บทที่ 187 พ่อตาจะตบที่รักของผมทำไมครับ
ในช่วงเช้าของวันที่สองหลังจากที่โล่เฟยเอ๋อกลับมาเมืองA คุณท่านก็ได้โทรเข้ามาที่วิลล่า
“เฟยเอ๋อ ฉันได้ยินจากซีมู่ว่าหนูกลับเมืองAแล้ว? ”
โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างน่ารักน่าเอ็นดู “อืม กลับมาเมื่อคืนค่ะ”
“เฟยเอ๋อคงไม่ถือที่ปู่โทรเรียกให้หนูกลับเมืองA ทำให้หนูไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับซีมู่สองคน? ” น้ำเสียงในโทรศัพท์แฝงไว้ด้วยการยอกล้อ
โล่เฟยเอ๋อชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไป “ไม่หรอกค่ะ”
“หนูไม่ถือ แต่ตอนที่ซีมู่รับสายของฉัน เขาดูไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นัก” คุณท่านพูดไปพลางกลั้วหัวเราะเสียงดัง
ครู่หนึ่งที่โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี “เอ่อ….”
เมื่อเห็นว่าโล่เฟยเอ่อไม่รู้จะพูดตอบอย่างไรดี คุณท่านก็กระแอมเสียงสองครั้ง “ปู่ไม่ล้อหนูแล้ว พูดเข้าเรื่องกับหนูเลยแล้วกัน”
“คุณปู่พูดมาได้เลยค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างนอบน้อม
“จริงๆ แล้วช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนจะไปส่งของขวัญให้ตระกูลของหนู หนูกับซีมู่ไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ที่เมืองหลวง เขายังยุ่งอยู่ ถ้ารอเขากลับมา เกรงว่าจะไม่ทันการณ์ ดังนั้นเลยทำได้แค่ให้หนูกลับไปคนเดียวก่อน หวังว่าหนูจะไม่ถือโทษเขานะ”
แม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะได้ฟังจากปากของซูซีมู่แล้ว กลับไม่คิดเลยว่าคุณท่านจะตั้งใจโทรมาอธิบายกับเธอโดยเฉพาะ
เป็นถึงผู้นำของบ้านซู เขาไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับทำ เป็นเพราะเขาให้ความสำคัญกับหลานสะใภ้
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ใช่หลานสะใภ้ที่คุณท่านคิด โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเปรี้ยวขมในก้นบึ้งหัวใจเหลือเกิน
เธอกัดริมฝีปากพลางพูดตอบ “หนูรู้ดีค่ะว่าเขายุ่งมาก หนูไม่ถือโทษเขาหรอกค่ะ”
“งั้นก็ดี” คุณท่านพูดไปพลางหัวเราะหึหึ “ตอนบ่ายฉันจะให้อาผินส่งของให้เธอ ตอนที่หนูกลับไป ก็ฝากเอาของพวกนี้ไปด้วยนะ”
โล่เฟยเอ๋ออยากจะปฏิเสธ ทว่าเธอก็นึกถึงตอนที่เธอปฏิเสธกำไลหยกที่คุณปู่มอบให้เธอ คำพูดที่คุณณปู่พูด คำพูดคาอยู่ที่ริมฝีปาก เธอก็กลืนลงไป “ขอบคุณค่ะ คุณปู่”
“เด็กโง่ พูดขอบคุณปู่ทำไม? ตอนว่างๆ ก็มากินข้าวที่ลานบ้านของบ้านซูด้วยนะ” คุณท่านพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“ได้ค่ะ”
……
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อคิดว่า คุณท่านบอกว่าส่งของมาให้ น่าจะมีหลายๆ อย่าง
กลับไม่คิดเลยว่า อาผินส่งของมาเต็มรถบรรทุกลำเล็กเลย
ข้าวของล้วนถูกจัดใส่เต็มกล่อง โล่เฟยเอ๋อก็ไม่รู้ว่าภายในมีอะไรกันแน่ เพียงแค่จำนวน ก็ทำเอาเธอตกใจอยู่หน่อยๆ
“ทำไมของมันเยอะขนาดนี้ล่ะ? ”
“คุณท่านบอกว่าคุณหญิงน่าจะถูกใจ เลยให้ดิฉันส่งมาให้เยอะๆ ค่ะ” อาผินตอบอย่างมีมารยาท
โล่เฟยเอ๋อกุมหน้าผาก ส่งมาเยอะๆ หน่อย นี่ก็มากไปไหม?
“งั้นก็….รบกวนด้วยนะคะ คุณอาผิน”
“คุณหญิงไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ครับ เรียกผมอาผินเฉยๆ ดีกว่า ” อาผินตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
โล่เฟยเอ๋ออมยิ้ม แต่ก็ไม่ได้เรียกอีกคนว่า ‘อาผิน’ จริงๆ เขาเป็นถึงบอดี้การ์ดคนสนิทของคุณท่าน เธอเองก็รู้ฐานะของตัวเองดี
หลังจากที่อาผินและโล่เฟ่ยเอ๋อทักทายกันเรียบร้อย ก็ให้คนที่เขาพามานำของลงมาอยากคล่องแคล่ว จัดเรียงเข้าห้องเก็บของของวิลล่า แล้วก็ออกไป
เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้สนใจว่าของที่อยู่ด้านในคือะไรกันแน่
ตอนที่เข้าวันที่สองที่กลับมาบ้านโล่ เธอไม่ได้ยุ่งอะไรกับของในห้องเก๋บของเลย ทั้งยังนั่งรถออกไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ซื้อของนิดหน่อย แล้วก็ไปที่บ้านโล่
ตั้งแต่แต่งงานจนถึงบัดนี้ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้กลับบ้านโล่เลย
นึกถึงวันที่แต่งงานออกไป เธอนึกแอบสบถในใจ ตัดความสัมพันธ์กับคนตระกูลนี้แล้ว สุดท้ายแล้วผ่านไปหลายเดือน เธอก็ยังต้องกลับมา
โล่เเฟยเอ๋อสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะยกมือขึ้นไปกดกริ่ง
“ติ้งต่อง…ติ้งต่อง”
“มาแล้ว มาแล้ว! ” เสียงหัวเราะดังออกมาจากด้านใน
ไม่นาน คนรับใช้ของบ้านโล่ คุณป้าหลิวมาเปิดประตู
พอคุณป้าหลิวเห็นโล่เฟยเอ๋อก็อึ้งไป จากนั้นก็ตะโกนเข้าไปด้านใน “คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ! ”
โล่เฟยไม่พูดอะไร เธอถือข้าวของเดินเข้าประตู
โล่ชิงไป๋กำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก มองโล่เฟยเอ๋อเดินเข้ามาผู้เดียว คิ้วก็พลันขมวดย่น
“ทำไม่มีแค่แกคนเดียว? ซีมู่ล่ะ? ”
เพราะเรื่องที่บริษัทโล่ซื่อไป๋ดำเนินกิจการตลาดต่างชาติ โล่ชิงไป๋ไปหาซูซีมู่ที่บริษัทซูซื่ออยู่หลายครั้ง ทว่าโจวเฉิงกลับบอกกับโล่ชิงไป๋มาตลอดว่า ซูซีมู่ไม่อยู่ที่เมืองA
โล่ชิงไป๋ไม่เห็นซูซีมู่ก็นึกถึงตอนที่โล่เฟยเอ๋อและซูซีมู่กลับมาบ้านดล่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้คุยต่อหน้ากับซูซีมู่ เมื่อคืนก็ได้รู้จากเห้อจิ้นเหยาว่าโล่เฟยเอ๋อกลับมาในวันนี้แล้ว วันนี้เขาเลยอยู่ที่บ้านรอ กลับคิดไม่ถึงว่าจะซูซีมู่จะไม่ได้มาบ้านโล่กับโล่เฟยเอ๋อด้วย
โล่เฟยเอ๋อยกมุมปากยิ้มเย้ยหยัน เธอตอบอย่างนิ่งๆ “ไม่มา”
พอโล่ชิงไป๋ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดว่า ‘ไม่มา’ สีหน้าดำทะมึน แต่ก็ไม่ได้เกิดโทสะ เพราะเขารู้ดีว่าซูซีมู่ให้ความสำคัญกับโล่เฟยเอ๋อ
ดังนั้นหลังจากเขาส่งเสียงฮึ ก็ไม่พูดไม่จาเลย
ประจวบเหมาะกับในตอนนั้นเห้อจิ้นเหยาลงมาจากชั้นบน เธอยิ้มกรุ้มกริมกล่าวต้อนรับ “เฟยเอ๋อ หนูกลับมาแล้ว? คุณป้าเหยารอตั้งนาน”
“ขอโทษคุณป้าเหยาด้วย ช่วงเช้าหนูมีธุระ” โล่เฟยเอ๋อคลี่ยิ้มตอบกลับไป
“ไม่เป็นไร กลับมาก็ดีแล้ว” เห้อจิ้นเหยายิ้มอ่อนๆ สายตามองที่ข้าวของที่โล่เฟยเอ๋อถืออยู่ในมือแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปพูดกับคุณป้าหลิวที่ยืนอยู่ข้างๆ “คุณป้าหลิวเป็นอะไรคะ? เฟยเอ๋อเข้าบ้านมาแล้ว คุณก็ไม่รู้จักช่วยรับข้าวของของเธอไปอีก? ”
“ขออภัยค่ะ คุณหญิง” คุณป้าหลิวกล่าวขอโทษพลางเดินเข้ามารับของในมือของโล่เฟยเอ๋อ
ตอนแรกโล่ชิงไป๋ไม่ทันสังเกตเห็นของในมือของโล่เฟยเอ๋อ พอเห้อจิ้นเหยาดุคุณป้าหลิว ถึงได้ดึงดูดความสนใจของเขาแล้ว
พอเห็นว่าของต่างๆ ในมือของโล่เฟยเอ๋อเป็นของที่ซื้อจากห้างสรรพสินค้าอย่างชัดเจน สีหน้าพลันดูย่ำแย่ขึ้นมา
“นี้เป็นของที่แกเอามาจากบ้านซู? ”
โล่เฟยเอ๋อย่อมเข้าใจความหมายของโล่ชิงไป๋ เธอกระตุกมุมปากพลางตอบกลับไป “ใช่สิคะ ทำไมเหรอคะ? ”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อ โล่ชิงไป๋พลันเกิดความโมโห “ทำไมงั้นเหรอ? บ้านซูออกจะยิ่งใหญ่ แกกลับเอาของพวกนี้กลับมาเพื่อหยามหน้าฉัน? ”
“ทำไมคะ? พ่ออยากให้หนูเอาอะไรกลับมา? ” โล่เฟยเอ๋อยิ้มเย็นยะเยือก “ให้เอามาทั้งบ้านซูเลยไหมคะ? ”
โล่ชิงไป๋ฟังจากน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อก็พอจะรู้ว่าเธอจงใจ เขาชี้ถามเธอด้วยความโมโห “แกจงใจสินะ? ”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ หนูจงใจ”
“แก….”โล่ชิงไป๋ไม่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะยอมรับ เขาโกรธจนพูดไม่ออกแล้ว
ในตอนนั้นเองด้านนอกก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ทว่าคนในห้องรับแขกกำลังง่วนอยู่กับการถกเถียงกันอยู่ เลยไม่มีใครสนใจ คุณป้าหลิวที่ยืนเป็นห่วงอยู่ข้างๆ ก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย เธอได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้น เธอจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูราวกับได้รับการละเว้นพิเศษให้
โล่เฟยเอ๋อเชิดหน้าขึ้น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “หนูบอกพ่อตั้งนานแล้ว อย่าคิดจะเอาชนะบ้านซูอีกไม่ใช่เหรอ? ”
“แกมันลูกอกตัญญู” เมื่อได้ฟังคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ โล่ชิงไป๋ก็โมโหจนง้างมือขึ้น เตรียมจะตบโล่เฟยเอ๋อให้ครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นเอง น้ำเสียงทุ้มลึกเซ็กซี่ก็พูดขึ้นหยุดเขาไว้ “พ่อตาจะตบที่รักของผมทำไมครับ? ”