บทที่ 136 เพื่อนพี่น้องเป็นห่วงเรื่องงานแต่ง
เมื่อได้ฟังในสิ่งที่โล่เฟยเอ๋อพูด โล่ชิงไป๋โกรธจนหน้าเขียว “โล่เฟยเอ๋อ แกหมายความว่ายังไง”ไม่ได้หมายความว่าไงค่ะ แค่ยินดีกับคุณพ่อด้วย”โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้น เพื่อจ้องมองโล่ชิงไป๋
เมื่อได้เผชิญกับสายตาของโล่เฟยเอ๋อ โล่ชิงไป๋ก็เกิดความขลาดกลัวในใจ
เขาเลยหลบสายตานั้น แล้วพูดอย่างเย็นชา ” โล่เฟยเอ๋อ เรื่องการแต่งงานนั้น มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว ทางที่ดีแกเตรียมตัวแต่งงานหลังจาก 5 วันนี้ซะ”
“หนูจะเตรียมตัวอย่างดีค่ะ แต่ตอนนี้หนูจะพักผ่อนแล้ว รบกวนพวกคุณช่วยออกไปจากห้องของฉันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพูดพลางชี้ไปทางประตูด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ทีแรกโล่ชิงไป๋มานั้น เพื่อให้โล่เฟยเอ๋อเตรียมตัวสำหรับการแต่งงาน แต่ตอนนี้ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว จึงไม่อยู่รอช้า พาโล่หยิวชิวออกไปทันที
ตามด้วยเสียงประตูที่ดังขึ้นมานั้น ทำให้น้ำตาได้ไหลจากบนหน้าของโล่เฟยเอ๋อออกมา
เมื่อก่อนโล่เฟยเอ๋อเธอเป็นลูกไม่รักดีของพ่อ แต่ตอนนี้เธอเป็นแค่หมากตัวหนึ่งของพ่อที่ใช้แต่งงานเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น
จะเริ่มจนจบ สิ่งที่เธอโล่เฟยเอ๋อต่างไปนั้นคือไม่มีคุณค่ากลายเป็นมีคุณค่า…….
หลังจากตัดสินใจแต่งงาน ซูซีมู่ก็เริ่มยุ่งขึ้นมา
ถึงแม้เรื่องการเตรียมงานแต่ง เขาไม่ต้องลงมือจัดการเอง เพียงสั่งคนจัดการก็เสร็จ
แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เขาต้องเตรียมตัวล่วงหน้า นั่นก็คือการอดเปรี้ยวเพื่อกินหวานจากงานแต่ง ฮันนีมูน เขาเลยต้องทำงานให้เสร็จล่วงหน้าก่อน
เพราะแบบนี้ตอนคุณท่านซูยุ่งกับเรื่องการเตรียมงานแต่งอยู่นั้น ซูซีมู่เลยได้แต่ทำแต่งานในห้องอย่างหามรุ่งหามค่ำ
เพราะซูซีมู่ทำงานอย่างหนัก เลยทำให้ลูกน้องต้องทำงานหนักตามเขาไปด้วย
เลยทำให้ทั่วทั้งบริษัทเต็มไปด้วยเสียงความไม่พอใจ มีหลายคนวิ่งถามข่าวจากโจวเฉิง ว่าประธานซูต้องการฝึกยอดมนุษย์ใช่หรือไม่
โจวเฉิงบอกทุกคนที่มาถามข่าวจะเขาว่า ถึงเวลาก็จะรู้เองเพื่อไล่พวกเขากลับไป
ล้อเป็นเล่น เขาเหรอจะไล่พวกเขายังไง หรือจะให้พูดกับพวกเขาว่า วันนี้ทำงานหามรุ่งหามค่ำกับประธานซูหลายวัน เพื่อตอนประธานซูแต่งงาน ฮันนีมูนแล้ว แล้วทุกคนจะได้หยุด
พูดแบบนี้คงไม่มีใครเชื่อหรอก
ในขณะที่ซูซีมู่กำลังยุ่ง เรื่องงานแต่งงานระหว่างบริษัทซูซื่อกับบริษัทโล่ซื่อ ก็ถูกแพร่กระจายออกไป
เมื่อลู่ยู่กับเหซิงโม่ได้ฟังข่าวก็ต่อสายมาหาถึงที่ทันที
เพราะซูซีมู่ทำงานทั้งวันทั้งคืนมาสองวัน เลยเหนื่อยเอามากๆ เมื่อได้รับสายจากลู่ยู่เลยน้ำเสียงที่ไม่ดีนะ
“หาฉันมีเรื่องอะไร”
ลู่ยู่เมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่ไม่ดีนักของซูซีมู่แล้ว ก็เริ่มบ่นขึ้นมา “ซูซีมู่ ไอ้เชี้ยนี่ พูดด้วยเสียงแบบนี้ได้ไง”
“มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ฉันไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับแก”ซูซีมู่วางเอกสารในมือลง เรายกมือคืน มานวดขมับที่ปวดอยู่แล้วพูด
เมื่อได้ฟังว่าซูซีมู่ไม่ว่าง ลู่ยู่ก็รีบพูดอย่างโมโห ” ซูซีมู่ แกทำอะไรกันแน่ ข่าวลือเรื่องการแต่งงานครั้งนี้ เป็นเรื่องไม่จริงใช่ไหม”
ซูซีมู่พูดพลางยกเปลือกตาขึ้นมา ” ไม่ใช่ ฉันจะแต่งงานแล้ว”
“ข้างนอกมีข่าวลือกระหน่ำว่าระหว่างบริษัทซูซื่อกับบริษัทโล่ซื่อจัดงานแต่งขึ้น…..ห๊ะ…..เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ไม่ใช่ข่าวลือเหรอ แกจะแต่งงานจริงๆเหรอเนี่ย “ลู่ยู่ถามอย่างตกใจ
ซูซีมู่ตอบเสียงเย็นชายอมรับว่าอือ
“เฮ้ย ซูซีมู่ แกทำไมไม่บอกไม่กล่าวก็จะแต่งงานแล้ว เคยบอกไม่ใช่เหรอว่าทั้งชีวิตจะไม่มีความรัก และจะไม่แต่งงาน แล้วจะไม่ชอบผู้หญิงคนไหนด้วย”
ซูซีมู่ชะงักเล็กน้อย แล้วตอบ “นั่นคือเมื่อก่อน”
“อะไรเมื่อก่อนตอนหลังว่ะ ไม่ได้ แกต้องพูดกับพวกฉันให้รู้เรื่อง……”ลู่ยู่บ่นยาวมาเป็นชุด แล้วถาม “ตอนนี้แกอยู่ไหน”
“บริษัท……”คำว่า”ทำโออยู่”ที่อยู่ข้างหลังซูซีมู่ยังไม่ได้พูดมันออกไป ลู่ยู่ก็พูดแทรกขึ้นมา
“พวกเรากำลังจะไปหาแกเดี๋ยวนี้เลย” ลู่ยู่พูดเสร็จ ไม่รอให้ซูซีมู่ตอบ ก็วางสายไปทันที
ซูซีมู่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะในเรื่องที่ลู่ยู่ไอ้บ้านี้อยากจะทำ ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้อยู่แล้ว
เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงาน แล้วเอาเอกสารขึ้นมาอ่านต่อ
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เป็นเวลาที่ลู่ยู่กับเหซิงโม่มาถึงอย่างเร่งรีบ ซูซีมู่ยังคงหมกมุ่นอยู่กับเอกสาร
“ไอ้ห่า ซูซีมู่แกจะแต่งงานจริงๆไหมเนี่ย ตอนนี้ยังมาทำงานอีกเหรออ่ะ”ลู่ยู่ถามด้วยความแปลกใจ
” เหมือนแก วันๆว่างจนไม่รู้จะทำอะไร” ซูซีมู่เงยหน้ามามองลู่ยู่แล้วแป๊บหนึ่ง ก็เปิดดูเอกสารในมือต่อ
เมื่อลู่ยู่ได้ฟังคพพูดของซูซีมู่ ก็ไม่พอใจมาก “ซูซีมู่ ฉันเหรอว่างจนไม่รู้จะทำไง ฉันยุ่งจะตายน่ะรู้ไหม ”
“ยังดูไม่ออกจริงๆนะเนี่ย”ซูซีมู่ตอบอย่างเบาๆ
“ฉัน……”ลู่ยู่กำลังจะพูดอะไร แต่โดนเหซิงโม้ห้ามไว้
ลู่ยู่นิ่งไปสักพัก ถึงจะได้สติกลับมา “ซูซีมู่ แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พวกเราจะถามเรื่องแต่งงานของแก”
ซูซีมู่ตรวจเซ็นต์เอกสารเสร็จ ก็เอ้าเอกสารอีกอันมาดูต่อเลย แล้วพูด” มีอะไรน่าพูดหนิ”
“มีอะไรน่าพูดเหรอ แกพูดมาก่อนว่าใช่โล่หยิวชิวคนที่มาขวางแกที่หยู้ผินเซียงคราวก่อนไหม”
ลู่ยู่ถามอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อฟังลู่ยู่พูดถึงโล่หยิวชิว ก็หยุดเอกสารที่เปิดดูไว้ชั่วคราว แล้วตอบอย่างแผ่วเบา “ไม่ใช่”
ลู่ยู่ถามอย่างแปลกใจ “ไม่ใช่โล่หยิวชิว แล้วคือใครกัน”
ซูซีมู่ไม่สนใจลู่ยู่ไอ้บื้อนี้ แต่กลับเป็นเหซิงโม่ที่ยกมือขึ้นมาตีกบาลของลู่ยู่และพูด ” โล่หยิวชิวเป็นแต่ลูกสาวบุญธรรมของโล่ชิงไป๋ ส่วนลูกสาวแท้ๆของโล่ชิงไป๋เป็นอีกคน
” ซูซีมู่ ลูกสาวแท้ๆของโล่ชิงไป๋ชื่ออะไรอ่ะ ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อน “ลู่ยู่ขมวดคิ้วถาม
ซูซีมู่รู้อยู่แล้วลูกสาวแท้ๆของโล่หยิวชิงคือใคร เขาไม่คิดจะบอกลู่ยู่ตอนนี้ เพราะแบบนี้เขาเลยเงยหน้ามองลู่ยู่แล้วแป๊บหนึ่ง แล้วไม่พูดอะไร
เหซิงโม่มองบนตอบ “ไม่เคยเผยหน้าให้คนภายนอกได้รู้จัก แกก็เลยไม่เคยได้ยินมาก่อนไง”
“เป็นแบบนี้เอง”ลู่ยู่พยักหน้าเข้าใจ แล้วพูด ” ซูซีมู่ แกว่าแกก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว ใช่ไม่ใช่สองวันนี้ควรเวลา พามาให้พวกเราเพื่อนพี่น้องทำความรู้จักกันหน่อย ”
ซูซีมู่พูดออกมาสามคำอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็น”
“ซูซีมู่แกทำไมใจแคบอย่างนี้วะ “ลู่ยู่โกรธจนดิ้นขึ้นมาจากโซฟา เหซิงโม่รีบลุกขึ้นมาดึงเขาไว้ “แกจะรีบร้อนไปทำไม ยังไงหลังจากสามวันก็ถึงงานแต่ง แกได้เจอคนเขาอยู่แล้ว”
ลู่ยู่ได้ฟังที่เหซิงโม่พูดแล้ว ก็ไม่พูดจะพบเจ้าสาวก่อนงานแต่งอีก
ถึงแม้จะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก
เหซิงโม่เหมือนคิดอะไรออกจึงวิ่งไปหาซูซีมู่แล้วพูด “ซูซีมู่ ไหนๆแกก็รับปากจะแต่งงานกับผู้หญิงเขาแล้ว ทำไมไม่ไปแก้ตัวทั้งข่าวลือแกหน่อยว่ะ อะไรที่บอกว่าท่านประธานบริษัทซูซื่ออายุห้าสิบกว่าแล้ว ยังเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน ครั้งก่อนแกไม่สนจะแต่งงาน จะไม่แก้ตัวก็ไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้แกตัดสินใจที่จะแต่งงานกับคนเขานี้ จะให้ผู้หญิงทนรับข่าวลือแบบนี้มันไม่ค่อยโอเคนะเว้ย ”
ซูซีมู่หยุดพลิกเอกสารในมือไว้ เพราะที่จริงปัญหานี้เขาก็เคยคิดมาก่อน
แต่เขารู้ดี ถ้าเขาออกไปแก้เขา ก็จะทำให้โล่หยิวชิวคิดแผนทำลายงานแต่งของเขากับโล่เฟยเอ๋อได้
เพราะแบบนี้ เขาจึงอดทนไม่ออกไปแก้ข่าว
ยังดีที่เฟยเอ๋อโดนโล่ชิงไป๋ขังไว้ เลยไม่ต้องมาได้ยินข่าวลือจากภายนอกนี้