บทที่ 201 คุณชาย คุณนายน้อยตามหาคุณ
วันที่ 5 เดือน 5 อยู่ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน บนถนนมีรถเยอะเกินไป
เดิมทีจากบ้านเหซิงมาคฤหาสน์บ้านซูระยะทางแค่หนึ่งชั่วโมง แต่นี่ใช้เวลาไปแล้วสองชั่วโมง
หลังจากรถจอดสนิทที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์บ้านซู ซูซีมู่ก็รีบดับเครื่องยนต์ทันทีแล้วลงจากรถ โดยไม่รอให้ผู้คุ้มกันที่รีบเข้ามาเปิดประตูให้ เขาล้อมไปที่ประตูข้างคนขับ แล้วยื่นมือไปเปิดประตู จากนั้นเตรียมที่จะดึงโล่เฟยเอ๋อลงจากรถ
ทันใดนั้นมือของซูซีมู่ก็หยุดกลางคัน สายตาก็หยุดอยู่ตรงนั้น
พอเห็นท่าทางของซูซีมู่แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกแปลกใจ
เขาจะทำอะไร? ดึงตนเองออกจากรถ? แล้วทำไมเขาไม่ขยับล่ะ?
ความสงสัยแวบผ่านดวงตาของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นถามเสียงเบาว่า “คุณ…จะให้ฉันลงจากรถใช่ไหม?”
พอได้ยินโล่เฟยเอ๋อถาม ซูซีมู่ก็หันมามองเธอแวบหนึ่ง หลังจากนั้นหันกลับไปมองที่ข้อมือขวาของโล่เฟยเอ๋อใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ที่ข้อมือมีรอยนิ้วมือเด่นชัดอยู่สองสามรอย…เป็นเขาที่เพิ่งจะบีบเอง
เขาพยายามที่จะรักและปกป้องเธอมาโดยตลอด ผลกลับเป็นเขาเองที่ทำให้เธอบาดเจ็บ…
ซูซีมู่รีบหดมือกลับไป จากนั้นหมุนตัวจากไปโดยได้กลับเข้าไปในคฤหาสน์
เข้าตรงไปที่หน้าบ้าน แล้วสั่งให้คนไปตามหมอประจำบ้านซู หลังจากนั้นก็สั่งให้คนรับใช้ไปเตรียมอาหารเช้าให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าซูซีมู่ทำเรื่องเหล่านี้ เธอคิดว่าซูซีมู่ตามเธอกลับมาเพราะมีเรื่อง เลยตรงไปที่บ้านของซูซีมู่
กลับคิดไม่ถึงว่า ซูซีมู่จะไม่อยู่ในบ้าน
เธอทำได้แค่นั่งลงบนโซฟาอย่างเชื่อฟัง
ผ่านไปแล้วสิบกว่านาที คนรับใช้ก็พาหมอเฉิงเข้ามา
หมอเฉิงมาได้อย่างไร? โล่เฟยเอ๋อนิ่งไปสักพัก หลังจากนั้นก็หันไปทักทาย “หมอเฉิง”
“สวัสดีครับคุณนาย” หมอเฉิงทักทายอย่างมีมารยาท
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วถาม “หมอเฉิงมาที่นี่ได้อย่างไร?”
“คุณนาย ประธานซูให้ผมมา” หมอเฉิงตอบ
ซูซีมู่ให้เขามาทำอะไร? หรือเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว?
ถึงโล่เฟยเอ๋อจะมีความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่พยักหน้าแล้วตอบ ‘อ้อ’
แต่คิดไม่ถึงว่าหมอเฉิงจะนำกล่องยาวางไว้บนโต๊ะน้ำชาแล้วเปิดกล่องยา หยิบอุปกรณ์ตรวจสอบจากด้านในและพูดกับโล่เฟยเอ๋อว่า: “คุณนายน้อย รบกวนยื่นมือออกมา ให้ผมตรวจคุณสักหน่อย”
ให้เธอยืนมือไปตรวจ? โล่เฟยเอ๋อรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก “หมอเฉิง คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันไม่ได้ป่วย” แต่หมอเฉิงตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณนาย ประธานซูบอกว่ามือของคุณได้รับบาดเจ็บแล้ว เลยเรียกผมมาตรวจให้คุณ”
ซูซีมู่บอกว่ามือเธอได้รับบาดเจ็บแล้ว? ตอนแรกโล่เฟยเอ๋อคิดว่าหมอเฉิงล้อเธอเล่น
แต่หมอเฉิงหน้าตาจริงจัง ไม่มีท่าทางล้อเล่นเลย
หรือว่าซูซีมู่จะเป็นคนบอกจริง ๆ ?
แล้วก็นึกถึงตอนที่อยู่ในรถ ดูเหมือนซูซีมู่จะจ้องมาที่มือขวาของเธอ…
โล่เฟยเอ๋อก้มหน้ามองข้อมือขวาของตน ด้านบนมีรอยแดงช้ำด้วยนิ้วมือสองสามจุด
หรือพูดได้ว่า ที่ซูซีมู่ให้หมอเฉิงมาตรวจมือของเธอ ก็คือตรวจรอยช้ำบนข้อมือไม่กี่รอยของเธอ?
โล่เฟยเอ๋อกระพริบตา หลังจากนั้นเงยหน้ามองหมอเฉิง “หมอเฉิง มือของฉันไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องตรวจจริง ๆ”
“คุณนาย คุณให้ผมตรวจสักหน่อยเถอะ” หมอเฉิงพยายามโน้มน้าวพูดปากเปียกปากแฉะด้วยความหวังดี
โล่เฟยเอ๋อส่ายหัวปฏิเสธ “หมอเฉิง บนมือของฉันมีรอยแดงแค่ไม่กี่รอย ไม่จำเป็นต้องตรวจจริง ๆ”
“คุณนาย คุณให้ผมลองตรวจดูเถอะ” หมอเฉิงคิดว่าไม่ว่าจะเป็นรอยแดงหรือไม่ ตรวจดูให้เห็นกับตาน่าจะดีกว่า
โล่เฟยเอ๋อไม่อยากส่งมือให้หมอเฉิงตรวจ เพราะรอยนิ้วบนข้อมือชัดเจนเกินไปแล้ว “ไม่ต้องตรวจจริง ๆ ค่ะ ก็แค่รอยแดง ผ่านไปสองวันก็หายแล้ว”
หมอเฉิงเห็นโล่เฟยเอ๋อยืนกรานไม่ยอมตรวจ จึงทำได้เพียงหยิบยาในกล่องออกมาแล้วส่งให้โล่เฟยเอ๋อ “คุณนายน้อย ยานี่จะช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการบวมได้ดี คุณทาบนรอยแดงวันละสามครั้ง พรุ่งนี้รอยแดงก็จะหายไป ”
“อืม ได้ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วรับยาจากมือของหมอเฉิงไป
โล่เฟยเอ๋อยืนยันที่จะไม่ตรวจ ยาก็ส่งให้โล่เฟยเอ๋อแล้ว หมอเฉิงจึงไม่อยู่นาน เก็บกล่องยาและออกไปด้วยกันกับคนรับใช้
โล่เหยเอ๋อมองรอยแดงบนข้อมือขวาแวบหนึ่ง แล้วมองยาที่อยู่ในมือซ้ายแวบหนึ่ง รู้สึกว่าสมองบางส่วนของตนเองใช้การไม่ได้
ไม่ใช่ว่าซูซีมู่โกรธจนเดินไปแล้วเหรอ? ทำไมเขาถึงสนใจรอยนิ้วมือบนข้อมือของเธอได้ แล้วยังจัดเตรียมหมอเฉิงมาตรวจให้เธอ?
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อกำลังถลำลึกในอารมณ์และความคิด ก็มีคนรับใช้คนหนึ่งเข้ามา
“คุณนายน้อยคะ อาหารเช้าของคุณเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
อาหารเช้าของเธอเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว?
ในบ้านซูนอกจากซูซีมู่แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังไม่ได้ทานอาหารเช้า…พูดได้ว่าอาหารเช้านี้ซูซีมู่เป็นคนจัดการ…
หมอเฉิงก็เป็นซูซีมู่จัดการให้…
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาทันทีว่าตอนเช้าซูซีมู่ไม่ได้จากไปเพราะโกรธ แต่อาจจะเป็นเพราะรอยนิ้วมือบนข้อมือของตนเอง
โล่เฟยเอ๋อกัดปากแล้วถาม “เขาล่ะ?”
คนรับใช้ไม่เข้าใจว่า ‘เขา’ ที่โล่เฟยเอ๋อถามถึงนั้นคือใคร “คุณนาย คุณถามถึงใครคะ?”
“คุณชายของพวกเธอ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
“คุณชายเขาอยู่ที่หน้าบ้าน” คนรับใช้ตอบตามตรง
โล่เฟยเอ๋อลังเลอยู่สักพักแล้วเอ่ย: “เธอไป…เรียกเขามา”
“ค่ะ” คนรับใช้พยักหน้าแล้วจากไป
พอหมอเฉิงออกมาจากบ้านของโล่เฟยเอ๋อแล้ว ก็ถูกคนรับพาไปหาซูซีมู่ที่นั่น
“มือของเธอเป็นอย่างไรบ้าง?” ซูซีมู่ถามอย่างเร่งรีบ
หมอเฉิงไม่กล้าปิดบังซูซีมู่ จึงตอบตามตรง “คุณนายไม่ยอมให้ผมดูมือ”
พอได้ยินคำพูดของหมอเฉิง สีหน้าของซูซีมู่ก็มืดครึ้มขึ้นมาทันที “ไม่ให้นายดู นายก็ไม่ดูเหรอ?”
หมอเฉิงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ๆ คนหนึ่งไม่ให้ดู อีกคนก็จะให้ดูให้ได้ สามีภรรยาคู่นี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ได้เหรอ?
“คุณนายบอกมีแค่รอยแดง ไม่จำเป็นต้องดู”
ซูซีมู่อึ้งไปสักพักแล้วถาม “เธอบอกว่าเป็นรอยแดง?”
“ใช่ครับ” หมอเฉิงพยักหน้าแล้วเอ่ยอีกว่า: “ผมให้ยากระปุกหนึ่งกับคุณนายแล้ว ทาสองวัน รอยแดงก็จะหายไป”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เพียงโบกมือแสดงความหมายให้หมอเฉิงออกไป
หมอเฉิงโค้งตัวทำความเคารพซูซีมู่อย่างมีมารยาท
ในห้องคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ซูซีมู่ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ คนรับใช้คนหนึ่งก็รีบเข้ามา “คุณชาย คุณนายน้อยให้มาตามคุณ”
ทำไมตอนซูซีมู่ได้ยินประโยคนี้ ยังคิดว่าตนเองเกิดภาพหลอนไปแล้ว
เฟยเอ๋อให้เขาไปหา?
ซูซีมู่หันหน้ามาช้า ๆ แล้วมองคนรับใช้ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“คุณนายน้อยให้มาตามคุณ” คนรับใช้ทวนคำสั่งของตนเองอีกรอบ
ซูซีมู่ฟังคำพูดของคนรับใช้โดยไม่พลาดสักคำและยังทวนในหัวอีกสองรอบ พอแน่ใจว่าเขาไม่ได้ฟังผิด เฟยเอ๋อตามหาเขา
“ได้” ซูซีมู่ยังพูดเสียงดังอีกว่า ‘ดี’ แล้วรีบเดินไปที่บ้านของเขา