บทที่ 186 ที่แท้ก็ให้เสื้อเชิ้ตกับเขา
ซูซีมู่ประชุมผ่านวิดีโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากทำธุระไปแล้วสองชั่วโมง
เขาปิดคอมพิวเตอร์ โจวเฉิงที่ยืนรอข้างๆ ก็ยื่นถุงของโล่เฟยเอ๋อให้ซูซีมู่ทันที
เขาจ้องถุงบนมือของโจวเฉิง หว่างคิ้วของซูซีมู่พลันขมวดแน่น “ทำไมอยู่ในมือของนาย? ”
“เมื่อกี้คุณหญิงให้ผมนำมาให้คุณครับ” โจวเฉิงตอบมาแบบนี้
ประโยคนี้ของโจวเฉิง ซูซีมู่ที่มีท่าทีนิ่งขหรือมมือสั่นเทา แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ซูซีมู่ถึงตอบ “เธอพูดว่าให้ฉัน? ”
โจวเฉิงมองจากซูซีมู่อย่างแปลกใจ เขาผงกหัว “ใช่ครับ”
จริงๆ แล้วก็ให้เสื้อเชิ้ตตัวนี้กับเขา ไม่ได้ให้ผู้ชายคนนั้นหรอกเหรอ….
การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของซูซีมู่ก็สงบลง เขารับถุงจากบนมือของโจวเฉิงมา จากนั้นก็เดินออกไปนอนห้องหนังสือ
โจวเฉิงมองท่าท่างของท่านประธานของตัวเอง เขาก็รู้สึกประหลาดใจ
ผ่านไปประมาณสองนาที ซูซีมู่ก็เดินกลับเข้ามาในห้องหนังสือ “เธอไปที่ไหนแล้ว? ”
เธอ? คุณหญิง? โจวเฉิงอึ้งไป จากนั้นเขาก็พูดตอบ “คุณหญิงไปสนามบินแล้วครับ น่าจะกำลังเช็คอินอยู่นะครับ “
เช็คอิน? ซูซีมู่อึ้งไปพักหนึ่ง ถึงได้นึกออกว่าก่อนหน้านี้เขาจัดการให้เธอกลับเมืองA
ทิ้งช่วงเงียบไปครู่หนึ่ง ซูซีมู่ก็สะบัดมือไปทางโจวเฉิง ส่งสัญญาณให้เขาออกไป
แม้ว่าโจวเฉิงจะนึกฉงนใจ แต่ก็โน้มกายอย่างนอบน้อมให้ซูซีมู่ แล้วหันกายเดินออกไป
ซูซีมู่รอจนกระทั่งประตูห้องหนังสือปิดลง เขาก็รีบเปิดถุงอย่างรีบร้อน นำเสื้อเชิ้ตออกมาจากด้านใน
ดวงตาจับจ้องไซส์ที่คุ้นตาบนห่อนั้น ไซส์นี้ก็สามารถให้คำตอบเขาได้อย่างชัดเจน ผลลัพธ์เขายังนึกว่าเธอซื้อให้กับผู้ชายคนนั้น
เขามองเสื้อเชิ้ตในมือ มุมปากของซูซีมุ่พลันหยัดขึ้น แววตาดูอ่อนโยนขึ้นเป็นพิเศษ
เปล่งประกายอยู่ภายในราวกับคลื่นน้ำ ที่กระเพื่อมไม่หยุดนิ่ง….
หลังจากได้รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อซื้อเสื้อเชิ้ตให้ อารมณ์ของซูซีมู่ก็ดีขึ้นอย่างยิ่ง เขาใจดีให้โจวเฉิงพักงานครึ่งวัน แล้วก็นั่งดูทีวีบนโซฟาเงียบๆ
คาดว่าโล่เฟยเอ๋อน่าจะลงจากเครื่องบินแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อขึ้นเครื่องบินรอบบ่ายสามโมงกลับเมืองA หลังจากนั้นสามชั่วโมง เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินของเมืองA
เธอลากกระเป๋าสัมภาระ เดินออกมาจากช่องทางเดินVIP เธอเห็นคนที่คุ้นเคยอยู่ไกลๆ สงเฟยเหวิน
เธอจะนั่งเครื่องไปเมืองหลวงเหรอ? โล่เฟยเอ๋อพลันเกิดความคิดนี้ขึ้นมาในหัว สงเฟยเหวินก็เดินเข้ามา
“คุณหญิง ผู้ช่วยโจวให้ดิฉันมารับท่านค่ะ”
ที่แท้เป็นคำสั่งของโจวเฉิงนี่เอง! โล่เฟยเอ๋อยิ้มฝืดๆ จากนั้นเธอก็ผงกหัว “รบกวนด้วยนะคะ คุณสง”
“ไม่รบกวนเลยค่ะ นี่เป็นหน้าที่ของดิฉัน” สงเฟยเหวินคลี่ยิ้มจางๆ จากนั้นก็เอื้อมมือไปรับสัมภาระในมือของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อย่อมไม่ยินยอมอยู่แล้ว แต่สงเฟยเหวินยังคงหนักแน่น สุดท้ายสัมภาระก็โดนสงเฟยเหวินถือไปเสียแล้ว
เมื่อขึ้นนั่งบนรถของสงเฟยเหวิน โล่เฟยเหวินนั่งพิงพนัก ทอดมองเมืองAที่มีแสงนีออนวิบวับ ความรู้สึกสั่นคลอนเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยู่ที่เมืองหลวงนานถึงยี่สิบวัน หากไม่ใช่เพราะสายของคุณปู่ เธออาจจะยังไม่ต้องกลับมาตอนนี้ก็ได้
ได้อยู่กับซูซีมู่ ราวกับตื่นเต้นจนหลงลืมไปเลย……
ในตอนที่โล่เฟยเอ๋อกำลังครุ่นคิดอยู่ โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอพลันดังขึ้น
ตอนที่เธอลงจากเครื่องบินถึงได้เปิดเครื่อโทรศัพท์ ตอนนี้ใครโทรหาเธอล่ะเนี่ย?
นันย์ตาของโล่เฟยเอ๋อฉายแวววงสัย เธอหยิบโทรศัพท์ของจากกระเป๋า ตอนที่เห็นบนหน้าจอว่าเป็นสายเรียกเข้าของซูซีมู่ หัวใจของโล่เฟยเอ๋อก็เต้นระส่ำ
เขาโทรหาเธอทำไม?
โล่เฟยเอ๋อนึกสงสัยพลางแนบโทรศัพท์ไว้ข้างๆ หู “ฮัลโหล? ”
“คุณถึงเมืองAแล้ว? ”
“เพิ่งมาถึง” โล่เฟยเอ๋อกระตุกมุมปากเอ่ยตอบไป
ทางซูซีมู่ก็ร้อง ‘อ้อ’ ครั้งหนึ่ง “คุณเจอสงเฟยเหวินหรือยัง? เธอน่าจะไปรับคุณที่สนามบินแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อลอบมองสงเฟยเหวินที่นั่งเก้าอี้คนขับแวบหนึ่ง เธอตอบกลับมา“เจอแล้ว ฉันนั่งอยู่บนรถของเธอแล้ว”
ซูซีมู่พึมพำ ‘อืม’ ก่อนจะเงียบไปหลายวินาที แล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง “โจวเฉิงเอาถุงมาให้ผมแล้ว”
โจวเฉิงเอาเสื้อเชิ้ตให้เขาแล้วเหรอ? โล่เฟยเอ๋อบีบโทรศัพท์แน่น ก่อนจะถามอย่างขบขัน “เสื้อตัวนั้น….น่าจะคล้าย กับเสื้อผ้าพวกนั้นของคุณ ถ้าคุณไม่ชอบ คุณจะทิ้งก็…”
โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ ซูซีมู่ก็พูดตัดบทเธอ “ผมชอบมาก….”
พอได้ยินว่าซูซีมู่ชอบ มุมปากของโล่เฟยเอ๋อก็ยกโค้งขึ้น “งั้นก็ดีแล้ว”
“ขะ..ขอบคุณ” น้ำเสียงของซูซีมู่ตะกุกตะกักเล็กน้อยระหว่างที่กำลังพูดคำว่าขอบคุณ
“ไม่ต้องเกรงใจ”โล่เฟยเอ๋อเอียงหน้ามองนอกหน้าต่างรถยนต์พลางเอ่ยตอบเขา
“อืม ผมมีธุระ เดี๋ยววางสายก่อนนะ”
“ลาก่อน”
“ลาก่อน” เมื่อโล่เฟยเอ๋อพูดจบ เธอก็วางสายลง
รถยนต์ขับเคลื่อนเร็วขึ้นเมื่อเข้าเขตเมือง ตอนที่จะถึงหยู้ผินเซียง จู่ๆ สงเฟยเหวินก็พูดขึ้น “คุณหญิง อาหารเย็นจะทานที่หยู้ผินเซียงเลยไหมคะ? ”
โล่เฟยเอ๋อมองไปที่หยู้ผินเซียงที่ห่างออกไปไม่ไกลแวบหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าพลางตอบกลับไป “ไม่ล่ะ กลับไปกินที่วิลล่าดีกว่า”
โล่เฟยเอ๋ออยากกลับไปทานอาหารเย็นที่วิลล่า สงเฟยเหวินปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เธอพยักหน้าพลางพูด ‘ได้ค่ะ’ เธอเร่งความเร็วของรถยนต์กลับมา แล้วรีบมุ่งหน้าไปวิลล่า
คหรือ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็มาถึงเขตวิลล่า โล่เฟยเอ๋อเห็นคนรับใช้ยืนรอหน้าวิลล่าแต่ไกล
หัวคิ้วของโล่เฟยเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะย่นคิ้ว ตอนนี้เป็นเวลาดึกสามทุ่มแล้ว อากาศก็เย็น ทำไมคนรับใช้ถึงมาอยู่ด้านนอก
“คุณหญิงท่านกลับมาแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของคนรับใช้ โล่เฟยเอ๋อถึงได้มีปฏิกิริยากลับมา คนรับใช้ยืนรอรับเธอโดยเฉพาะเลย
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ขอโทษด้วยนะ กลางค่ำกลางคืนอากาศหนาวขนาดนี้ ยังให้คุณรอตรงนี้อีก”
คนรับใช้ส่ายหน้ายิ้มบางๆ “คุณหญิงพูดเกินไปแล้วค่ะ”
สงเฟยเหวินถือสัมภาระบนรถลงมาก่อนจะส่งให้คนรับใช้ จากนั้นเธอก็เข้าไปพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “คุณหญิง ดิฉันยังมีธุระอยู่ ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของสงเฟยเหวิน โล่เฟยเอ๋อหันกายไปมองเธอ “ด่วนขนาดนี้เลยเหรอ? ”
“อืม มีเรื่องต้องทำนิดหน่อยค่ะ” สงเฟยเอ๋อตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
พอได้ยินสงเฟยเหวินบอกว่ายุ่งนิดหน่อย โล่เฟยเอ๋อก็ไม่อยากถ่วงเวลาเธอไว้ เธอพยักหน้าเบาๆ “เดินทางปลอดภัยนะ”
“รับทราบค่ะ” สงเฟยเหวินโน้มตัวให้สงเฟยเอ๋ออย่างนอบน้อม จากนั้นก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป
หลังจากส่งสงเฟยเหวิน โล่เฟยเอ๋อก็กลับเข้าวิลล่าพร้อมกับคนรับใช้
หลังจากเข้าประตู โล่เฟยเอ๋อก็ถือสัมภาระขึ้นไปชั้นบน
ผ่านไปสิบนาที คนรับใช้ก็มาเคาะประตู “คุณหญิง อาหารเย็นเตรียมพร้อมแล้วค่ะ”
จัดเตรียมเสร็จเร็วขนาดนี้เชียว? โล่เฟยเอ๋อเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ
หลังจากเธอก็ตอบไป ‘อื้ม’ แล้วเดินตามคนรับใช้ไปชั้นล่าง
บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารจัดวางเต็มไปหมด อีกทั้งยังเป็นของที่โล่เฟยเอ๋อชอบทานอีก
ไม่พูดก็คงไม่ได้ โจวเฉิงจัดการได้ครบครันจริงๆ มิน่าล่ะซูซีมู่ถึงให้เขาทำหน้าที่สำคัญ นี่ไม่ใช่ว่าไม่มีที่มา