บทที่165 โล่เฟยเอ๋อขวัญหนีจนฝันร้าย
ซูซีมู่รู้จากปากของ คนขับรถหลี่ ว่าโล่เฟยเอ๋อให้เขากลับมาก่อน ตนเองไปทานข้าวกับเห้อจิ้นเหยา เมื่อโทรหาเธอเพื่อจะถามว่าเธอจะกลับบ้านกี่โมง แล้วจะให้ไปรับรึเปล่า
สุดท้ายเขาโทรไปโทรศัพท์ดังอยู่สิบกว่าวินาทีจนมันตัดสายไป โทรอีกครั้ง โล่เฟยเอ๋อก็โทรไม่ติดแล้ว
เขาเข้าใจผิดว่าโล่เฟยเอ๋อคงจะโกรธเขาเพราะอะไรบางอย่าง จึงตั้งใจไม่รับสายเขา ดังนั้นหลังจากอาหารค่ำ จึงได้นั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับแขกตลอด
ดังนั้นเมื่อโล่เฟนเอ๋อกดกริ่งประตู เขาจึงเป็นคนเดินมาเปิดประตูด้วยตัวเอง
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อโล่เฟยเอ๋อก้าวเข้าประตูมาเธอจะล้มลงกองกับพื้น
ซูซีมู่รับและกอดเธอไว้อย่างรวดเร็ว “เฟยเอ๋อ คุณเป็นอะไรน่ะ?”
“ไม่ ไม่เป็นไร แค่ขาชา” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้าและใช้ตัวพิงอยู่ในอ้อมกอดของซูซีมู เธอกลับไม่รู้ว่าตัวเธอสั่นของเธอกำลังบอกว่าเป็นอย่างอื่น
สายตาของซูซีมู่เต็มไปด้วยความสงสัย มือที่กอดเอวของโล่เฟยเอ๋อยิ่งกอดไว้แน่นขึ้น
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองซูซีมู่อยู่นาน จนขาของเธอไม่อ่อนแรงแบบนั้นแล้ว เธอจึงค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมกอดเขา “ขอโทษค่ะ”
เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ แววตาของซูซีมู่ก็มืดลง “ไม่เป็นไร”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “อย่างนั้นฉันกลับห้องก่อนนะคะ”
ซูซีมู่นิ่งไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น “ได้”
โล่เฟยเอ๋อรับคำ “อือ” เบา ๆ จากนั้นขาที่อ่อนแรงของเธอก็ค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดไป
เธอไม่ได้สังเกตว่าสายตาซูซีมู่จ้องมองเธอจากข้างหลัง เขาเม้มปากและไม่พูดอะไร
หลังจากโล่เฟยเอ๋อเข้าห้องแล้ว เธอไปอาบน้ำก่อน จากนั้นก็มานั่งที่ข้างเตียง เปิดกระเป๋าและหยิบโทรศัพท์มือถือที่ถูกรถทับจนเสียออกมา
เธอจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เกือบจะแตกละเอียด โล่เฟยเอ๋อหวนคิดกลับไปถึงเหตุระทึกขวัญนั้นด้วยแววตาตื่นตระหนกอีกครั้ง
เธอนั่งอยู่ข้างเตียงครู่หนึ่งจนความตระหนกนั้นจางหายไปเล็กน้อย เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะจากนั้นจึงขึ้นเตียงนอน
และเพราะความตื่นกลัว โล่เฟยเอ๋อนอนกลับตัวไปมาอยู่นานจึงหลับไป หลับไปได้ไม่นานก็เริ่มฝันถึงฉากที่เธอเกือบจะถูกรถชนนั้น…
หลังจากโล่เฟยเอ๋อขึ้นห้องได้ไม่นาน ซูซีมู่ก็ขึ้นไปข้างบน เขาไม่ได้ไปนอนแต่ไปที่ห้องสมุดเพื่อดูเอกสาร
ใกล้สิ้นปี งานของเขาก็ยิ่งเยอะขึ้นมาก
ประมาณเที่ยงคืน ซูซีมู่วางแฟ้มในมือและลูบคิ้วที่เจ็บของเขา ลุกขึ้นและกลับห้อง
เมื่อเขาเปิดประตูห้องหนังสือ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากห้องของโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “กรี๊ด…”
ซูซีมู่เปิดประตูห้องของโล่เฟยเอ๋อไปโดยที่ไม่แม้แต่จะคิดและพุ่งตัวเข้าไปข้างใน
ดูเหมือนโล่เฟยเอ๋อจะฝันร้าย มือเธอกำผ้าห่มแน่น ตัวสั่นงันงก น้ำตาไหลเป็นทาง ปากเอาแต่พูดพึมพำไม่หยุด
ซูซีมู่แทบจะกระโดดขึ้นเตียงเขย่ามือและวางเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา “เฟยเอ๋อ ไม่ต้องกลัว ก็แค่ฝัน ไม่ต้องกลัวนะ”
โล่เฟยเอ๋อยังคงหลับอยู่ เธอเหมือนกับกระต่ายน้อยที่ตื่นกลัวซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของซูซีมู่
เธอเป็นอะไรกันแน่? แค่ฝันร้ายอย่างนั้นหรอ? แววตาของซูซีมู่มีความสงสัย เขากวาดสายตาไป ทันใดนั้นก็เห็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตกของโล่เฟยเอ๋อวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง
นี่มันโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อไม่ใช่หรอ? ทำไมมันแตกได้ถึงขนาดนี้?
เขาจ้องมองดูโทรศัพท์มือถือ ซูซีมู่หันกลับมาสนใจโล่เฟยเอ๋อในอ้อมกอด
มือใหญ่ของเขาตหลังโล่เฟยเอ๋อเบา ๆ เขาพูดปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ข้างหู “อย่าคิดมาก ผมอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัว…”
ดูเหมือนว่าคำปลอบโยนของซูซีมู่จะได้ผล โล่เฟยเอ๋อนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดเขา
ซูซีมู่เป็นกังวลว่าเธอจะฝันร้ายจึงกอดเธอเอาไว้ตลอด รอจนมั่นใจว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ฝันร้ายอีก เขาจึงวางโล่เฟยเอ๋อให้นอนลงบนเตียง
เขาห่มผ้าให้เธอ สายตาของเขามองไปที่โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะอีกครั้ง
เขามองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากบนโต๊ะ
หน้าจอโทรศัพท์ได้รับความเสียหายมาก ขอบโทรศัพท์ทั้งสี่ด้านแตกปริ ตกอย่างนั้นหรอ? ไม่ใช่ ตกจะต้องไม่เป็นอย่างนี้ มันกลับเหมือนกับโดนทับแตก
ก่อนเขาทานข้าว ยังโทรหาเธอ เวลานั้นโทรศัพท์ยังไม่พัง
ถ้าอย่างนั้นโทรศัพท์จะต้องเสียช่วงระหว่างที่เธอกลับบ้าน…
ดวงตาซูซีมู่จ้องมองโล่เฟยเอ๋อที่นอนอยู่อย่างไม่ค่อยจะสงบนักอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้ลุกขึ้นและออกจากห้องของโล่เฟยเอ๋อไป
หลังจากซูซีมู่ออกมาจากห้องของโล่เฟยเอ๋อแล้ว เขาไม่ได้กลับห้องเพื่อพักผ่อนแต่ลงไปข้างล่าง
คนขับรถหลี่ที่กำลังหลับฝันหวานต้องตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของโจวเฉิน คนขับรถหลี่ ก็ตื่นขึ้นทันที
“สวัสดีครับผู้ช่วยโจว มีคำสั่งอะไรครับ?”
“ได้ครับ จะไปเดี๋ยวนี้” เมื่อได้ยินผู้ช่วยโจวบอกว่าประธานซูต้องการพบ คนขับรถหลี่ ไม่กล้าที่จะเพิกเฉย รีบลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบขับรถออกมาจากบ้านไปที่บ้านประธานซูทันที
คนขับรถหลี่ คิดว่าประธานซูต้องการใช้รถ แต่เมื่อเขาขับรถไปที่บ้านพักของซูซีมู่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขาและเห็นรถของโจวเฉินจอดอยู่ที่สนาม ในใจของคนขับรถหลี่ก็เริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ
ผู้ช่วยโจวก็อยู่ ประธานซูคงจะไม่ได้เรียกใช้รถแน่…แล้วอย่างนั้นเรียกเขามากลางดึก มันเรื่องอะไรกัน
ด้วยความสงสัย คนขับรถหลี่ รีบเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์
ในห้องรับแขกซึ่งเปิดไฟสว่างไสว ซูซีมู่นั่งอยู่บนโซฟา ตามองต่ำมองไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน
และโจวเฉินที่ยืนอยู่ด้านหลัง สีหน้าของเขาก็เรียบเฉย
“เมื่อคืนเฟยเอ๋อแค่ไปกินข้าวเย็นกับใครบางคนที่หยู้ผินเซียง?” ชายหนุ่มนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่สายตาที่ทะลุปรุโปร่งของเขาจับจ้องไปที่คนขับรถหลี่ และเขารู้สึกเสียวซ่านที่หลังของเขาทันที
“ตอบประธานซู เป็นคุณนายที่ใส่เสื้อผ้าหรูหราคนหนึ่ง คุณนายคนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณนายด้วย” คนขับรถหลี่ตอบตามจริง
มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเฟยเอ๋อ? คุณนายแต่งตัวหรูหรา? ดวงตาของซูซีมู่หรี่ลงและคิดถึงคนคนหนึ่ง
ซูซีมู่ครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดกับคนขับรถหลี่ “ต่อไปไม่อนุญาตให้เธอกลับบ้านคนเดียวอีก”
เมื่อได้ยินคำสั่งที่ชัดเจนของซูซีมู่ คนขับรถหลี่อยากจะร้องไห้ ถ้าหากว่าคุณนายสั่งให้เขากลับก่อน เขาก็ไม่กล้าขัด
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของซูซีมู่ “ครับ ประธานซู”
“คุณกลับไปเถอะ” ซูซีมู่โบกมือให้เขาเบา ๆ
คนขับรถหลี่ ออกไปจากคฤหาสน์ ราวกับได้รับอภัยโทษ
หลังจาก คนขับรถหลี่ ออกไปแล้ว สายตาของซูซีมู่ก็หันไปมองโจวเฉิน
“นายให้คนไปเช็กดูหน่อย เมื่อคืนเฟยเอ๋อไปกินข้าวกับเห้อจิ้นเหยารึเปล่า แล้วก็ดูด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเฟยเอ๋อออกมาจากหยู้ผินเซียง?”
เพราะตอนที่โล่เฟยเอ๋อกลับมานั้น เธอหน้าซีดตัวอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว ซูซีมู่รู้สึกว่ามันแปลก บวกกับโล่เฟยเอ๋อฝันร้าย โทรศัพท์ที่ถูกทับเสียหาย ซูซีมู่รู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างกับโล่เฟยเอ๋อแน่
หากเขาไม่ตรวจดูให้แน่ชัด คงไม่สามารถวางใจได้