บทที่ 141 ทะเลาะกันในงานแต่ง (3)
ซูซีมู่ไม่แม้แต่จะเหลียวตามองเขา สายตาหันไปมองที่โล่หยิวชิวแทน “คุณอีกแล้ว…..”
“ระหว่างผมกับเฟยเอ๋อถูกคุกคามครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วยังให้คนมาสอบสวนผมอีก สะกดรอยตามผมกับเฟยเอ๋อ ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลยนะ คุณรู้ไหมว่าเพราะอะไร?”
โล่หยิวชิวที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะถูกซูซีมู่จับโกหกได้มองไปที่ซูซีมู่อย่างแปลกใจ “คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรครับ?”
ซูซีมู่ไม่ตอบคำถามของโล่หยิวชิว พูดต่อว่า : “นั่นเป็นสาเหตุที่ผมไม่คิดบัญชีกับคุณ เพราะว่าผมเป็นห่วงภาพลักษณ์ของเฟยเอ๋อน่ะสิ แต่คุณก็ยังดันทุรังมาก่อกวนในงานแต่งงานของผมกับเฟยเอ๋อถึงที่นี่”
ผ่าง……
คำพูดนี้ของซูซีมู่ ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงอ้าปากค้างยกเว้นใกล้ชิดเพียงไม่กี่คนที่รู้ดี โดยเฉพาะโล่ชิงไป๋และเห้อจิ้นเหยาสองคน ทำไมพวกเขาจะคิดไม่ถึงว่า จู่ๆเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
นี่คืองานแต่งงานของโล่เฟยเอ๋อและซูซีมู่? ไม่ใช่งานแต่งงานของโล่เฟยเอ๋อและประธานบริษัทซูซื่อหรือ?
หรือว่าท่านประธานของบริษัทซูซื่อก็คือ…..
โล่หยิวชิวจ้องมองเขม็ง ส่ายหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ “ไม่! เป็นไปไม่ได้”
ซูซีมู่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังกียจ ราวกับว่าเธอเป็นขยะที่น่าขยะแขยง เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมเป็นประธานของบริษัทซูซื่อเอง”
โล่หยิวชิวตกใจจนแทบยืนไม่ติดที่ “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้! ประธานของบริษัทซูซื่ออายุปาเข้าไปห้าสิบกว่าปีแล้ว…..ไม่มีทางเป็นคุณได้หรอก ไม่มีทางเป็นไปได้”
“ใช่แล้ว ท่านประธานของบริษัทซูซื่ออายุห้าสิบกว่าปี ดังนั้นงานแต่งครั้งก่อน คุณโล่หยิวซิวจึงหนีไปต่างประเทศ หลังจากกลับมา รู้ว่าการแต่งงานนี้ยังมีอยู่ คุณจึงคิดแผนการเอางานสำคัญนี้ผลักไสให้เฟยเอ๋อไปแทน หลังจากที่รู้ว่าเฟยเอ๋อคบกับผม คุณก็มาปั่นหัวผมอีก ดังนั้น คุณจึงวางแผนให้เฟยเอ๋อมาตลอด ทำให้พ่อของคุณเข้าใจว่าผมเป็นแฟนของคุณ บอกพ่อคุณว่า เฟยเอ๋อแย่งแฟนของคุณไป แล้วให้พ่อของคุณ จับเฟยเอ๋อมาเข้าพิธีวิวาห์แทน ใช่ไหมครับ?”
“คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร…..ไม่ ไม่จริง” โล่หยิวชิวตอบสนอง รีบแก้ตัวทันที
มุมปากของซูซีมู่เบ้เล็กน้อย “สุดท้ายคุณก็วางแผนจับเฟยเอ๋อมาแต่งงานกับผมแทน”
“ไม่ ไม่จริง คุณเป็นของฉันสิ! บริษัทซูซื่อก็ต้องเป็นของฉันด้วย! นังสารเลวโล่เฟยเอ๋อนั่นคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เธอกล้าดียังไง?” โล่หยิวซิวไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้ เธอคำรามอย่างบ้าคลั่ง
ผลออกมาแบบนี้ มันไกลเกินกว่าที่โล่หยินชิวจะรับได้ เธอคิดว่าตัวเองคิดรอบคอบอย่างดีแล้ว
เธอวางแผนว่าให้โล่เฟยเอ๋อแต่งงานแทนเธอ เธอกะว่าโล่ชิงไป๋จะเกลียดโล่เฟยเอ๋อ เธอกะว่าโล่เฟยเอ๋อจะแยกทางกับซูซีมู่ ผลสุดท้ายคู่แต่งงานของโล่เฟยเอ๋อก็คือซูซีมู่ ทำให้เธอหมดภาระทุกอย่าง
ความภาคภูมิใจของเธอ ความชอบธรรมของเธอ ทำไมผลถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้นะ?
ได้ยินโล่หยิวชิวต่อว่าโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่สายตาโกรธแค้น มองใบหน้าขาวซีดที่สวยงามของเธอ สายตาที่ฉายแววนั้น ทำให้รู้สึกหนาวเย็นแบบเดาไม่ถูก
ดวงตาของโล่หยิวชิวสลดลง กัดริมฝีปากแน่น หน้าซีดเผือด ปิดปากเงียบ
สายตาของซูซีมู่จ้องมองอย่างประชดประชัน เขาค่อยเดินเข้าไปหาโล่หยิวชิว แล้วหยุดลงตรงหน้าเธอระยะ 1 เมตร
“ผมเคยเตือนคุณแล้วครั้งหนึ่ง ดูเหมือนคุณรู้สึกว่าภาพถ่ายเหล่านั้นอ่อนโยนเกินไปสินะ”
ภาพถ่าย? โล่หยิวชิวอึ้งไปครู่หนึ่ง ถึงได้นึกออกว่าภาพถ่ายที่ซูซีมู่พูดถึงก็คือภาพถ่ายที่ส่งไปยังวิลล่าบ้านโล่เมื่อคราวก่อน
ภาพถ่ายเหล่านั้นอ่อนโยนเกินไป? หรือว่า……
โล่หยิวชิวขาอ่อนลงทั้งสองข้าง ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยสีหน้าขาวเผือด
ซูซีมู่มองโล่หยิวซิวด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก้าวอย่างสง่างาม จากไป
จะว่าไป เรื่องวุ่นวายนี้? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณปู่ของบ้านเขาจะดีกว่า!
คนเราเมื่ออายุมากแล้ว ต้องการกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย!
โล่เฟยเอ๋อตั้งแต่เล็ก ก็รู้ว่าคุณพ่อและคุณแม่เอาใจใส่เธอไม่มากเท่าที่ควร
เพราะว่าคุณพ่อน้อยครั้งจะกลับบ้าน ส่วนคุณแม่แอบร้องไห้ตอนกลางคืนอยู่เสมอ
พอเวลาคุณพ่อกลับมาที่บ้าน ก็จะทะเลาะกับคุณแม่เป็นประจำ ด่าว่าคุณแม่ แล้วก็ออกจากบ้านไป
เธอไม่เข้าใจหรอกว่าพวกเขาทะเลาะเรื่องอะไรกัน เธออยากให้คุณพ่อกับคุณแม่คืนดีกัน ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างหนักเพื่อเอาใจคุณพ่อ เธอสอบได้ที่หนึ่งของห้อง เธอเรียนรู้ทักษะหลายอย่าง……..
แต่คุณพ่อของเธอไม่ชอบเธอ แถมยังด่าว่าเธออีกด้วย
ครั้งนั้นคุณแม่ทะเลาะกับคุณพ่อรุนแรง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยแม่แต่ครั้งเดียว
จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 12 ปี คุณแม่เสียชีวิต คุณพ่อจึงปรากฏตัวขึ้น
เธอคิดว่าตั้งแต่นั้นมาคุณพ่อจะอยู่กับเธอที่บ้าน แต่เปล่าเลย คุณพ่อจากไปอีก แล้วเอาเธอฝากไว้กับพี่เลี้ยงช่วยดูแล
เธออยู่กับพี่เลี้ยงได้หนึ่งปี แล้วคุณพ่อก็กลับมา
เธอดีใจมาก ในที่สุดคุณพ่อก็กลับมาแล้ว
พี่เลี้ยงบอกเธอว่า คุณพ่อแต่งงานมีภรรยาใหม่แล้ว แถมภรรยาคนนั้นยังมีลูกสาวคนหนึ่งด้วย
ตอนนั้นเธอโกรธมากจะไปหาคุณพ่อ และเอะอะโวยวายไม่ยอมให้คุณพ่อพาพวกเขาเข้าบ้าน
ทำให้คุณพ่อรำคาญ ตอนนั้นคุณพ่อตบหน้าเธอเข้าให้
คุณพ่อบอกว่าเดิมทีเขาไม่ได้ชอบแม่ของเธอเลย คุณแม่ของเธอวางยาคุณพ่อ แล้วปีนขึ้นเตียงของพ่อ จึงมีเธอขึ้นมา แล้วก็แต่งงานเข้าบ้านโล่
ตั้งแต่วันนั้นมา ชีวิตของโล่เฟยเอ๋อก็พลิกผันครั้งใหญ่
หลายปีมานี้ โล่เฟยเอ๋อคิดว่าตัวเองลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้ว
จนกระทั่งวันนี้ โล่หยิวชิวด่าเธอว่าเหมือนแม่ของเธอ อ่อยผู้ชาย…..
“เดิมทีฉันยังจำได้มาตลอด…….” โล่เฟยเอ๋อพึมพำขึ้นเบาๆ
เหซิงถิงเห็นโล่เฟยเอ๋อพูดขึ้น รีบถามว่า “เฟยเอ๋อ เธอดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า แล้วสังเกตเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องๆหนึ่งซึ่งคล้ายคลึงกับในห้องที่เธอกำลังแต่งหน้าอยู่ก่อนหน้านี้
เธอจำได้ว่าในสถานที่จัดงานแต่ง โล่หยิวชิวว่าเธอต่อหน้าแขกเหรื่อ……ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
เหซิงถิงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “เมื่อครู่คุณรู้สึกไม่ค่อยดี ดังนั้นพี่ซีมู่ให้ฉันกับซูยุ่นพาคุณแม่พักผ่อนที่นี่น่ะ”
โล่เฟยเอ๋อ “อืม” คำเดียว แล้วถามว่า “แล้วซูซีมู่ล่ะ?”
“พี่ซีมู่ไปจัดการความเรียบร้อยในงาน เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ” เหซิงถิงตอบ
“ซูซีมู่ไปจัดการความเรียบร้อยในงาน?” โล่เฟยเอ๋อพึมพำ จากนั้นจู่ๆก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ตกลงเขาเป็นใครกันแน่?”
เหซิงถิงถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย “ตกลงใครเป็นใคร?”
“ซูซีมู่ตกลงเป็นใครกันแน่?” โล่เฟยเอ๋อถามซ้ำอีกรอบ
เฟยเอ๋อตั้งใจจะถามเธอว่าพี่ซีมู่คือใคร? เหซิงถิงรู้สึกว่าเธออาจจะตามไม่ทันโล่เฟยเอ๋อ “เอ่อ…..เฟยเอ๋อ คุณแต่งงานกับพี่ซีมู่แล้ว คำถามนี้ไม่ควรจะถามฉันละมั้ง?”
เธอแต่งงานกับซูซีมู่แล้ว? เธอไม่ได้แต่งงานกับประธานของบริษัทซูซื่อ……
“ซูซีมู่คือประธานของบริษัทซูซื่อ?”
“ใช่ครับ ผมคือประธานของบริษัทซูซื่อ” เสียงของซูซีมู่ดังขึ้น แล้วประตูของห้องรับรองก็เปิดออก ซูซีมู่เดินเข้ามา