แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่117 ทำงานที่ร้านจิวเวลรี่ว่านฟู๋
โล่หยิวชิว?นั่นไม่ใช่พี่บุญธรรมของคุณหนูโล่หรอ? เพราะเหตุใดเธอถึงหาคนมาสะกดรอยตามประธานซูและคุณหนูโล่?
โจวเฉิงเหลือบมองอีกฝ่าย แล้วถามว่า “นอกจากสะกดรอยตามแล้ว เธอยังให้คุณทำอะไรอีก?”
ชายคนนั้นตอบด้วยเสียงสั่นว่า “เธอขอให้ผมแอบตามไปถ่ายรูป เรื่องเนื้อจากนี้ก็ไม่มีอะไรครับ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดใบหน้าของโจวเฉิงก็จมลง “แล้วรูปถ่ายล่ะ?”
“ทั้งหมด … อยู่นี่แล้ว” ชายคนนั้นหยิบกล้องถ่ายขึ้นมาจากที่นั่งผู้โดยสารด้วยมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ยื่นให้โจวเฉิง
โจวเฉิงหยิบกล้องขึ้นมา เปิดดู
เมื่อเขาเห็นรูปถ่ายในกล้อง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ในรูป นอกจากที่ถ่ายรูปของซูซีมู่ในวันนี้ ยังมีรูปที่ยังไม่รู้ถ่ายเมื่อไหร่ของซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อตอนเดินด้วยกัน
โจวเฉิงรู้ดี ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานของพวกเขาเกิดความขัดแย้งกับคุณหนูโล่ ยุ่งกับการทำงานทุกวัน แม้แต่ประตูห้องทำงานยังไม่เคยออกไป ยิ่งไม่เคยอยู่ด้วยกันกับคุณหนูโล่
แต่ตอนนี้ในรูป มีรูปที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน มันสามารถบอกได้ว่า บุคคลนี้ได้ติดตามพวกเขามานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว
ในฐานะผู้ช่วยของประธาน ประธานถูกสะกดรอยตามมานานขนาดนี้ เขายังสังเกตไม่ได้
และถ้าเกิดเรื่องล่ะ โจวเฉิงแค่นึกถึงเรื่องนี้ย้อนหลัง ยังตกใจจนเหงื่อเย็นเลย
“คุณสะกดรอยตามมานานแค่ไหนแล้ว?”
อีกฝ่ายตอบตามความเป็นจริง “ ก็เกือบ……หนึ่งเดือนแล้ว”
บังอาจมาก เป็นเดือนแล้ว
โจวเฉิงด่าทอในใจ จากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงกุญแจรถออกจากพวงมาลัยรถ แล้วเตือนว่า‘อยู่ในรถดีๆล่ะ’ แล้วเขาก็หยิบกล้องไปรายงานซูซีมู่
“ประธานซู”
ซูซีมู่ยื่นคำว่า ‘อืม’ แล้วถามอย่างแผ่วเบาว่า “ถามได้เรื่องหรือยัง?”
“ถามได้เรื่องแล้วครับ โล่หยิวชิวจ้างเขามาสะกดรอยตามคุณกับ……”โจวเฉิงมองไปที่ซูซีมู่ แล้วเขาก็เอ่ยคำสามคำถัดไป “คุณหนูโล่”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดไร แต่สีหน้าเย็นชา เม้มปากแน่น ทำให้เห็นได้ว่า เขาอารมณ์ไม่ดี
สักพัก เขาก็พูด “นานแค่ไหนแล้ว?”
“หนึ่งเดือน ” หลังจากโจวเฉิงตอบ ก็ได้ก้มหน้าลงอีกครั้ง “ผมผิดเองครับ เขาติดตามเป็นเดือนแล้ว ยังไม่รู้ ”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวไรกับคุณ” ในมุมมองของซูซีมู่ เรื่องนี้เป็นเพราะว่าความประมาทของตัวเอง
โจวเฉิงลดสายตาลง แล้วพูดว่า “ประธานซู จะทำเอายังไงกับคน ๆ นี้? แม้ว่าคนๆนี้จะหาข้อมูลสำคัญอะไรไม่ได้ แต่เขาก็น่าจะถ่ายรูปคุณกับคุณหนูโล่ให้โล่หยิวชิวจำนวนมาก”
“รูปภาพ?”ซูซีมู่ยักคิ้วขึ้น
“ทั้งหมดอยู่นี่ครับ”โจวเฉิงส่งกล้องให้ซูซีมู่ตามที่เขาพูด
เปิด ตรวจดูรูปถ่ายข้างในทีละใบ
ภาพถ่ายไม่มีอะไรพิเศษ แต่มีรูปหนึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ซูซีมู่นัดดูตัวคู่คบแต่งงานให้โล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่จ้องไปที่รูปถ่ายของโล่เฟยเอ๋อในกล้อง โดยมีแสงกะพริบอยู่ในแววตา
“วางแผนให้คนๆนี้ทำงานให้โล่หยิวชิวต่อไป และเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้กับโล่หยิวชิว”เขาอยากเห็นว่าโล่หยิวชิวต้องการทำอะไร …….
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย เธออยู่ที่ร้านจิวเวอรี่ว่านฟู๋งานยุ่งมาก
หลังจากเธอเข้ามาในร้านจิวเวอรี่ว่านฟู๋ ก็ถูกจัดให้ไปเป็นผู้ช่วยของนักออกแบบที่ชื่อเสียงก็ไม่เลวคนหนึ่งในร้านจิวเวอรี่ว่านฟู๋
พูดให้ดูดีหน่อยเธอเป็นผู้ช่วย ถ้าพูดให้น่าเกลียดหน่อย เธอก็เป็นแค่คนรับใช้หรือขี้ข้า
พวกงานทำความสะอาดห้องทำงาน จัดเอกสาร ชงกาแฟถือน้ำ ล้วนแล้วให้เธอเป็นคนทำทั้งหมด
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้โล่เฟยเอ๋อหาไม่เจอตำแหน่งงานเกี่ยวกับการออกแบบ ไม่งั้นเธอคงออกไปตั้งนานแล้ว
แต่ทำงานตรงนี้ก็ยังมีข้อดีอยู่ เวลาที่โล่เฟยเอ๋อว่างก็สามารถไปที่โชว์รูมขายของในร้านจิวเวลรี่ว่านฟู๋ได้ สำหรับนักออกแบบจิวเวลรี่แล้ว การตั้งใจก้มหน้าก้มตาวาดภาพร่างสำคัญก็จริง แต่การเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าก็สำคัญเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าความคิดทุกอย่างของลูกค้าจะดีไปหมด แต่บางความคิดของลูกค้าเราก็สามารถนำมาปรับใช้ได้เช่นกัน
แต่เรื่องพวกนี้ นักออกแบบจะไม่ค่อยให้ความสำคัญนัก
เพราะว่านักออกแบบโดยทั่วไปแล้วจะถือและทำตามความคิดตนเองเป็นส่วนใหญ่
ก็เหมือนตอนนี้ โล่เฟยเอ๋อกำลังฟังลูกค้าเก่าที่เคยซื้อจิวเวลรี่ไปมาหานักออกแบบ เข็มกลัดที่เธอซื้อไปถูกเพื่อนล้อว่าเชย เธออยากเชิญให้นักออกแบบช่วยแก้แบบให้หน่อย
โล่เฟยเอ๋อสังเกตดูเข็มกลัดของอีกฝ่าย เป็นเข็มกลัดผีเสื้อที่ที่ทำขึ้นจากพลอยทับทิมที่มีราคาแพง ทัวร์มาลีนที่หรูหรา บวกกับเพชรที่มีมูลค่าสูง
พลอยทับทิมที่มีราคาแพงทำเป็นปีก ทัวร์มาลีนที่หรูหราทำเป็นร่าง เพชรที่มีมูลค่าสูงมาทำเป็นลวดลายที่ซับซ้อน รวมของดีๆทุกอย่างเข้าด้วยกันหมด ทำให้ดูเหมือนเศรษฐีใหม่
ก็ว่าทำไมคนถึงบอกว่าดูเชย
โล่เฟยเอ๋อแอบถอนหายใจในใจ และเสนอความคิดของตนเอง”ถ้าเปลี่ยนพลอยทับทิมเป็นอย่างอื่น ก็จะไม่ดูเฉยแบบนี้แล้ว”
พนักงานลูกน้องของนักออกแบบในร้านเมื่อได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูดกับลูกค้าเก่าก็ขมวดคิ้วขึ้น แต่ไม่ได้พูดอะไร
ลูกค้าเก่าคนนั้นถามอย่างสนใจ:”เปลี่ยนเป็นอะไร?”
โล่เฟยเอ๋อไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดกับเธอด้วย เงียบไปแปบหนึ่ง ถึงตอบไปว่า”ใช้เปลือกหอยสะท้อนแสงแทนพลอยทับทิมค่ะ”
“เปลือกหอยสะท้อนแสงคืออะไร?”ลูกค้าเก่าถามอย่างสนอกสนใจ
“มันเป็นของที่ใช้มิกซ์รวมกับจิวเวลรี่ เพราะว่าคุณสมบัติของเปลือกหอยสะท้อนแสง จะทำให้ปีกของผีเสื้อให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะโบยบิน ซึ่งจะทำให้เข็มกลัดดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา…..”
โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ สาวพนักงานร้านก็พูดตัดหน้าเธอ”คุณหยุน นักออกแบบโจวมาแล้วค่ะ”
คุณหลินเมื่อได้ยินที่พนักงานสาวในร้านพูด จึงเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้นักออกแบบโจวที่กำลังเดินมาทางนี้:”มาแล้วเหรอ นักออกแบบโจว”
“สวัสดีค่ะคุณหลิน”โจวหยุนกล่าวทักทายลูกค้า VIPของตน
คุณหลินยิ้มและพยักหน้า กล่าว:นักออกแบบโจว ช่วยแก้แบบเข็มกลัดนี้ให้ฉันหน่อยสิ”
“เข็มกลัด?”สายตานักออกแบบโจวมองไปที่เข็มกลัดในมือของคุณหลิน เงียบไปพักหนึ่ง และถามว่า:”คุณหลินคะ เข็มกลัดอันนี้มีปัญหาอะไรหรอคะ?”
“นักออกแบบโจว เข็มกลัดอันนี้มันดูหรูหราอลังการเกินไป ทำให้คนดูแล้วรู้สึกว่าเชย”คุณหลินตอบ
โจวหยุนเมื่อได้ยินคำพูดของคุณหลิน ถึงกับหน้าเหวอ แล้วถามต่อว่า:”คุณหลินอยากให้แก้ยังไงหรอคะ?”
คุณหนูมองโจวหยุนทีหนึ่ง แล้วชี้ไปที่โล่เฟยเอ๋อพร้อมกล่าวว่า:”เมื่อกี้เธอบอกว่าใช้เปลือกหอยสะท้อนแสงแทนพลอยทับทิมตรงปีก เธอสามารถลองดูได้”
โจวหยุนเห็นคุณหลินกำลังชี้ไปที่โล่เฟยเอ๋อ ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่มาใหม่ของตน ทำเอาเธอโมโหหัวร้อนทันที
แน่นอนเธอจะไม่รังแกโล่เฟยเอ๋อต่อหน้าลูกค้า เธอแค่ยืนยันและพูดกับคุณหลินไปว่า:”คุณหลิน เปลือกหอยสะท้อนแสงมันราคาถูก ไม่คู่ควรกับเข็มกลัดอันนี้….”
โจวหยุนยังไม่ทันได้พูดจบ คุณหลินก็พูดแทรก”ฉันได้ยินเธอพูด รู้สึกว่าก็ไม่เลว คนลองแก้ให้เป็นเปลือกหอยสะท้อนแสงดูสิ”
แม่งเอ้ย เป็นเพราะโล่เฟยเอ๋อนั่นแหละ
จะว่าไป ให้เธอมาเป็นแพะรับบาปก็ไม่เลวนี่ ถ้าผลงานการเปลี่ยนพลอยทับทิมเป็นเปลือกหอยสะท้อนแสงไม่ได้ออกมาดีอย่างที่คาดไว้ ก็ให้เธอเป็นคนรับอารมณ์โมโหของคุณหลินเอง
โจวหยุนกวาดสายตามองโล่เฟยเอ๋ออย่างเยือกเย็น โจวหยุนยิ้มแย้มกล่าวกับคุณหลินว่า:“โอเคค่ะ ฉันจะเปลี่ยนเป็นเปลือกหอยสะท้อนแสง”
“โอเค งั้นรอคุณแก้งานเสร็จ ค่อยโทรหาฉัน”คุณหลินพูดจบก็ยื่นเข็มขัดให้โจวหยุน
“ได้เลยค่ะ” โจวหยุนพยักหน้า และรับเข็มกลัดมา