บทที่133 คุณปู่ ผมจะแต่งงาน
ซูซีมู่มองดูโล่หยิวชิวด้วยสายตาเฉยเมย จากนั้นก็ยื่นมือออกมาเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วรับสาย
“ผมเอง…อือ…ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เมื่อพูดจบ ซูซีมู่ก็วางสายแล้วพูดกับโล่หยิวชิว “ผมมีธุระต้องขอตัวก่อน” จากนั้น ไม่รอว่าโล่หยิวชิวจะตอบอย่างไร เขาหยินธนบัตรออกมาหลายใบวางไว้บนโต๊ะกาแฟแล้วเดินออกไปจาก คลับม่านหยู
“ซีมู่…” โล่หยิวชิวไม่คาดคิดว่าซูซีมู่จะจากไปแบบนี้ เธอคิดอยากจะร้องห้ามเขาไว้
น่าเสียดายซูซีมู่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ก้าวเท้าเร็วเดินออกไป
ถึงแม้ว่าโล่หยิวชิวจะรู้สึกใจฝ่อไปบ้างแต่โดยรวมแล้ว เธอรู้สึกว่ามันดีกว่าครั้งก่อน ๆ มาก อย่างน้อยซูซีมู่ก็ปฏิบัติกับเธออย่าง “มีไมตรีจิต” มากขึ้นเยอะ
หลังจากซูซีมู่เดินออกไปแล้ว โจวเฉินที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็วางสายโทรศัพท์อย่างเบามือ เมื่อเขาเตรียมตัวจะลุกขึ้น ก็พบว่าโล่หยิวชิวลุกขึ้นและเดินตรงมาทางเขา
เขาจึงได้หยุดก้าวเท้าลงชั่วครู่ หรือจะบอกว่าโล่หยิวชิวทำได้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยของซูซีมู่? ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ!
โจวเฉินมองไปทางโล่หยิวชิว จากนั้นจึงกลับไปนั่งที่เดิมอีกครั้ง
โล่หยิวชิวไม่ได้เดินไปหาเขา แต่เธอเดินไปหาผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกาแฟที่อยู่ตรงข้ามเขาอีกทีต่างหาก
“ลี่ชา ผู้ชายที่ฉันชอบเป็นยังไง?” โล่หยิวชิวถามอย่างภาคภูมิใจ
“งานดี หล่อเหมือนเทพบุตรเลยล่ะ! หยิวชิว เธอวางแผนให้โล่เฟยเอ๋อแต่งงานและได้ผู้ชายคนนี้ เธอนี่กำไรจริง ๆ”เวินลี่ชา กล่าวอย่างตกตะลึง
“แน่นอน” โล่หยิวชิวยกมุมปากแล้วพูดต่อ “เธอคิดดูสิ ฉันใช้ความคิดมากมายเพื่อวางแผนเรื่องนี้ ตอนนี้แค่ให้โล่หยิวชิวแต่งงานไปเสีย แล้วเขาก็จะต้องเป็นของฉันแน่นอน”
“เธอวางใจ เธอจะต้องสมหวังแน่”เวินลี่ชา พูดพร้อมรอยยิ้ม
โล่หยิวชิวยกมุมปากด้วยความได้ใจ “ถ้าไม่สมหวัง ฉันคงน้ำตาตกแน่ เธอรู้ไหมฉันวางแผนเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ”
ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีความสุขโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าบทสนทนาของพวกเขานั้น มันเข้าไปอยู่ในโสตประสาทของโจวเฉินที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ทั้งหมด
โจวเฉินนั่งจิบกาแฟเงียบ ๆ รอจนโล่หยิวชิวและเวินลี่ชา คุยจนเสร็จแล้วลุกไป เขาจึงได้ลุกขึ้นและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูซีมู่
อันที่จริงแล้วซูซีมู่ไม่มีเรื่องด่วนอะไรที่ต้องไปจัดการ อันที่จริงโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาสายนั้นเขานัดกันกับโจวเฉินไว้ก่อนแล้ว
ขอเพียงเขายกแก้วกาแฟขึ้น โจวเฉินจะโทรเข้าไปทันที จากนั้นเขาก็จะอ้างทำเป็นติดธุระแล้วออกไป
หลังจากออกมาจาก คลับม่านหยู ซูซีมู่ก็ขับรถตรงไปที่ คฤหาสน์ตระกูลซู
เขาต้องการจะไปถามคุณท่านว่าเรื่องการแต่งงานกับตระกูลโล่นั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่
ทันทีที่รถจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลซู โจวเฉินก็โทรเข้ามาพอดี
“คุณชาย…”
ซูซีมู่ “อือ” รับคำสั้น ๆ จากนั้นเขาก็ลงจากรถพร้อมกับกดปุ่มรับสาย “มีอะไร?”
เสียงของโจวเฉินดังออกมาจากในโทรศัพท์ “ประธานซูครับ เรื่องคุณโล่ ถูกบังคับให้แต่งงาน เป็นแผนของโล่หยิวชิวครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวเฉินใบหน้าของซูซีมู่ก็มืดมนทันที “เรื่องเป็นยังไง?”
โจวเฉินเล่าเรื่องที่โล่หยิวชิวคุยกับเวินลี่ชา ให้ซูซีมู่ฟังโดยละเอียด
เมื่อฟังสิ่งที่โจวเฉินพูดอยู่ในโทรศัพท์ สีหน้าของซูซีมู่ก็เปลี่ยนไปทันที
จนเมื่อโจวเฉินพูดจบแล้ว ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยแววตาอำมหิต
ปกติแล้วซูซีมู่เป็นคนเงียบ ๆ ดังนั้นจึงทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันมากอยู่แล้ว แต่ในเวลานี้ที่เขาเดือดดาล รังสีอำมหิตที่เอ่อล้นไปทั่วร่างกายของเขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าราวกับว่ามันสามารถฆ่าคนได้ทุกเมื่อ
บอดี้การ์ดสองคนที่ประตูมีสีหน้าสงบ แต่มีความตื่นตระหนกอยู่ในใจ
ใครทำให้คุณชายโกรธกันเนี่ย?
เสียงของโจวเฉินดังขึ้นด้วยน้ำเสียงสอบถาม “ประธานซู คุณคิดว่า?”
“รีบไปสืบดูว่าแผนการของโล่หยิวชิวมันเป็นยังไงกันแน่ รวบรวมเตรียมข้อมูลของโล่หยิวชิวให้พร้อมใช้”
… …
ถึงแม้ว่าซูซีมู่จะเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
เขาไม่เคยคิดว่าซูเฟยเอ๋อจะต้องถูกโล่ชิงไป๋บังคับให้แต่งงานและเป็นแผนของโล่หยิวชิว อีกทั้งไม่ว่าจะพิจารณาจากทางไหน เหตุก็เกิดจากการที่โล่หยิวชิวเกิดถูกใจเขา อย่างไรเสียโล่เฟยเอ๋อก็ต้องพลอยได้รับผลกระทบจากเขาไปด้วย
และจากที่ดูจากสถานการณ์ในบ้านโล่ตอนนี้ โล่ชิงไป๋มีความตั้งใจจะให้โล่เฟยเอ๋อแต่งงานกับประธานบริษัทซูซื่อ และโล่หยิวชิวก็พยายามสนับสนุนเต็มที่
ถ้าหากว่าเฟยเอ๋อไม่ได้แต่งงานกับกลุ่มซูซื่อ โล่ชิงไป๋และโล่หยิวชิวก็คงไม่มีทางยอมแพ้
และสำหรับเขาแล้ว การแต่งงานกับโล่เฟยเอ๋อถือเป็นโอกาสสำหรับเขา
แต่ว่าการทำแบบนี้ ถึงเวลาเฟยเอ๋อจะเกลียดเขารึเปล่า?
ความคิดนี้แวบเข้ามาในใจของเขา หัวใจของซูซีมู่สั่นสะท้าน
จากนั้นก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไป ก่อนหน้านี้พวกเขาเข้ากันได้ดี และเขาเชื่อมั่นว่าหลังจากแต่งงานกันแล้ว เธอจะค่อย ๆ รักเขาได้แน่
หลังจากตัดสินใจแล้วดวงตาของซูซีมู่ก็มุ่งมั่น จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าบ้านไป
เมื่อก้าวเข้าประตูไป ซูซีมู่ถามคนรับใช้ที่อยู่ด้านใน “คุณปู่ล่ะ?”
“นายท่านอยู่ในสวนค่ะ” คนรับใช้ตอบ
ซูซีมู่ “อ้อ” เป็นการตอบรับ จากนั้นจึงเดินไปสวนด้านหลังเพื่อหานายท่านซูทันที
“กลับมาแล้วเหรอ?” นายท่านรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นซูซีมู่
นับตั้งแต่วันที่ซูซีมู่โมโหและหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ เขาก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย
ทำไมวันนี้เขาถึงกลับมา?
“ผมมีเรื่องจะคุยกับปู่” ซูซีมู่นั่งลงตรงข้ามนายท่าน
มีเรื่องจะคุยกับเขา? คำพูดนี้ออกมาจากหลานของเขา เกรงว่าฝนคงจะตกลงมาเป็นเลือดเสียกระมัง
ชายชรารีบถาม “มีเรื่องอะไร?”
ซูซีมู่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เรื่องแต่งงานกับบริษัทโล่ซื่อ ปู่รีบจัดการเถอะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”
นายท่านไม่คาดคิดมาก่อนว่าซูซีมู่จะมาขอให้เขารีบจัดการเรื่องงานแต่งงาน คิดว่าตัวเองฟังผิดไป “ไหนพูดอีกทีซิ”
ซูซีมู่ไม่ถือว่าอารมณ์ดีนัก เขาพูดซ้ำอีกรอบ “รีบจัดการเรื่องงานแต่งงานกับบริษัทโล่ซื่อ”
“ไม่ใช่ แกมีโล่เฟยเอ๋อแล้วไม่ใช่เหรอ? จะมาแต่งงานอะไร?” ชายชราพูดอย่างรีบร้อน
“คุณปู่เอาเงินฟาดหัวเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?” ซูซีมู่มองนายท่านด้วยแววตาเรียบเฉย
คำพูดของซูซีมู่ทำให้นายท่านถึงกับพูดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นาน เขาจึงพูดด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ
“ถ้างั้น…เธอยังโกรธอยู่เหรอ? จะให้ปู่ไปอธิบายไหม?”
เหตุผลที่ชายชราเต็มใจที่จะอธิบายกับโล่เฟยเอ๋อเป็นเพราะเขาพอใจกับโล่เฟยเอ๋อจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมั่นใจว่าซูซีมู่เองก็ชอบโล่เฟยเอ๋อ เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าการอธิบายจะสามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้หรือไม่
ซูซีมู่ไม่ได้พูดกับชายชราว่าโล่เฟยเอ๋อคือคู่หมายของเขาจากบ้านโล่ ไม่ ต้องบอกว่าเขาไม่อยากจะพูดเรื่องนี้กับปู่ของเขาเลยสักนิด
ใครขอให้คุณปู่ให้เช็คเปล่าโล่เฟยเอ๋อและปล่อยให้โล่เฟยเอ๋อทิ้งเขาไป?
ปล่อยให้คุณปู่ประหลาดใจไปเถอะ! แววตาของซูซีมู่ส่องเป็นประกายแล้วพูดกับชายชราเบา ๆ “ไม่ต้องครับ คุณปู่ทำเรื่องให้สำเร็จก็พอ”