บทที่ 204 เธอกลัวเขา
เจอเรื่องติด ๆ กันในตอนกลางวัน เลยทำให้โล่เฟยเอ๋อลืมเรื่องก่อนหน้าที่เธอกับซูซีมู่นอนด้วยกันบนเตียงไป
เธอจำไม่ได้จนกระทั่งถึงตอนเย็น เมื่อเธอทานข้าวเสร็จจากหน้าบ้านแล้วจะกลับไปพักผ่อนที่ห้อง เธอถึงเพิ่งนึกได้
โล่เฟยเอ๋ออาบน้ำตามปกติ เป่าผมให้แห้ง แล้วสวมชุดนอนนั่งไขว่ขาอยู่บนเตียงแล้วมองดูโทรศัพท์มือถือ
ทันใดนั้นประตูห้องนอนก็เปิดออกแล้วซูซีมู่ก็เข้ามาพร้อมกับแก้ว
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก ก่อนจะรู้สึกตัวว่า ตอนนี้ซูซีมู่กับเธออยู่ด้วยกันที่คฤหาสน์ซู
แต่เรื่องแบบนั้นที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเมื่อสองวันก่อน…ซูซีมู่ยังคิดที่จะนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอ?
ในสมองของโล่เฟยเอ๋อเต็มไปด้วยความสงสัย ซูซีมู่ถือแก้วเดินมาหาเธอ
เขามาแล้วจริง ๆ หรือจะบอกว่าเขาไม่สนใจเรื่องก่อนหน้านั้นระหว่างพวกเขา?
หัวใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นอย่างรุนแรงและเธอจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ในมือของเธอโดยไม่กล้าขยับ
เธอได้ยินซูซีมู่วางแก้วลงบนโต๊ะ ตามด้วยเสียงเสียดสีเบาๆ จากนั้นที่ข้าง ๆ เธอก็ทรุดลง
เขานั่งทำอะไรอยู่ข้างเธอ? ปลายนิ้วที่กดโทรศัพท์อยู่โล่เฟยเอ๋อสั่นไม่หยุด
หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาของซูซีดังขึ้น “ยื่นมือออกมา”
ยื่มมือออกไปทำไม? โล่เฟยเอ๋อหันหน้าไปมองซูซีมู่โดยไม่รู้ตัวและเห็นว่าในมือซูซีมู่ถือยาและสำลีอยู่
ที่แท้ซูซีมู่ก็จะทายาที่มือให้ที่ข้อมือของเธอ! โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจเบา ๆ หลังจากนั้นยื่นมือขวาออกไปตรงหน้าซูซีมู่
ซูซีมู่ไม่รู้ความคิดของเธอ หลังจากทายาให้เธอเสร็จก็ลุกขึ้นจากเตียง
โล่เฟยเอ๋อเห็นเขาลุกขึ้นก็รีบบอกขอบคุณ “ขอบคุณ”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากวางยาไว้บนโต๊ะก็หมุนตัวเดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ
พอล้างมือเสร็จ เขาก็เดินตรงมาที่ตู้เสื้อผ้าแล้วโอบชุดเครื่องนอนออกมา
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะกำลังมองไปที่บนมือถือ แต่ความสนใจทั้งหมดของเธออยู่ที่ซูซีมู่
พอเห็นเขาโอบชุดเครื่องนอนออกมาจากตู้ เธอก็กระพริบตาโดยไม่พูดอะไร
ซูซีมู่วางผ้าห่มไว้ข้างเตียงและหยิบหมอนอีกใบออกมาจากตู้แล้ววางไว้บนผ้านวม
หลังจากเดินมาด้านหน้าโต๊ะ เขาก็หยิบแก้วที่วางก่อนหน้านี้ขึ้นมา แล้วเดินไปข้างหน้าโล่เฟยเอ๋อ “นี่นมของเธอ”
ทีแรกเธอก็นึกว่าเขาจะดื่มเอง ที่แท้เอามาให้เธอนี่เอง…
“ขอบคุณ” โล่เฟยเอ๋อวางโทรศัพท์มือถือในมือ แล้วรับแก้วจากมือของซูซีมู่
ซูซีมู่ตอบ ‘อืม’ เบา ๅ หลังจากนันตอบ: “พรุ่งนี้ลู่ยู่ชวนกินข้าว เลยอยากถามว่าเธอมีเวลาไปด้วยกันไหม”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก แล้วถาม “ลู่ยู่ชวนกินข้าว?”
“เขากลับมาเมือง A พรุ่งนี้” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อตอบเพียง ‘อ้อ’ แล้วพูดอีกคำว่า ‘ได้’
“อืม ฉันจะช่วยตอบกลับเอง” พอพูดประโยคนี้เสร็จ ซูซีมู่ก็โอบชุดเครื่องนอนและหมอนที่วางด้วยกันเป็นชั้น ๆ ขึ้นมาแล้วออกจากห้องนอกไป
โล่เฟยเอ๋อไม่คาดคิดว่าเขาจะทำแบบนี้อย่างกะทันหัน เดิมที่เธอคิดว่าเขาจะนอนด้วยกันกับเธอบนเตียงโดยแยกชุดเครื่องนอนกัน
ที่แท้เขาก็ไม่คิดที่จะนอนกับเธอตั้งแต่แรก
หัวใจของโล่เฟยเอ๋อเต็มไปด้วยความอ้างว้างแล้วน้ำตาก็ไหลลงมา
เพราะกลัวว่าซูซีมู่จะเห็น เธอจึงรีบก้มหน้าแล้วแกล้งทำเป็นดื่มนมอย่างรวดเร็ว
น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม หยดแล้วหยดเล่าไหลลงแก้ว หลังจากนั้นก็กลืนลงคอไปพร้อมนม…
ซูซีมู่เดินไปที่ประตูห้องโดยถือชุดเครื่องนอนแล้วหยุดกะทันหันราวกับนึกอะไรได้
“อย่าดูโทรศัพท์ดึกเกินไปล่ะ รีบพักผ่อน” หลังจากพูดประโยคนี้จบ เขาก็เดินออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็วและปิดประตูราวกับกลัวว่าถ้าไม่รีบไปจะไม่ได้ออกไปอีก
ด้วยเสียงประตูดังปัง โล่เฟยเอ๋อก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยน้ำตาแล้วจ้องไปที่ประตูห้องนอนจากนั้นก้มศีรษะลงเพื่อดื่มนมในแก้วให้เสร็จ
เมื่อวางแก้วลงบนโต๊ะข้างเตียงแล้ว จึงเอื้อมมือปิดไฟก่อนจะเอนตัวลงนอน
เธอไม่ได้หลับ แต่นอนอยู่บนเตียงและร้องไห้อย่างเงียบ ๆ พอร้องไห้จนเหนื่อย ก็หลับไป…
ซูซีมู่ที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างเงียบ ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอยากนอนเลย
ที่จริงแล้วในตอนที่เขาเข้าไปในห้องนอนก็สังเกตเห็นแล้วว่าโล่เฟยเอ๋อตื่นเต้นมาก แม้แต่ตอนที่เขานั่งลงข้าง ๆ เธอก็ยังสั่นไม่หยุด
เธอกลัวเขาเหรอ?
กลัวว่าเขาจะทำกับเธออีก…
ซูซีมู่รู้สึกว่าหน้าอกของเขาฉีกขาดและเจ็บปวดอย่างรุนแรง
เขาดันทุรังทาครีมบนข้อมือของโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นอาศัยข้ออ้างวิ่งเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ หลังจากที่เขาสงบลงในห้องน้ำเขาก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรออกมาแล้วออกมาพูดเรื่องที่ลู่ยู่ชวนกินข้าวให้เธอฟัง แล้วอุ้มผ้าห่มออกจากห้องไป
ที่จริงเขายังอยากบอกเธออย่ากลัวเขา เขาจะไม่แตะต้องเธออีก
แต่เขาไม่พูดไม่ได้ว่า เธออยากแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไร เขาเลยจำเป็นต้องร่วมมือกับเธอ
ร่วมมือ…
ในดวงตาของซูซีมู่มีความลึกที่มองไม่เห็นและเต็มไปด้วยความเจ็บปวดลึก ๆ
แสงไฟเพียงดวงเดียวบนโคมไฟติดผนังในห้องรับแขกสะท้อนให้เห็นเงาของเขาและเงาเขานั้นเผยให้เห็นความเจ็บปวดและความโศกเศร้า…
เช้าวันที่สองโล่เฟยเอ๋อตื่นค่อนข้างสาย ตอนเธอออกจากห้อง ซูซีมู่นั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์อยู่ที่ตำแหน่งเดิมเหมือนเมื่อวาน บนโต๊ะน้ำชามีกองเอกสารจำนวนมาก
พอเห็นโล่เฟยเอ๋อออกมา เขาก็หยุดพิมพ์คอมพิวเตอร์ “ตื่นแล้ว?”
“อืม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า เดินไปนั่งลงที่โซฟาอีกตัว
ซูซีมู่ก้มหน้าลงพิมพ์ไปไม่กี่คำแล้วเอ่ย: ”ถ้าหิวก็สั่งให้คนรับใช้เตรียมอาหารเช้าให้เธอ”
โล่เฟยเอ๋อตะลึงไปสักพักหลังจากนั้นพยักหน้า “อืม รู้แล้ว”
ซูซีมู่เพียงแค่ ‘อืม’ ไม่ได้เงยหน้า
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ส่งเสียงอะไรอีกและก็ไม่ได้ลุกไปสั่งให้คนรับใช้เตรียมอาหารเช้าให้เธอ แต่นั่งบนโซฟาอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปสักพัก เธอจึงเริ่มเอ่ยปาก: “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“หืม?” ซูซีมู่เงยหน้ามองโล่เฟยเอ๋อ “ พรุ่งนี้วันที่ 7 เดือน 1 ฉันก็ต้องเริ่มทำงานแล้ว จะกลับเลยไหม?”
เห็นได้ชัดว่าเธอชอบที่นี่ แต่ที่อยากกลับไป ความจริงแล้วเพราะกลัวเขาสินะ
ซูซีมู่เก็บซ่อนแววตาและพยักหน้า “กลับเย็นนี้”
พอได้ยินว่ากลับเย็นนี้ โล่เฟยเอ๋อก็ถอนหายใจเงียบ ๆ เธอก็กังวลจริงๆว่าซูซีมู่จะวางแผนอยู่คฤหาสน์บ้านซู่นี้ต่อ
เธอชอบที่นี่มากจริงๆ แต่ถ้าซูซีมู่นอนที่โซฟาในห้องรับแขกเป็นเวลานานคงไม่ดี
โล่เฟยเอ๋อยิ้มตาหยีแล้วบอกแค่หนึ่งคำ ‘ดี’
ดวงตาของซูซีมู่มีความเจ็บปวดเล็กน้อยเพราะถูกรอยยิ้มของโล่เฟยเอ๋อทิ่มแทง เขามองแวบหนึ่งแล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ลู่ยู่ชวนกินข้าวตอนเย็น พอกินเสร็จแล้ว พวกเราค่อยกลีบไป ถ้าเธอมีของอะไรต้องเก็บ พอเก็บเสร็จแล้วก็วางในรถ”
“ได้” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
เมื่อเธอหันไป สายตาของซูซีมู่ก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ้องมองแผ่นหลังของเธอที่เดินออกจากห้องไป เขาถึงได้เก็บสายตากลับไป.