บทที่170 เหลือเพียงแค่หนึ่งห้องแล้ว
เรือนหลิงรู้จักโจวเฉิน เมื่อเห็นโจวเฉินมาหาโล่เฟยเอ๋อเดิมก็รู้สึกคาดไม่ถึง ตอนนี้ยังได้ยินโจวเฉินเรียกโล่เฟยเอ๋อว่า ‘คุณนาย’ ทำให้เรือนหลิงอึ้งไป
“เฟยเอ๋อ เธอ…”
“เรือนหลิง ฉัน…” โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันจะพูดจนจบ เรือนหลิงก็รีบพูดขึ้นก่อน “เธอไม่ต้องอธิบายกับฉัน ฉันรู้ คนอย่างฉัน ไม่คู่ควรให้เธอจริงใจด้วย”
พูดจบแล้ว เรือนหลิงไม่รอโล่เฟยเอ๋อตอบก็หันหลังแล้วเดินจากไป
“เรือนหลิง…เรือนหลิง…” โล่เฟยเอ๋อตะโกนเรียกเรือนหลิงอยู่หลายครั้ง เรือนหลิงก็ไม่หันมา
สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อทำได้เพียงดูเรือนหลิงเดินจากไปจนพ้นสายตา
โจวเฉินไม่คิดว่าการที่เขาเรียกโล่เฟยเอ๋อคำเดียว จะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ เขากระวนกระวายใจไม่น้อยจึงพูดขึ้น: “คุณนายครับ ผมช่วยคุณไปอธิบายให้เธอเข้าใจไหมครับ”
โล่เฟยเอ๋อหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นส่ายหัวเบา ๆ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“คือ…” โจวเฉินยังอยากพูดบางอย่าง โล่เฟยเอ๋อเปิดประตูรถด้านหลังและเข้าไปนั่งแล้ว
โจวเฉินลูบจมูก จากนั้นจึงอ้อมหน้ารถไปและขึ้นรถ
เมื่อนั่งเรียบร้อย เขามองดูโล่เฟยเอ๋อจากกระจกมองหลัง จากนั้นจึงออกรถ
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โจวเฉินขับรถมาจอดที่หน้าคลับดี้เหา
โจวเฉินเปิดประตูและพูดขึ้น: “คุณนายครับ กรุณารอสักครู่ ผมเข้าไปรับประธานซู”
เมื่อได้ยินโจวเฉินพูดเช่นนั้น โล่เฟยเอ๋อหันไปมองโดยสัญชาตญาณมองไปที่หน้าคลับดี้เหา
เมื่อเห็นซูซีมู่เดินออกมาจากคลับดี้เหาที่ล้อมรอบไปด้วยคนกลุ่มหนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้นมีลู่ยู่และเหซิงโม่ซึ่งโล่เฟยเอ๋อคุ้นเคย
ที่แท้เขาก็อยู่กับพวกลู่ยู่นี่เอง!
ทันใดนั้นโล่เฟยเอ๋อก็พบว่า วันนี้ซูซีมู่ดูไม่เหมือนปกติ
เขาดูแล้วเหมือนจะ…ป้อแป้
ซูซีมู่ที่นิ่ง ๆ และสง่างาม ทำไมดูป้อแป้?
เธอคงดูผิดไปรึเปล่า? โล่เฟยเอ๋อโค้งริมฝีปากของเธอและหันมาสบตาอีกครั้ง
เธอเห็นโจวเฉินกำลังพยุงซูซีมู่เดินมาทางนี้
ทำไมโจวเฉินต้องพยุงซูซีมู่ล่ะ?
โล่เฟยเอ๋อสงสัยจึงเปิดประตูรถ รอพวกเขาเดินมา
หลังจากเดินมาแล้ว โจวเฉินที่พยุงซูซีมู่ก็ยิ้มแหย ๆ ให้โล่เฟยเอ๋อแล้วพูดขึ้น: “คุณนายครับ ประธานซูโดนคุณชายลู่กับคุณชายเหซิงมอมเหล้าเมาแล้วครับ เกรงว่าคืนนี้คงไม่สามารถขึ้นเครื่องได้”
เมาแล้ว? โล่เฟยเอ๋อมองไปที่ซูซีมู่ หน้าของเขาแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
และไม่รู้ว่าเขาดื่มไปมากแค่ไหน เพียงแค่ยืนอยู่นอกรถก็ได้กลิ่นเหล้าแรงแล้ว
คงจะได้ยินที่โจวเฉินพูดว่าเขาเมาแล้ว ดังนั้นซูซีมู่จึงพูดเสียงดัง “ฉันไม่เมา…”
“ค่ะ คุณไม่เมา” โล่เฟยเอ๋อรีบตอบเขาแล้วหันไปพูดกับโจวเฉิน: “พยุงเขาขึ้นรถก่อน”
“อือ” โจวเฉินพยักหน้า
คงด้วยฤทธิ์ของเหล้าที่ดื่มมา หลังจากที่ซูซีมู่ขึ้นรถแล้วตัวเขาก็ตกลงไปที่หน้าต่างด้านขวา
โล่เฟยเอ๋อกลัวว่าเขาจะล้มลงจึงยื่นมือไปพยุงเขาไว้ คงเพราะรับรู้ได้
เขาจึเอียงตัวแล้วพิงตัวโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อตัวแข็งทื่อแต่ก็ไม่ได้ผลักเขาออกไป
ซูซีมู่ที่ดื่มจนเมา ตัวเขาไม่มีเรี่ยวแรง ตัวเขาค่อย ๆ ไถลลงด้านล่าง โล่เฟยเอ๋อกลัวว่าซูซีมู่จะไถลจนตกจากเบาะที่นั่งลงพื้น จึงรีบยื่นมือออกไปกอดเอวเขาไว้
“อือ…” ซูซีมู่ร้องออกมาเพราะไม่สบายตัว จากนั้นจึงพลิกตัวหน้าหันไปทางหน้าอกของโล่เฟยเอ๋อพอดี
ท่าทางที่น่าลำบากใจเช่นนี้ ทำให้โล่เฟยเอ๋อหน้าแดงฉ่า
โล่เฟยเอ๋อค่อย ๆ หันศีรษะออกจากหน้าอกเธออย่างระมัดระวัง หลังจากขยับไปไว้ที่แขน โล่เฟยเอ๋อจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่
ยังดีที่ซูซีมู่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาระหว่างที่เธอจับเขาหันไปมา ยังดีที่โจวเฉินขับรถอยู่ตลอด จึงไม่ได้สังเกตด้านหลังรถ ไม่อย่างนั้นโล่เฟยเอ๋อไม่รู้จะอธิบายเหตุน่าลำบากใจนี้อย่างไร
โล่เฟยเอ๋อกลับไม่รู้ว่า โจวเฉินได้แอบดูอยู่จากกระจกมองหลัง เห็นเหตุการณ์นั้นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ประธานซูดื่มจนเมาครั้งนี้ กลับเป็นโอกาสได้ใกล้ชิดกับคุณนายนะ! แววตาของโจวเฉินเป็นประกาย
เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจโล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เวลานี้เธอจึงได้รู้ว่ารถไม่ได้ขับกลับไปที่คฤหาสน์ เธอจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “จะไปไหนคะ?”
โจวเฉินตอบขณะหมุนพวงมาลัยอย่างชำนาญ “จะถึงโรงแรมบั้นเต๋าแล้วครับ”
“โรงแรมบั้นเต๋า?” ไม่กลับคฤหาสน์ หรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว
โจวเฉินหันกลับมามองที่โล่เฟยเอ๋อ “จากที่นี่กลับคฤหาสน์ อย่างน้อยใช้เวลาสองชั่วโมง ประธานซูเมาหนักมาก ให้รีบเข้าพักที่โรงแรมก่อนจะดีกว่าครับ”
โล่เฟยเอ๋อใคร่ครวญแล้วรู้สึกว่าโจวเฉินคิดมาอย่างรอบคอบจึงเห็นด้วย “ค่ะ ไปโรงแรม”
โจวเฉินยกมุมปากยิ้ม จากนั้นนำรถเข้าจอดที่ลานจอดรถโรงแรมบั้นเต๋า
“คุณนาย ผมไปจองห้องก่อน คุณอยู่เป็นเพื่อนประธานซูที่นี่ก่อนได้ไหมครับ?”
โล่เฟยเอ๋อไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่แล้ว เธอพยักหน้าเห็นด้วย “ค่ะ”
โจวเฉินลงจากรถแล้วเข้าไปที่ล็อบบี้โรงแรม
ผ่านไปประมาณห้านาที เขาจึงกลับมา
“คุณนายได้ห้องแล้วครับ พวกเราพยุงประธานซูเข้าไปเถอะครับ”
“ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นจึงช่วยกันกับโจวเฉินพยุงซูซีมู่ลงจากรถ
หลังจากโจวเฉินช่วยพยุงซูซีมู่เข้าไปจนถึงเตียงแล้ว จึงหันหลังแล้วเดินออกไป “คุณนายครับ ผมขอตัวก่อน”
“นี่…คุณจะไปเลยหรอ?” โล่เฟยเอ๋อรีบเรียกโจวเฉินไว้ก่อน
โจวเฉินพยักหน้า: “ผมขอตัวกลับก่อน รบกวนคุณนายดูแลประธานซูด้วย พรุ่งนี้ผมจะเอาเสื้อผ้าของคุณกับประธานซูมาให้แต่เช้าครับ”
“ฉันดูแลเขาได้” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็พูดขึ้นอีก: “คุณช่วยจองห้องให้ฉันอีกห้องได้ไหม คุณคงรู้ฉันกับเขา…”
คำพูดหลังจากนั้นโล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดออกมา เพียงแต่ทำหน้า ‘คุณเข้าใจ’ แล้วมองไปที่โจวเฉิน
ดวงตาของโจวเฉินเป็นประกาย จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมและจริงจัง: “ผมทราบครับ แต่ว่าทางโรงแรมเหลือห้องพักเพียงห้องเดียวแล้ว”
“เหลือเพียงห้องเดียวแล้ว?” โล่เฟยเอ๋อตกใจ
“เมื่อครู่ผมไปที่แผนกต้อนรับเพื่อจองห้อง ก็เหลือห้องพักเพียงห้องเดียวแล้วครับ” โจวเฉินนิ่งไป แล้วพูดเสริมเบา ๆ “เครื่องนอนก็หมดแล้วครับ”
ล้อเล่นรึไง เข้าเปิดโอกาสให้ประธานกับคุณนายโดยเฉพาะต่างหาก จะจองห้องเพิ่มอีกห้องได้ยังไงกัน? เพิ่มเครื่องนอนอะไรอีก?
ห้องเดียว เตียงหนึ่งหลัง เครื่องนอนชุดเดียว…เติมเชื้อเพิ่มแรงปรารถนา จากนั้นก็เหอ ๆ ๆ…
โล่เฟยเอ๋อไม่ล่วงรู้ได้ถึงความคิดของโจวเฉินเลยสักนิด เธอตอบอย่างไม่มีทางเลือกอื่นว่า “อย่างนั้นก็ได้”
“ถ้าเช่นนั้นคุณนาย ผมขอตัวก่อนครับ” โจวเฉินที่ทำเรื่องน่าอายเมื่อพูดจบแล้ว รีบออกไปจากห้องโดยเร็ว
โจวเฉินจะรีบออกไปทำไม? รีบกลับหรอ? โล่เฟยเอ๋อสงสัยและมองดูโจวเฉิน จากนั้นจึงกลับห้อง
ซูซีมู่หลับตาและนอนอยู่บนเตียง
เดิมทีหน้าที่แดงเล็กน้อย ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซีดขาว เนกไทไม่รู้ว่าถูกดึงออกตอนไหน แม้แต่กระดุมเสื้อเชิ้ตก็แกะออกหลายเม็ด เผยให้เห็นส่วนของอกแกร่ง
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองเขาอยู่หลายวินาที จากนั้นจึงหันหลังเดินเข้าห้องน้ำ