แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่162 แอบฟังบทสนทนา
หลังจากทานข้าวเสร็จ โล่เฟยเอ๋อกับเรือนหลิงเดินออกมาจากร้านด้วยกัน ก็ได้ยินเสียงนกหวีด
เธอหันไปมองตามเสียงนั้นและเห็นรถเบนซ์ที่คุ้นเคยจอดอยู่ข้างทางไม่ไกล
รถของซูซีมู่ทำไมถึงอยู่ที่นี่?
โล่เฟยเอ๋อเพิ่งจะเกิดความคิดนี้เกิดขึ้นในหัวเธอ ประตูของรถเบนซ์ก็เปิดออกและซูซีมู่ก้าวลงมาจากรถ
ที่แท้ไม่ใช่เพียงแค่รถของเขาอยู่ที่นี่ ตัวเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย…
เสียงของเรือนหลิงดังขึ้นข้างหูเธอ “เฟยเอ๋อ ๆ?”
โล่เฟยเอ๋อถอนสายตาแล้วถามเธออย่างเก้อเขินเล็กน้อย “ว่าไง…เธอว่าไงนะ?”
“ฉันไม่มีอะไร เพียงแค่จะบอกเธอว่า ฉันจะไปขึ้นรถเมล์นะ” เรือนหลิงชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกล
โล่เฟยเอ๋อมองไปทางป้ายรถเมล์: “ถ้าอย่างนั้นให้ฉัน…ไปส่งเธอไหม?”
“ส่งฉัน?” เรือนหลิงมองโล่เฟยเอ๋อด้วยสายตาแปลกประหลาดแล้วจึงพูด “พวกเราไม่ได้ไปทางเดียวกัน เธอไม่ต้องไปส่งหรอก”
ในเมื่อเรือนหลิงพูดแบบนี้แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ตื๊อที่จะไปส่งเธอ
อีกทั้งซูซีมู่ก็อยู่ตรงนี้ ไม่รู้ว่าผ่านมาหรือว่ามีธุระแถวนี้…
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วพูด: “อย่างนั้นเจอกันพรุ่งนี้”
“เจอกันพรุ่งนี้” เรือนหลิงโบกมือให้โล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็เดินไปทางป้ายรถโดยสาร
เธอมองตามเรือนหลิงที่เดินจากไป โล่เฟยเอ๋อจึงได้หันหลังเดินไปทางซูซีมู่
“ทำไมคุณถึงมาอยู่นี่ได้คะ? ทำงานหรอ?”
ซูซีมู่ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “มีธุระแถวนี้พอดี”
“อือ” ซูซีมู่นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถาม “คุณยังมีธุระต่อหรือกลับเลย?”
“กลับเลยค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพูดแล้วมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นรถที่ คนขับรถหลี่ ขับมา เธอขมวดคิ้วและเตรียมจะโทรไปหาคนขับรถหลี่ ซูซีมู่ก็พูดขึ้น
“ไปด้วยกันเถอะ”
ไปด้วยกันทำไม? โล่เฟยเอ๋อสงสัยและหันหน้าไปมองซูซีมู่
ดูเหมือนซูซีมู่รู้ว่าเธอกำลังสงสัยจึงตอบ “กลับบ้านกัน”
กลับบ้านด้วยกัน? “อ่อ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วพูดขึ้นอีก “ฉันบอกคนขับรถหลี่ ก่อน…”
ยังไม่ทันที่โล่เฟยเอ๋อจะพูดจบซูซีมู่ก็พูดขัดขึ้น “ไม่ต้องหรอก”
ไม่ต้องบอกคนขับรถหลี่หรอ? ทำไมล่ะ?
โล่เฟยเอ๋ออยากถามซูซีมู่ แต่ซูซีมู่ก็หันหลังแล้วขึ้นรถไป
เขาจะบอกว่าเขาให้คนขับรถหลี่กลับไปแล้วอย่างนั้นหรอ?
ไม่ผิด อันที่จริงซูซีมู่ไม่ได้มีธุระแถวนี้พอดีหรอก
หลังเลิกงานเขาตั้งใจขับรถมาที่นี่เพื่อมารับโล่เฟยเอ๋อต่างหาก เมื่อเขารู้จากคนขับรถหลี่ว่าโล่เฟยเอ๋อกับเรือนหลิงกำลังทานอาหารอยู่ที่นี่เขาก็มาพบโล่เฟยเอ๋อโดยบังเอิญ
ในเมื่อซูซีมู่บอกว่าไม่ต้องโทรหาคนขับรถหลี่ แล้ว โล่เฟยเอ๋อจึงไม่ได้โทรไปหาคนขับรถหลี่ และขึ้นรถไปกับซูซีมู่
ตอนที่อยู่ที่ร้านอาหารนั้น เธอปิดโทรศัพท์ไปเพราะโล่ชิงไป๋
เมื่อกลับถึงบ้านเธอจึงเปิดเครื่องอีกครั้ง ในโทรศัพท์โชว์สายที่ไม่ได้รับของโล่ชิงไป๋หลายสิบสาย
เธอจ้องมองเบอร์ของโล่ชิงไป๋อยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอตัดสินใจโทรกลับไป
เสียงของโล่ชิงไป๋ดังออกมาจากโทรศัพท์ “เฟยเอ๋อ?”
“พ่อโทรหาหนูมีอะไรคะ?” โล่เฟยเอ๋อถามเรียบ ๆ
“พ่อมีเรื่องจะขอให้ซูซีมู่ช่วย ลูกช่วยพ่อ…” โล่ชิงไป๋ยังพูดไม่จบ โล่เฟยเอ๋อก็พูดขัดขึ้น
“พ่อจะให้เขาช่วยอะไรอีก? พ่อได้รับประโยชน์ไปจากเขายังไม่พออีกหรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อโมโหมาก เธอโมโหมากจริง ๆ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่ากว่าพ่อของเธอจะติดต่อเธอก็หลังจากแต่งงานหนึ่งเดือนไปแล้ว และที่โทรมาก็ไม่ได้ต้องการจะคุยกับโทร แต่โทรหาเธอเพื่อให้เธอขอให้ซูซีมู่ช่วย?
มีร่องรอยของความขอร้องในน้ำเสียงของโล่ชิงไป๋ “โล่เฟยเอ๋อ พ่อเป็นพ่อแก ให้แกช่วยแค่นี้ไม่ได้รึไง?”
ได้ยินคำว่าพ่อคำนี้ โล่เฟยเอ๋อหลับตาเบา ๆ
เธอสูดหายใจลึก หลังจากมองไปที่โทรศัพท์แล้วพูดขึ้น “พ่ออย่าโทรหาหนูอีกเลย” แล้วเธอก็วางสายทันที
เมื่อโล่เฟยเอ๋อคุยโทรศัพท์กับโล่ชิงไป๋เสร็จแล้ว โล่ชิงไป๋ก็ไม่ได้โทรหาเธออีก
โล่เฟยเอ๋อที่เข้าใจว่าโล่ชิงไป๋คงยอมแพ้ที่จะโทรหาเธอแล้ว เธอรู้สึกขมขื่นเล็กน้อยในใจ
แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะบังเอิญได้ยินโทรศัพท์ของซูซีมู่จึงได้รู้ว่าโล่ชิงไป๋ไม่ได้โทรหาเธอแต่เขาโทรหาซูซีมู่แทน
ในค่ำวันต่อมา โจวเฉินมาหาซูซีมู่ ทั้งสองคนขึ้นไปคุยธุระที่ห้องหนังสือชั้นบน
เดิมทีสาวใช้เดินถือถ้วยน้ำชาขึ้นไปเสิร์ฟข้างบน โล่เฟยเอ๋อที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกอาสาถือไปให้แทนสาวใช้
ประตูห้องหนังสือไม่ได้ปิด เธอยืนอยู่หน้าห้องเหมือนทุกครั้งและกำลังจะเคาะประตู
เธอที่กำลังยกมือขึ้นมายังไม่โดนประตู ก็ได้เสียงเย็นยะเยือกของซูซีมู่ดังลอยมาจากด้านใน
“เขาหาฉันมีเรื่องอะไร? ช่วงนี้บริษัทโล่ซื่อมีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรอ?”
บริษัทโล่ซื่อ? แล้วเขาที่มาหาซูซีมู่คือใครกัน?
ทันทีที่ในหัวโล่เฟยเอ๋อเกิดความคิดเหล่านี้ เสียงของโจวเฉินก็ดังขึ้น
“ภายในบริษัทโล่ซื่อไม่มีปัญหาอะไรครับ เขาน่าจะตามหาท่านเรื่องของตลาดต่างประเทศครับ”
เสียงของซูซีมู่มีความคาดไม่ถึง “บริษัทโล่ซื่อบุกตลาดต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“คุณโล่กำลังเจรจาธุรกิจกับบริษัทแบบบูซีเจแปน กรุ้ป ครับ เขาคงอยากจะอาศัยให้บริษัทโล่ซื่อพัฒนาตลาดต่างประเทศ…”
คุณโล่? พ่อของเธอหรอ?
โล่เฟยเอ๋อตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง
เดิมทีเธอคิดว่าเขายอมวางมือแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะติดต่อซูซีมู่โดยตรง
เขาได้รับผลประโชน์ไปมากโขแล้วจากการแต่งงานระหว่างซูซีมู่กับเธอแต่ยังไม่พอ ตอนนี้ยังต้องการให้เขาไปพัฒนาตลาดต่างประเทศอีก
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกได้ถึงความโกรธที่แผดเผาในใจของเธอและในวินาทีถัดมาเธอก็รีบเข้าไปในห้องหนังสือ
“ห้ามช่วยเขาเด็ดขาด”
ซูซีมู่เห็นโล่เฟยเอ๋อพุ่งตัวเข้ามาเขานึกแปลกใจ “เฟยเอ๋อ คุณเข้ามาได้ยังไง?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบซูซีมู่ เธอพูดเพียง “ห้ามช่วยเขานะ”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่มองไปที่โจวเฉินแล้วพยักหน้า เขาจึงออกจากห้องหนังสือไป
หลังจากโจวเฉินไปแล้ว ซูซีมู่จึงพูดขึ้น: “เฟยเอ๋อ เขาเป็นพ่อคุณ…”
“เขาเป็นพ่อฉัน?” โล่เฟยเอ๋อจ้องมองซูซีมู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงยิ้ม “เขาก็เป็นพ่อเธอเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”
เขาก็เป็นพ่อของเธออะไรกัน? ซูซีมู่ไม่เข้าใจว่าโล่เฟยเอ๋อหมายความว่ายังไง แต่ตอบไปด้วยความเคยชิน “หือ?”
เห็นชัด ๆ ว่าซูซีมู่ใช้เสียงสอง แต่โล่เฟยเอ๋อกลับได้ยินเป็นเสียงที่หนึ่ง(เหมือนตอบรับมากกว่าตั้งคำถาม)
ที่แท้เขาก็ทำเพื่อน้องสาวเธอสินะ?
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกขมขื่นในใจ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเก็บความขมขื่นนั้นกดลงไปให้สุดใจ จากนั้นจึงเงยหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย: “ฉันเข้าใจแล้ว”
ซูซีมู่ที่ยังไม่ทันได้เข้าใจว่าความเข้าใจของโล่เฟยเอ๋อหมายความยังไง โล่เฟยเอ๋อก็พูดขึ้นอีก: “ขอโทษที่เข้ามาจังหวะบทสนทนาของพวกคุณ ฉันจะไปเรียกคุณโจวกลับมาให้ค่ะ”
เมื่อพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็ก้มหน้าและรีบเดินออกจากห้องหนังสือ
“เฟยเอ๋อ…” ซูซีมู่ส่งเสียงเรียกเพื่ออยากจะหยุดเธอไว้ แต่โล่เฟยเอ๋อกลับเดินออกไปจากห้องหนังสือแล้ว