บทที่ 195 เอาใจใส่เป็น รักเป็น
คนรับใช้ทำงานอย่างคล่องแคล่ว ไม่ถึงสิบนาทีก็เอาเสื้อกันหนาวตัวใหม่มาแล้ว
ซูซีมู่รับเสื้อกันหนาวจากคนรับใช้มา จากนั้นก็พูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า “คุณถอดเสื้อกันหนาวที่ใส่ออกมาสิครับ”
โล่เฟยเอ๋อมองคนรอบๆแวบหนึ่ง พูดอย่างลังเลว่า “งั้นฉันออกไปเปลี่ยนข้างนอกนะคะ?”
“ไม่ต้องครับ” ซูซีมู่ส่ายหัว
โล่เฟยเอ๋อตอบหนึ่งคำว่า “อ่อ” จากนั้นก็ก้มหน้าไปถอดเสื้อกันหนาวออก
การกระทำอย่างเปิดเผยเช่นนี้ จึงทำให้เป็นที่จับตามองทันที ทุกคนต่างจ้องมองมาที่พวกเขา
“เสื้อกันหนาวของเฟยเอ๋อเป็นอะไรหรอ?”คุณปู่ถาม
“เสื้อกันหนาวของเธอเปียกแล้วครับ”ซูซีมู่ตอบแทนโล่เฟยเอ๋อ
คุณปู่พยักหน้าพูดว่า “รีบเปลี่ยนเลย เดี๋ยวจะเป็นหวัดได้นะ”
ซูซีมู่ตอบว่า “อืม”หนึ่งคำ จากนั้นก็เอาเสื้อกันหนาวในมือสวมใส่ให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋ออยากจะติดกระดุมเสื้อกันหนาวเอง แต่ซูซีมู่ก็เร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว ช่วยเธอติดกระดุมทีละเม็ดทีละเม็ด
ในห้องรับประทานอาหารมีคนจำนวนมากที่กำลังจ้องมองการกระทำของเขาอยู่ แต่เขากลับทำเป็นเหมือนไม่มีคนอยู่ข้างๆอย่างไรอย่างนั้น
โล่เฟยเอ๋อหยุดชะงักไปสักพัก รากหูเริ่มรู้สึกร้อน อยากยกมือห้ามเขา แต่นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลซู ถ้าปฏิเสธเขา จะทำให้เสียการได้ จึงให้เขาทำตามอำเภอใจ
คนบ้านซูเห็นท่าทางของซูซีมู่ ก็เปลี่ยนแววตาการมองโล่เฟยเอ๋อทันที
ต่างไปจากเดิมที่มีความสุภาพ ตอนนี้เป็นแววตาของความอบอุ่นและสนิทสนม
เพราะคนบ้านซูคิดว่าซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อแต่งงานกันเพื่อธุรกิจการค้า เพราะคุณปู่ได้จัดให้ทั้งสองบ้านแต่งงานกัน ถึงแม้ในงานแต่งของซูซีมู่จะเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย คนบ้านซูก็เคยได้ยิน แต่มีสักกี่คนที่เห็นด้วยตัวเอง จะให้ยอมรับโล่เฟยเอ๋อจากใจนั้นเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นตอนนี้เห็นกิริยาของซูซีมู่ที่มีต่อโล่เฟยเอ๋อ พวกเขาถึงยอมรับโล่เฟยเอ๋ออย่างสนิทใจ
อันที่จริงด้วยนิสัยของซูซีมู่มันไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ ต้องรู้ว่าปกติเขาเป็นคนที่ถือตัวเองเป็นหลัก ไม่สนใจความคิดของคนอื่นว่าจะเป็นอย่างไร แต่เขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อสนใจ ดังนั้นเขาจึงทำเช่นนี้
สีหน้าของซูยี่รู้สึกอึดอัด ลุกยืนขึ้นมาพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า“น้องสะใภ้ ผมขอโทษสำหรับเรื่องการกระทำที่ผ่านมาครับ”
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อรู้สึกตกตะลึง จากนั้นก็ยืนขึ้นพูดกับซูยี่ว่า “มันผ่านไปแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ”
ซูยี่มองซูซีมู่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้มีสีหน้าอะไร จากนั้นก็ยกแก้วที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองขึ้น พูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า“ผมขอดื่มให้กับน้องสะใภ้หนึ่งแก้วครับ”
คนอื่นบอกจะดื่มแล้ว โล่เฟยเอ๋อจึงจำเป็นต้องดื่ม ยื่นมือกำลังจะยกแก้วของตัวเอง แต่กลับถูกซูซีมู่ยกไป
“เธอดื่มไม่ได้” ซูซีมู่มองซูยี่อย่างเย็นชา ซึ่งแววตามีนัยแจ้งเตือนอย่างเห็นได้ชัด
ซูยี่เห็นแววตาของน้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องก็รู้สึกกลัวจนเขาสั่น แต่ยังคงหน้าด้านพูดว่า “ซีมู่ เหล้าแก้วนี้ฉันดื่มเพื่อขอโทษน้องสะใภ้ ยังไงเสียก็คงจะต้องทำเป็นพิธีหน่อยไหม?”
โล่เฟยเอ๋อดึงชายเสื้อของซูซีมู่ พูดเบาๆว่า “ไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันดื่มนิดเดียว……”
ซูซีมู่เอียงหน้าไปมองโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง สุดท้ายก็เอาเหล้าไปอยู่ในมือของโล่เฟยเอ๋อ
“พี่ชาย ดื่มให้พี่ครับ” โล่เฟยเอ๋อยกแก้วเหล้าขนกับแก้วของซูยี่ จากนั้นก็ดื่มหนึ่งคำอย่างง่ายๆ
และซูยี่ที่อยู่ในสายตาที่กดขี่ของซูซีมู่ ต้องดื่มไม่เหมือนกับโล่เฟยเอ๋อที่ดื่มเพียงแค่คำเดียว ดื่มเหล้าในแก้วหมดอย่างเป็นเด็กดี
เขาคิดว่าเขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ซูซีมู่น่าจะพอใจแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าการที่เขาดื่มเพื่อโล่เฟยเอ๋อ มันได้ข้ามบรรทัดฐานของซูซีมู่ไปแล้ว ดังนั้นจึงทำให้เขามีจุดจบคือถูกซูซีมู่มอมเหล้าเช่นนี้
หลังจากที่ซูยี่ดื่มอวยพรให้กับโล่เฟยเอ๋อแล้ว คนอื่นในบ้านซูที่มีอายุน้อยกว่าต่างก็เข้ามาดื่มอวยพรให้แก่เธอ ตอนแรกซูซีมู่อยากจะห้ามปราม แต่โล่เฟยเอ๋อปฏิเสธ เขาจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่คอยดูเธออยู่ข้างๆพลางแก้แค้นคนที่เป็นต้นตอของเรื่องนี้
ทุกครั้งที่คนอื่นมาดื่มอวยพร เธอจะดื่มครั้งละอึกเดียว แต่เมื่อมีคนมากมายเช่นนี้ เหล้าในแก้วที่มีปริมาณเจ็ดส่วนสิบก็ได้ดื่มหมดแล้ว ปกติเธอก็ดื่มไม่เป็นอยู่แล้ว เมื่อเหล้าแก้วนี้ได้ลงท้องของเธอ จึงทำให้เธอเริ่มเมาเข้าที่แล้ว
เมื่อซูซีมู่เห็นเช่นนี้ก็รีบลุกขึ้นเตรียมจะพาเธอกลับไปที่บ้านพัก
แต่พวกซูโม่ไม่ยอม จะให้เขาอยู่ดื่มต่อ
ซูซีมู่ก็คิดจะมอมเหล้าคนคนหนึ่งให้เมาเละไปเลย ดังนั้นเมื่อเขาส่งโล่เฟยเอ๋อเข้าบ้านเสร็จแล้วก็ได้สั่งให้คนใช้คนหนึ่งไปดูแลเธอ จากนั้นก็กลับมาที่ลานหน้าบ้านอีกครั้ง
ตอนที่เขามอมเหล้าซูยี่จนคลานลงไปกองอยู่บนพื้นก็ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง
“จัดการเจ้ายี่เสร็จเรียบร้อยแล้วหรอ?”เห็นซูซีมู่ออกมาจากห้องรับประทานอาหาร คุณปู่จึงขมวดคิ้วถาม
ซูซีมู่ไม่ได้ปฏิเสธพยักหน้ารับ “อืม” หนึ่งคำ
คุณปู่ก็ไม่ได้โทษซูซีมู่เพียงแต่พูดว่า “นายก็ดื่มไม่น้อยแล้ว ไม่ต้องฉลองสิ้นปีต่อแล้ว กลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนเฟยเอ๋อเถอะ”
“ครับ”ซูซีมู่พยักหน้าจากนั้นก็ออกไป
มองแผ่นหลังซูซีมู่ที่กำลังเดินออกไป คุณปู่ยิ้มจนไม่เห็นนัยน์ตาแล้ว “ในที่สุดซีมู่ก็รู้จักเอาใจใส่คนอื่นและรักเป็นแล้ว”
อาผินที่ยืนอยู่ด้านหลังคุณปู่พยักหน้า “คุณปู่ก็สามารถวางใจได้แล้ว”
“ใช่ ฉันวางใจได้แล้ว ฮาฮา……”คุณปู่หัวเราะเสียงดังลั่นสามครั้ง พลางเดินออกไปด้านนอกพลางพูดว่า “นายไปเรียกคนอื่นที่อยู่ในห้องอาหารให้มาที่ฉลองสิ้นปีที่ห้องโถง”
มองแผ่นหลังคุณปู่ที่ออกไปอย่างมีความสุข อาผินก็ฉีกปากยิ้มกว้าง
คุณปู่ช่างลำเอียงเหลือเกิน!คุณชายดื่มเหล้าแค่นิดเดียวก็ให้กลับไปอยู่เป็นเพื่อนกับคุณนายน้อยแล้ว
คนอื่นถูกมอมจนเละเทะยังต้องฉลองเป็นเพื่อนกับคุณปู่อีก……
ถึงแม้ซูซีมู่จะมอมเหล้าพวกซูยี่จนเมาแล้ว แต่อันที่จริงเขาไม่ได้ดื่มอะไรมากมายนัก
ระหว่างทางที่กลับบ้านมีลมเย็นพักมา ทำให้หายเมาลงเล็กน้อย
เมื่อก้าวเดินเข้าบ้านซูซีมู่ก็ได้กลิ่นของอ้วก เข้าใจทันทีว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นคนอ้วกทันที
เขาขมวดคิ้วแล้วรีบเดินเข้าบ้าน
โล่เฟยเอ๋อกำลังนอนอยู่บนเตียงซึ่งได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และคนรับใช้กำลังเก็บกวาดพื้นอยู่
เห็นซูซีมู่เข้ามา คนรับใช้ก็สะดุ้งตกใจ จากนั้นก็พูดเสียงต่ำๆว่า “คุณชาย”
ซูซีมู่ “อืม”หนึ่งคำ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ทำความสะอาดเสร็จแล้วก็ออกไปได้”
คนรับใช้ไม่กล้าพูดอะไร รีบใช้ความเร็วสุดขีดในการทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย จากนั้นก็คำนับซูซีมู่อย่างมีสัมมาคารวะ แล้วออกจากห้องไป
หลังจากที่คนรับใช้ออกไป ซูซีมู่ก็เดินเข้าไปที่เตียงยื่นมือไปจับโล่เฟยเอ๋อ
เขาห่มผ้านวมให้โล่เฟยเอ๋อ แล้วก็ไปเปิดหน้าต่างครึ่งบานให้อากาศถ่ายเทสะดวก จากนั้นก็ไปอาบน้ำ
หลังจากที่อาบน้ำออกมา ในห้องก็ไม่มีกลิ่นแล้ว
ซูซีมู่ปิดหน้าต่าง จากนั้นก็ดึงผ้านวมแล้วขึ้นไปบนเตียง
แต่เขาไม่ได้นอนในทันที เขาไปจับแก้มโล่เฟยเอ๋อเบาๆ ท่าทางของเขาอ่อนโยนและระมัดระวังเป็นอย่างมาก คล้อยกับกำลังทะนุถนอมของล้ำค่าที่แตกง่าย
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงแหนและความอ่อนโยน แม้กระทั่งร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยราศีความอ่อนโยนดุจสายน้ำ
จากนั้นก็ค่อยๆก้มหน้าลงไป ริมฝีปากที่สวยงามได้ประทับรอยจูบที่หน้าผากของโล่เฟยเอ๋อ
ซูซีมู่ไม่ได้ทำอะไรมาก จูบแค่ครั้งเดียวก็ทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆโล่เฟยเอ๋อเลย
ตอนแรกซูซีมู่คิดว่าคืนนี้จะเหมือนกับคืนก่อน แต่คิดไม่ถึงว่าคืนนี้เขากับโล่เฟยเอ๋อจะได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้ครั้งแรก