บทที่109 จัดการดูตัวให้โล่เฟยเอ๋อ
ลู่ยู่ถามอย่างแปลกใจว่า ” ซูซีมู่ แกพูดจริงเหรอ”
ที่จริงเมื่อกี้ที่ซูซีมู่พูดว่าเขาจะช่วยโล่เฟยเอ๋อเลือกแฟนนั้น พูดไปด้วยความโมโห
แฟนโล่เฟยเอ๋อ ต้องให้ลู่ยู่ไอ้บ้านี้กลุ้มใจไหม หรือต้องให้เหซิงถิงไอ้บ้านั้นกลุ้มใจอะไรด้วย ต้องกลุ้มใจก็มีเขาซูซีมู่กลุ้มใจได้เท่านั้น
เพราะแบบนี้เขาถึงพูดว่าเขาจะช่วยเธอเลือกแฟนเอง
แต่หลังจากพูดเสร็จแล้ว ซูซีมู่ก็รู้สึกเสียใจภายหลังแล้วสิ
เขาไม่สามารถคิดได้เลย ว่าถ้าข้างกายโล่เฟยเอ๋อมีผู้ชายอีกคนโผล่มานั้นจะรู้สึกเช่นไร
ดังนั้นเขาเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดลู่ยู่ และในลิฟต์ก็มีเสียงร้องขึ้นมาพอดี ซูซีมู่ยกเท้า แล้วรีบเดินออกจากลิฟต์ไปเลย
ทีแรกซูซีมู่คิดว่าพูดแบบนี้แล้วลู่ยู่จะหุบปากลง
แต่ผลที่ได้นั้นลู่ยู่ยังคงตามหลังเขาแล้วถามไปต่อ “ซูซีมู่ คนที่แกมองไว้ให้นะคือใครกัน”
ซูซีมู่เร่งความเร็วในการเดินขึ้น ลู่ยู่ก็เร่งความเร็วตามเช่นกัน “แอบบอกหน่อย ซูซีมู่”
“สงสัยจริง ว่าในสายตาของซูซีมู่อย่างแก ใครถึงจะเหมาะกับเฟย์เอ๋อ……หล่อเหลามาดเข้ม…..อ่อนโยนมากตังค์เหรอ หรือมีพลังอำนาจ……”
ซูซีมู่ถูกลู่ยู่ถามจนรำคาญ จึงตอบประชดว่า “มีทุกรูปแบบเลย พอใจแกยัง”
“จริงเหรอ แกจะแนะนำให้เฟยเอ๋อเมื่อไหร่”ลู่ยู่ถามด้วยความตื่นเต้น
ซูซีมู่ปวดขมับอย่างหนัก และเค้นเสียงลอดไรฟัน ” แกจะเอาวันไหนล่ะ”
ลู่ยู่ไอ้ซื่อบื้อนี้ไม่สังเกตดูซูซีมู่ที่พร้อมจะระเบิดเต็มทนอยู่แล้ว ยังจะบอกด้วยความซื่อว่า” พรุ่งนี้เป็นไง”
เป็นไงน้องสาวแกดิ ซูซีมู่เกือบหลุดคำหยาบออกมา
“ถ้าแกยังพูดอีกคำ แกไปประชุมคนเดียวเลย”ซูซีมู่เตือนลู่ยู่ด้วยสายตา จากนั้นก็ได้หันเดินจากไป
คำขู่ซูซีมู่ใช่ได้ดีพอสมควร เพราะหลังจากนั้นลู่ยู่ก็นอนสอนง่ายขึ้นมาก
ส่วนเรื่องที่จะช่วยโล่เฟยเอ๋อเลือกแฟนนั้น แม้ซูซีมู่จะไม่คิดทำจริง แต่เพราะพูดออกไปแล้ว และทุกวันนี้ลู่ยู่ก็ค่อยจี้ถามตามอาหารสามมื้อบวกกับอาหารรอบดึกด้วย จนเป็นกิจวัตรประจำวันไปเลย
ลู่ยู่กับเหซิงโม่หารายชื่อเยอะแยะมากมายมา แล้วจากนั้นก็ยื่นให้ซูซีมู่เลือกด้วยตัวเอง
ซูซีมู่เปิดรูปถ่ายพลิกไปพลิกมา เพราะที่จริงแล้วเขาไม่ชอบสักคนเลย แต่กลัวลู่ยู่ไอ้บ้านี้จะมาตามรังควานเขาอีก สุดท้ายเขาเลยเลือกมาไม่กี่คน ยังงั้นซะเขาก็จะไม่ให้โล่เฟยเอ๋อทำความรู้จักกับคนพวกนี้อย่างแน่นอน
ซูซีมู่คิดแบบนี้ แต่เขาไม่รู้ว่า การกระทำของเขา เป็นการทำร้ายโล่เฟยเอ๋อให้ตายทั้งเป็นเลยก็ได้
ตอนโล่เฟยเอ๋อได้รับโทรศัพท์จากลู่ยู่นั้น เธอเพิ่งออกมาจากบริษัท
“เฟยเอ๋อ วันนี้เธอว่างไหม” โล่เฟยเอ๋อไม่ทันได้คิดก็จะปฏิเสธเลย ” ฉันยังมีเรื่องนิดหน่อย อาจจะ……”
“เฟยเอ๋อ เธอไม่ได้ออกมานานแล้ว และวันนี้ไม่ว่าจะเป็นยังไงเธอต้องออกมาด้วยกันให้ได้ล่ะ เหซิงถิงไอ้บ้านั่นบอกแล้ว ถ้าวันนี้เธอไม่มา พรุ่งนี้เขาจะไปหาเธอเล่นที่บริษัทเอง”ลู่ยู่พูด
เมื่อได้ยินลู่ยู่พูดแบบนี้ โล่เฟยเอ๋อจึงตอบได้เพียง “งั้น……เดี๋ยวฉันมา พวกเธออยู่ไหน”
“เธอไม่ต้องมาเอง ซูซีมู่ไปรับเธอแล้ว”ลู่ยู่พูด
เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่าซูซีมู่ไปรับเธอแล้ว โล่เฟยเอ๋อถึงกับอึ้งไปเลย
เธอรีบเงยหน้าไปดู แล้วเห็นตรงข้ามถนนนั้น มีรถซูซีมู่ได้จอดรอไว้ที่นั่นแล้ว
อาจเพราะโล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร น้ำเสียงสงสัยของลู่ยู่ก็ได้ลอยเข้ามาแทน ” เฟยเอ๋อ เป็นไรไป”
โล่เฟยเอ๋อได้สติ แล้วจึงตอบ “ไม่มีอะไร ฉันเห็นรถเขาแล้ว”
“งั้นพวกเราไปรอพวกเธอที่หยู้ผินเซียงนะ”ลู่ยู่พูดเสร็จ ก็วางสายทิ้งไปเลย
โล่เฟยเอ๋อค่อยๆหันไปมองถนนตรงข้ามที่มีรถคุ้นเคยจอดอยู่แล้วแป๊บหนึ่ง แล้วจึงก้าวเท้าเดินไปหา
เธอยังเดินไม่ถึงหน้ารถ ซูซีมู่ก็ลงออกมาจากรถแล้ว
“เลิกงานแล้วเหรอ”
“ใช่”
การสนทนาแบบนี้ สำหรับเมื่อก่อนนั้นพวกเขาไม่เคยต้องพูดเลย เพียงแค่สายตาเดียวก็เข้าใจกันทุกอย่าง แต่ตอนนี้กลับต้องใช้การถามคำตอบคำที่น่าอึดอัดแบบนี้อีก
“ขึ้นรถเถอะ ลู่ยู่พวกเขารอพวกเราอยู่”ซูซีมู่ที่พูดอยู่ ได้ถอยหลังไปสองก้าว แล้วจะยื่นมือเปิดประตูรถที่นั่งข้างคนขับด้วยความคุ้นชิน เพียงแต่ขณะที่เขาเดินถอยไปทางประตูที่นั่งข้างคนขับ แล้วยกมือขึ้นนั้น ยังไม่ทันได้ดึงประตูรถ ก็ได้ยินเสียงตอบอือจากโล่เฟยเอ๋อ แล้วจากนั้นเธอก็ได้ยื่นมือไปเปิดประตูด้านหลังรถ
ปลายนิ้วซูซีมู่ถึงกับแข็งทื่อเล็กน้อย พร้อมกับจ้องมองไปยังโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ในรถครู่หนึ่ง แล้วจึงอ้อนจากทางหน้ารถ มาขึ้นรถ
หลังจากเขานั่งเรียบร้อยแล้ว ได้จ้องผ่านกระจกมองโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ด้านหลังด้วยอ้ำอึ้ง สุดท้ายแล้วก็ไม่พูดอะไรออกไป จึงสตาร์ทออกรถแทน
ตลอดทางที่จากบริษัทดี้ก้วนถึงหยู้ผินเซียงนั้น ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อไม่เคยพูดคุยกันเลย
ซูซีมู่แค่รู้สึกอยู่บนรถไม่สะดวกต่อการพูดคุยกันรอหลังจากทานข้าวกันเสร็จ เขาจะหาโล่เฟยเอ๋อมาคุยกันดีๆ
แต่สำหรับความรู้สึกโล่เฟยเอ๋อนั้น คิดว่าซูซีมู่ได้มองเธอน่ารำคาญไปแล้ว ทางที่ดีอย่าพูดไปให้เขารำคาญอีก
เธอตัดสินใจแล้ว ว่าครั้งนี้ จะถือว่าเป็นสังสรรค์กับพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น เธอจะเปลี่ยนเบอร์ทิ้ง จะไม่ติดต่อกับลู่ยู่พวกเขาอีก เชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นซูซีมู่ก็คงไม่ต้องฝืนตัวเองเพราะลู่ยู่พวกเขามายุ่งวุ่นวายกับเธออีก……
ทั้งสองต่างคิดไปต่างๆนาๆ จนไปถึงหยู้ผินเซียง
จากนั้นทั้งสองก็ลงจากรถตามหลังกันมา เดินเข้าไปข้างในหยู้ผินเซียง จนมาถึงห้องที่ซูซีมู่จ้องไว้
เมื่อเข้ามาในห้อง โล่เฟยเอ๋อสังเกตเห็นว่าข้างในห้องนั้น นอกจากลู่ยู่ เหซิงโม่ เหซิงถิงแล้ว ยังมีชายหนุ่มอีกสี่ ห้าคนที่ไม่รู้จัก
ชายหนุ่มพวกนั้นเมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อแล้วนั้น ตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จนจ้องโล่เฟยเอ๋ออย่างไม่วางตาเลย
เธอแค่รู้สึกแปลกใจ แต่กลับไม่คิดอะไรมาก จึงคิดเพียงแค่ว่าคนพวกนั้นเป็นคนแวดวงเดียวกันกับซูซีมู่พวกเขา และสำหรับคนนอกอย่างเธอแค่รู้สึกแปลกประหลาดใจก็เท่านั้นเอง
เหซิงถิงเมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อเดินเข้ามา ก็ดีใจเอามากๆ ” เฟยเอ๋อ เธอมาจริงๆด้วย พี่ยู่ไม่ได้หลอกฉันจริงๆด้วย”
ลู่ยู่ที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อได้ฟังที่เหซิงถิงพูด ก็รีบพูดโต้ขึ้นมาทันที “เหซิงถิง พี่ยู่ของเธออย่างฉันเคยหลอกอะไรเธอกัน”
“ครั้งก่อนพี่บอกเฟยเอ๋อจะมา สุดท้ายล่ะ พี่ยังบอกอีกเหรอว่าพี่ไม่เคยโกหกฉัน”คำพูดของเหซิงถิงได้ทำให้ลู่ยู่หุบปากขึ้นมาทันทีจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
โล่เฟยเอ๋อฟังไปฟังมาก็เข้าใจแล้ว ที่เหซิงถิงกับลู่ยู่เป็นนั้นเพราะครั้งก่อนที่เธอปฏิเสธไป จึงทะเลาะกัน เลยรีบเอ่ย “ครั้งก่อนขอโทษด้วยนะ เป็นเพราะฉันมีเรื่องจริงๆ เลยมาไม่ได้”
เมื่อได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด เหซิงถิงก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่าฮ่า เฟยเอ๋อ ไม่มีใครโทษเธอ ฉันกับพี่ยู่แค่ล้อเล่นกันเฉยๆ”
“เฟยเอ๋อ ฉันกับเหซิงถิงแค่ล้อเล่นกันเฉยๆ” ลู่ยู่พูดซ้ำออกไป
โล่เฟยเอ๋อมองเหซิงถิง และมองลู่ยู่ แล้วเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ จึงได้โล่งอกไปที “งั้นก็ดีแล้ว”
เหซิงโม่ที่นั่งข้างๆได้ยิ้มหัวเราะทักทายโล่เฟยเอ๋อ ” เฟยเอ๋อ ไม่ต้องไปสนพวกเขา มานั่งเร็ว”
“เฟยเอ๋อมานั่งกับฉัน” เหซิงถิงดึงมือโล่เฟยเอ๋อด้วยความกระตือรือร้น
โล่เฟยเอ๋อเลยมากล้าปฏิเสธ จึงมาข้างนั่งกับเหซิงถิง ด้วยความที่ทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน ทำให้มีเรื่องพูดกันไม่จบไม่สิ้น
ซูซีมู่ได้นั่งลงตรงข้ามกับโล่เฟยเอ๋อ ได้มองโล่เฟยเอ๋อเป็นระยะๆ แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา