บทที่198 รูดบัตรเครดิตของสามี
หลังจากหนึ่งชั่วโมง รถได้จอดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลซู
รถจอดสนิทแล้วก็มีบอดี้การ์ดวิ่งมาเปิดประตูรถให้ซูซีมู่ “คุณชายกลับมาแล้วหรอครับ!”
ซูซีมู่พูดว่า “อืม”หนึ่งคำ แล้วพูดกับโจวเฉิงหนึ่งประโยคว่า “พรุ่งนี้กับวันมะรืนผมไม่ไปที่บริษัท” จากนั้นก็ถือกระเป๋าเอกสารลงจากรถเดินเข้าบ้านไป
เขาไม่ได้เข้าบ้านหลังข้างหน้า แต่ไปบ้านเขากับโล่เฟยเอ๋อโดยตรง
เขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อไม่ชอบเข้าสังคม ดังนั้นเขามั่นใจว่าโล่เฟยเอ๋อต้องอยู่ที่บ้านแน่ๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าเขาเดินเข้าบ้านอย่างดีอกดีใจ คนรับใช้กลับบอกว่าโล่เฟยเอ๋อกับเหซิงถิงได้ออกจากบ้านไปแล้ว
ตอนแรกซูซีมู่อยากจะไปหาโล่เฟยเอ๋อ แต่เมื่อคิดได้ว่าเขากับโล่เฟยเอ๋อกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด เขาคงต้องเก็บความคิดนี้ไว้จะดีกว่า
รอเธอกลับมาที่บ้านอย่างวางใจดีกว่า……
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกทำตัวไม่ถูก เพราะเธอกับเหซิงถิงก็ไม่ได้สนิทกันมาก
สำหรับพ่อแม่ของเหซิงถิง เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
แต่ก็ยังดี พ่อแม่ของเหซิงถิงให้การต้อนรับเธอกับซูยุ่นอย่างอบอุ่น ดังนั้นเธอจึงค่อยๆคลายความเกรงออกไป
หลังจากที่กินข้าวกลางวันเสร็จ เหซิงถิงกับซูยุ่นเสนอว่าจะไปช้อปปิ้ง ถึงแม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่ได้ซื้ออะไร แต่ก็ตอบตกลงแล้ว
เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูใหญ่ ก็เห็นรถหนึ่งคันขับเข้ามา
“พี่ชายฉันกลับมาแล้ว” เหซิงถิงมองไปที่รถพลางพูดขึ้น
เหซิงโม่?โล่เฟยเอ๋อหันหน้าไปมองโดยสัญชาตญาณก็เห็นเหซิงโม่ผลักประตูรถออกแล้วลงมาจากรถ
ทั้งสองไม่สังเกตเห็นซูยุ่นที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาว่า เมื่อเธอเห็นเหซิงโม่ก็มีแววตาที่ตื่นเต้น
เหซิงโม่รู้สึกประหลาดใจที่เห็นเหซิงถิงอยู่กับโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อมาเที่ยวหรอ?มากับซูซีมู่หรือเปล่าครับ?”
“ไม่ใช่ค่ะ เขาไปที่เมืองM”โล่เฟยเอ๋อตอบ
เหซิงโม่พยักหน้า “อ่อ”หนึ่งคำ แล้วมองซูยุ่นที่อยู่ข้างๆของโล่เฟยเอ๋อ“ซูยุ่นก็มาหรือครับ?”
เหซิงโม่เพิ่งเห็นตัวเองตอนนี้ แววตาซูยุ่นจึงรู้สึกขุ่นเคือง จากนั้นก็ตอบด้วยเสียงต่ำๆว่า “ฉันมากับพี่สะใภ้ค่ะ”
“อ่อ” เหซิงโม่พยักหน้า จากนั้นก็ถามว่า “พวกน้องกำลังจะออกไปใช่ไหม?”
เหซิงถิงตอบว่า “พี่ชาย พวกเราจะไปช้อปปิ้งกัน พี่จะไปด้วยไหม?”
ทำไมเหซิงถิงถึงชวนเหซิงโม่?เหตุผลมันง่ายมาก ซึ่งก็คือชวนให้เป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่และช่วยถือของให้พวกเธอ
“เออ……อันนี้……” ความจริงแล้วเหซิงโม่อยากจะปฏิเสธ เพราะเขามีประสบการณ์ไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนกับน้องสาวมาก่อนแล้ว
แต่มีโล่เฟยเอ๋อกับซูยุ่นอยู่ด้วย เขาก็ไม่สะดวกที่จะปฏิเสธ จึงพูดว่า“ขึ้นรถสิครับ”
ดังนั้น คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณชายเหซิงแห่งวงศ์สกุลใหญ่เหซิงในเมือง Aก็กลายเป็นคนขับรถ ตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ และคนถือของในเวลาเดียวกัน
เหซิงถิงกับซูยุ่นช้อปปิ้งอย่างเมามันส์ เพราะความสุขของผู้หญิงคือการช้อปปิ้งไง
ส่วนโล่เฟยเอ๋อตามพวกเธอไปอย่างเงียบไม่ได้ซื้ออะไร
เหซิงถิงกับซูยุ่นกำลังซื้ออย่างเพลิดเพลินไม่ได้สังเกตโล่เฟยเอ๋อ แต่เหซิงโม่สังเกตเห็นแล้ว
เหซิงโม่ถามอย่างแปลกใจ “เฟยเอ๋อ ทำไมคุณไม่ซื้อหรอครับ?”
“เออคือ……ฉันไม่มีอะไรต้องซื้อค่ะ” โล่เฟยเอ๋อหยุดชะงักพลางส่ายหัว
ไม่มีอะไรจะซื้อ?เหซิงมองโล่เฟยเอ๋อหนึ่ง จากนั้นก็มองถุงที่ตัวเองถือสิบกว่าใบในมือ และมองถึงที่เหซิงถิงกับซูยุ่นถืออยู่
“เฟยเอ๋อ คุณไม่มีอะไรจะซื้อเลยหรอ?”เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ของพวกนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงชื่นชอบไม่ใช่หรอ?ตัวอย่างเช่นเหมือนกับน้องสาวของเขา เหมือนกับซูยุ่น
“ไม่มีค่ะ”โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ เสียงของซูยุ่นก็ส่งมาจากทางโน่น “พี่สะใภ้ค่ะ รีบมาค่ะ”
“ไปกันเถอะค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพูดจบ หันหลังเดินไปหาซูยุ่น “มีอะไรหรอค่ะ?”
ซูยุ่นไม่บอกหรอกว่าเป็นเพราะเธอเห็นโล่เฟยเอ๋อกับเหซิงโม่คุยกันโดยบังเอิญ จึงได้เรียกโล่เฟยเอ๋อเข้ามา เธอชี้ไปที่ร้านข้างๆพลางพูดว่า“ไม่มีอะไรค่ะ เพียงแค่เห็นว่ามีเสื้อผ้าตัวหนึ่งเหมาะกับพี่สะใภ้มาก จึงให้พี่สะใภ้มาดูค่ะ”
“อ่อ……ฉันไม่ต้องการจะซื้อเสื้อผ้า” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัวโดยที่ไม่ได้คิดดูเลย
“พี่สะใภ้ค่ะ เสื้อตัวนั้นสวยมากจริงๆค่ะ พี่สะใภ้ลองไปดูกันนะคะ”ซูยุ่นพูดเสร็จก็ไม่ให้โอกาสโล่เฟยเอ๋อปฏิเสธเลย ลากโล่เฟยเอ๋อเดินเข้าร้าน
หลังจากที่เข้าร้านขายเสื้อผ้ามาแล้ว ซูยุ่นก็เอาเสื้อสีแดงยื่นใส่มือของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็ผลักโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า
ราคาในป้ายเสื้อสูงจนน่าตกใจ แต่ก็ถูกซูยุ่นผลักเข้าห้องลองเสื้อแล้ว โล่เฟยเอ๋อจึงได้แต่ลองใส่ดู เดี๋ยวไม่ซื้อก็ได้
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อใส่เสื้อขนสัตว์ตัวหนาๆและเสื้อกันหนาวที่หนาๆไว้ ตอนนี้เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่บางๆชุดเดียว ทำให้เธอหนาวจนตัวสั่น อยากจะรีบเปลี่ยนเสื้อ แต่ซูยุ่นร้องบอกให้เธอออกมา เธอจึงได้แต่ผลักประตูออกแล้วเดินออกจากห้องลองเสื้อผ้า
ตอนแรกซูยุ่นคิดว่าเสื้อผ้าตัวนี้เธอกับเหซิงถิงเคยลองดูแล้วก็ไม่เหมาะสมเลย จึงให้โล่เฟยเอ๋อมาลองดู
คิดไม่ถึงว่าโล่เฟยเอ๋อใส่แล้วจะสวยกว่าเธอกับเหซิงถิงอีก
“พี่สะใภ้ใส่เสื้อตัวนี้แล้วสวยมากเลยค่ะ!” ซูยุ่นอดใจไม่ได้ที่จะชม
“ใช้ได้อยู่มั้ง” โล่เฟยเอ๋อก้มหน้ามองตัวเองแวบหนึ่ง
เหซิงถิงที่อยู่อีกทางก็เห็นแล้ว พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “โอ้โห……เฟยเอ๋อ สวยมากเลยค่ะ”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้รู้สึกว่าสวยอะไรมากมาย รู้สึกแต่เพียงว่าหนาว ต้อการรีบเปลี่ยนเสื้อ “ดูเสร็จแล้วใช่ไหม?ดูเสร็จ ฉันจะเข้าไปเปลี่ยนแล้ว”
พูดจบก็ไม่รอให้ซูยุ่นกับเหซิงถิงตอบสนอง แล้วเดินเข้าห้องลองเสื้อผ้า
หลังจากผ่านไปได้ห้านาที โล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องลองเสื้อผ้า เธอส่งเสื้อผ้าให้พนักงานขายไปด้วยพลางพูดกับซูยุ่นและเหซิงถิงว่า“ไปกันเถอะ”
เหซิงถิงเอาเสื้อผ้ามาจากมือของพนักงานแล้วกล่าวว่า“เฟยเอ๋อ เสื้อสวยมากเลย ซื้อเถอะค่ะ”
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว ห้องแต่งตัวที่บ้านมีเสื้อผ้าใหม่ๆเยอะแล้ว เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อเสื้อผ้าอีก
ซูยุ่นมองเหซิงโม่ที่กำลังเดินมาทางพวกเธอแวบหนึ่ง แล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า “พี่สะใภ้ เสื้อตัวนี้ฉันมอบให้พี่นะ”
พูดจบ เธอไม่รอการตอบสนองจากโล่เฟยเอ๋อ แล้วพูดกับพนักงานสาวว่า “รบกวนเอาเสื้อผ้าใส่ถุงหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“ฉันซื้อเองจะดีกว่าค่ะ”โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจ เอากระเป๋าเงินออกจากกระเป๋าถือ จากนั้นก็เอาบัตรวีไอพีหนึ่งใบออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วยื่นให้พนักงานสาว
ใช่ เป็นซูซีมู่ที่ให้บัตรวีไอพีใบนี้แก่เธอ
โล่เฟยเอ๋อไม่คิดว่าราคาเสื้อผ้าตัวนี้จะใช้บัตรเงินเดือนของเธอจ่ายไหว และไม่อยากให้ซูยุ่นเสียเงินซื้อให้เธอด้วย จึงได้แต่เอาบัตรที่ดำที่ซูซีมู่ให้ออกมา
“โอ้โห พี่ชายเอาบัตรใบนี้ให้พี่สะใภ้หรอค่ะ?”เห็นบัตรวีไอพีในมือของโล่เฟยเอ๋อ ซูยุ่นรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
โล่เฟยเอ๋อถามอย่างสงสัยว่า“อืม เขาเป็นคนให้ฉัน มีอะไรหรือค่ะ?”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อถาม ซูยุ่นรู้สึกว่าตัวเองตกตะลึงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
พี่สะใภ้เป็นภรรยาของพี่ชาย พี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ก็ต้องเอาบัตรสำรองของเขาให้พี่สะใภ้อยู่แล้ว
“ไม่มีอะไรค่ะ คิกคิก……”
ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อยังอยากจะถามซูยุ่นต่อ แต่พนักงานสาวได้ให้เธอป้อนรหัสบัตร เธอจึงได้เลิกถามซูยุ่น
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อซื้อเสื้อตัวนี้ ก็ได้อยู่ช้อปปิ้งเป็นเพื่อนกับเหซิงถิงและซูยุ่นอีกสองชั่วโมง แล้วค่อยกลับไป