แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 153 ไปคฤหาสน์บ้านซูด้วยกัน
ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นของทั้งสองมีมากขึ้น แต่เพราะต่างฝ่ายต่างเคลือบแคลงความคิดของกันและกัน ตั้งแต่ต้นจนจบจึงไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน เพียงแต่มีท่าทีที่ไม่หนาวแต่ก็ไม่ร้อน
ซูซีมู่กลับบ้านมาทุกวัน แต่ทั้งสองมีเวลาแลกเปลี่ยนประจำวันอย่างจำกัด
อยู่ใต้ชายคาเดียวกันแท้ ๆ อยู่ในระยะใกล้มากแต่กลับเหมือนเป็นเพื่อนร่วมห้อง นอกจากเจอกันบนโต๊ะอาหารแล้ว ต่างฝ่ายต่างเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่เวลาซูซีมู่อยู่บ้านก็มักจะอยู่ที่ห้องหนังสือ ส่วนโล่เฟยเอ๋อก็ออกแบบรูปอยู่ในห้อง
สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ดีขึ้นจริง ๆ แล้วเป็นสายโทรศัพท์จากคุณท่านซู
สายนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ความสัมพันธ์ของโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ดีขึ้น แต่ยังทำให้โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่มีบั้นปลายชีวิตที่ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดที่สุด พวกเขาทั้งสองนอนร่วมเตียงเดียวกันแล้ว
แค่กแค่ก…อย่าคิดเยอะ แค่นอนร่วมเตียงเดียวกัน ไม่ได้ทำเรื่องอื่น…
วันนั้นเป็นวันเสาร์ โล่เฟยเอ๋อไม่ต้องทำงาน จึงออกแบบวาดรูปอยู่ในห้อง
หลังจากนั้นคนรับใช้ก็มาเคาะประตู บอกว่าคุณท่านโทรมา ให้เธอรับสาย
แม้ว่าความประทับใจแรกที่โล่เฟยเอ๋อมีต่อคุณท่านจะไม่ดีมากนัก แต่พอเข้ามาในป้อมปราการของวิลล่านี้ ท่าทางอบอุ่นที่คุณท่านมีต่อเธอ ทำให้ไม่มีความคิดที่ปฏิเสธคุณท่านไม่ลง แล้วลงไปรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล คุณปู่”
ในโทรศัพท์มีเสียงที่มีพลังเต็มร้อยของคุณท่านตอบกลับมา “เฟยเอ๋อหรอ กลับมาจากฮันนีมูนแล้ว?”
ฮันนีมูน? โล่เฟยเอ๋อมึนงงไปสักพัก
รอสักพักถึงมีการตอบสนองกลับ ซูซีมู่อาจจะบอกกับคุณท่านว่าพวกเขาไปฮันนีมูนกันแล้ว เพิ่งกลับมา
แล้วตอบว่า: “ใช่ค่ะ พวกเราเพิ่งกลับมา”
“เพิ่งกลับมาก็ดีแล้ว” คุณท่านพูดแล้วก็หัวเราะฮ่าฮ่า
โล่เฟยเอ๋อ กลับไม่เข้าใจว่าทำไมคุณท่านถึงพูดว่า ‘เพิ่งกลับมาก็ดี’ แต่เธอก็ยังตอบกับคุณท่านยังว่านอนสอนง่ายว่า ‘ค่ะ’
“ ในเมื่อกลับมาแล้วก็ให้ซีมู่พาเธอมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์บ้านซูเถอะ”
ให้เธอกับซูซีมู่ไปทานอาหารเย็น? โล่เฟยเอ๋อตกใจสักพัก หลังจากนั้นเอ่ย: “คุณปู่คะ คือว่า…เขาอาจจะไม่ว่าง…”
โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ คุณท่านก็พูดตัดบทว่า “ไม่ว่าง? เขายุ่งอะไร?”
“เขาอยู่ที่บริษัท” เดิมทีโล่เฟยเอ๋อ อยากจะใช้คำโกหกนี้เลี่ยงมื้ออาหารเย็นนั้นของคุณท่าน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคุณท่านจะพูดต่อว่า: “ ไปบริษัทไหน? ให้เค้าพาเธอมาที่คฤหาสน์บ้านซู”
โล่เฟยเอ๋อ “เอ่อ…”
“เฟยเอ๋อ เธออย่าทำตามอารมณ์เขาสิ อะไรก็ต้องฟังเขาซะทุกอย่าง เธอต้องทำให้เขาฟังเธอ…” คุณท่านพูดน้ำไหลไฟดับสอนโล่เฟยเอ๋อว่าจะควบคุมซูซีมู่อย่างไร
โล่เฟยเอ๋อได้ฟังก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็ไม่กล้าขัดคำพูดของคุณท่าน
ไม่ง่ายกว่าที่คุณท่านจะวางสาย โล่เฟยเอ๋อรู้สึกลำบากใจ
จึงโทรศัพท์หาซูซีมู่ ให้เขาพาเธอไปรับประทานอาหารเย็นกับคุณท่านที่นั่น แต่ดูจากสถานการณ์ระหว่างพวกเขาในตอนนี้แล้ว เรื่องนี้ดูจะจัดการไม่ง่ายนัก!
โล่เฟยเอ๋อต่อสู้อยู่สักพัก ในที่สุดก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ของซูซีมู่แล้วโทรออก
บังเอิญว่าโทรศัพท์อยู่ในมือของซูซีมู่พอดี พอโทรศัพท์ดังแค่สองเสียง ซูซีมู่ก็รับสายแล้ว
“ว่าไง?”
“คือว่า…”โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไรดี
ทางฝั่งของซูซีมู่ “หืม?”
“คุณปู่…”เดิมทีโล่เฟยเอ๋อจะพูดว่า ‘คุณปู่’ แต่ก็นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูซีมู่ขึ้นมาได้จึงรีบแก้คำพูด “คุณท่าน… เขาเพิ่งจะโทรศัพท์มา เขาบอกว่าฉันกับคุณกลับมาจากฮันนีมูนแล้ว ให้ฉันกับคุณไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน”
ไม่มีคำพูดใด ๆ จากโทรศัพท์สายนั้นของซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อรอสักพัก พอเห็นว่าซูซีมู่ไม่ได้ตอบกลับอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ จึงพูดต่อว่า: “คือว่า… ฉันปฏิเสธไม่ลง ถ้าหากคุณ…”
โล่เฟยเอ๋อไม่ทันพูดจบ ซูซีมู่ก็ขัดจังหวะเธอ
“ตอนห้าโมงเย็นฉันจะไปรับเธอ”
โล่เฟยเอ๋อตอบ ‘อา’ก่อนหนึ่งเสียง หลังจากนั้นก็รีบพูด ‘ได้’
ซูซีมู่ตอบ ’อืม’ ทีหลัง แล้วก็วางสายไป
โล่เฟยเอ๋อวางโทรศัพท์ แล้วกลับขึ้นไปวาดออกแบบรูปที่ชั้นบนต่อ
เพราะซูซีมู่บอกว่าจะมารับเธอตอนห้าโมงเย็น ดังนั้นสี่โมงสี่สิบนาที โล่เฟยเอ๋อจะต้องจัดการออกแบบรูปให้เสร็จหลังจากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้า
แน่นอนว่าเสื้อผ้าต้องไม่ใช่ที่เธอใส่เป็นประจำพวกนั้น แต่ต้องเป็นชุดที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีในห้องแต่งตัวพวกนั้นต่างหาก
นับตั้งแต่วันแรกที่โล่เฟยเอ๋อเข้ามาในวิลล่า ก็พบว่าในห้องแต่งตัวเต็มไปด้วยเสื้อผ้าฤดูนี้และเคยมีประสบการณ์ไปซื้อเสื้อผ้ากับซูซีมู่ครั้งหนึ่ง เธอจึงรู้ว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นแพงมาก ดังนั้นจึงไม่เคยใส่เลยสักครั้ง
แต่วันนี้ไม่เหมือนกันต้องไปรับประทานอาหารที่คฤหาสน์บ้านซูเธอจะต้องช่วงซูซีมู่แสดงละครต่อหน้าคุณท่านอย่างเต็มที่
ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงเลือกชุดในนั้นขึ้นมาเปลี่ยนหนึ่งชุด
ห้าโมงพอดี ด้านนอกมีเสียงดับเครื่องยนต์ แล้วหลังจากนั้นไม่กี่นาทีซูซีมู่ก็เดินเข้ามา
พอเห็นซูซีมู่เข้ามา โล่เฟยเอ๋อก็ลุกขึ้นมาจากโซฟา “คุณกลับมาแล้ว!”
ซูซีมู่พยักหน้ารับหนึ่งเสียง สายตาหยุดลงสักพักในตอนที่เห็นชุดที่โล่เฟยเอ๋อใส่
เขามองเพียงแวบเดียวก็จำได้ว่าเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของโล่เฟยเอ๋อเป็นเสื้อผ้าที่อยู่ในห้องแต่งตัวพวกนั้น เพราะเสื้อผ้าพวกนั้นเขาเป็นคนเลือกด้วยตนเอง เพียงแต่ว่าแต่งงานกันมานานขนาดนี้ เขาไม่เคยเห็นโล่เฟยเอ๋อสวมมันเลยสักครั้ง
วันนี้จะไปกินข้าวที่บ้านของคุณปู่ ดังนั้นเธอก็เลยเปลี่ยนมัน…ซูซีมู่หลุบตากระพริบโดยมีอารมณ์ที่ซับซ้อนพาดผ่านไป จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ไปกันเถอะ”
หลังจากพูดแบบนี้ ซูซีมู่ก็ไม่ได้หยุดแล้วหันไป
โล่เฟยเอ๋อเม้มมุมปากเล็กน้อย แล้วตามไป
วิลล่าตั้งอยู่บริเวณเขตชานเมืองระยะห่างจากคฤหาสน์บ้านซูค่อนข้างไกล พวกเขาใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ
ในตอนที่มาถึงคฤหาสน์บ้านซูฟ้าก็มืดแล้ว
ซูซีมู่นำรถจอดที่ประตูคฤหาสน์บ้านซูผู้คุ้มกันที่อยู่หน้าประตูรีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้
“คุณชายกลับมาแล้ว?”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบกลับเหมือนเดิมแต่มองปราดผู้คุ้มกันอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเดินอ้อมหน้ารถแล้วก็เปิดประตูรถ
ผู้คุ้มกันไม่มีใครเข้าใจเลยสักนิดพวกเขาวิ่งเหยาะ ๆ มาประจบเอาใจคุณชายแต่ทำไมคุณชายถึงมีท่าทีแบบนี้?
พอประตูรถที่สองเปิดออกแล้วโล่เฟยเอ๋อเดินลงมา เราผู้คุ้มกันถึงเพิ่งจะรู้ตัว เขารีบเตรียมประจบประแจง
คาดไม่ถึงว่าท่านนี้จะสามารถทำให้คุณน้อยมาเปิดประตูด้วยตนเองนี่คงไม่ใช่คุณนายน้อยที่ลือกันหรอกนะ?
แย่แล้ว! กลัวแต่นายน้อยจะถลกหนังเขานี่แหละ! พอนึกถึง สายตาที่มองปราดอย่างเย็นชาของนายน้อยนั้นแล้ว ผู้คุ้มกันก็เริ่มหนาวสั่น
ซูซีมู่ไม่รู้ถึงความคิดของผู้คุมกันสักนิด หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถเค้าก็รีบยื่นมือมากุมมือของเฟยเอ๋อ
การกระทำของเขาเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ร่างของโล่เฟยเอ๋อชะงักไป ร่างกายตอบสนองตามสัญชาติตามสัญชาตญาณโดยการชักมืออก แต่ซูซีมู่ยากที่จะมีโอกาสได้กุมมือของลู่เฟยเอ๋อ เขาจะปล่อยให้เธอดึงมือออกไปได้อย่างไร?
โล่เฟยเอ๋อตะลึงไปสักพัก แล้วก็รู้สึกตัวว่าซูซีมู่ต้องการดึงเธอมาแสดงละครให้คุณปู่ดู จึงเลิกขัดขืน
พอรู้สึกว่าโล่เฟยเอ๋อไม่คิดที่จะขัดขืน ซูซีมู่ก็หลุบสายตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ลง
เขารู้สึกทันทีว่าการมา ‘แสดงละคร’ ให้คุณปู่ที่นี่ก็ไม่เลวจริง ๆ เขาสามารถใกล้ชิดกับโล่เฟยเอ๋อ