่ะ”เมื่อโล่เฟยเอ๋อพูดประโยคนี้เสร็จ ก็อยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดไปเลย ดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า” ฉันยังมีเรื่องต้องทำ วางสายก่อนนะ”
“อ๋อ ได้” เมื่อซูซีมู่พูดเสร็จ เสียงตู๊ดๆๆลอยเข้ามาในสายโทรศัพท์