บทที่209 โจวหยุนไม่ยอมรับผิดแถมใส่ร้ายคนอื่น
สีหน้าของโจวหยุนยังไม่เปลี่ยนแปลง เธอพูดเบาๆ: “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ? ทำไมฉันจำไม่ได้แล้ว?”
ได้ยินโจวหยุนพูดว่าจำไม่ได้ โล่เฟยเอ๋อกล่าวอย่างรวดเร็ว “นักออกแบบหยุน คุณทำไมจำไม่ได้แล้วเหรอคะ? ปีที่แล้วคุณให้งานฉันทุกวัน ให้วาดภาพออกแบบเหล่านี้ ซึ่งผู้ช่วยของคุณก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน”
โจวหยุนไม่สนใจคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ แค่หันไปถามผู้ช่วยข้างหลังเธอ “คุณเคยเห็นฉันมอบหมายงานให้เธอไหม?”
ผู้ช่วยส่วนตัวอยู่กับโจวหยุนมานานแล้ว รู้ว่าควรทำอะไรบ้างตามสัญชาตญาณ
เธอแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้อะไรและพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นพี่โจวหยุนมอบหมายงานวาดภาพออกแบบให้คุณเลยนะ คุณเป็นแค่ผู้ช่วยนักออกแบบ คุณคิดว่าคุณเป็นนักออกแบบอย่างเป็นทางการแล้วหรอ?”
พูดถึงจุดนี้ ถ้าโล่เฟยเอ๋อยังไม่เข้าใจ ช่างเป็นคนโง่จริงๆแล้ว
เธอถูกโจวหยุนหลอก โจวหยุนไม่ใช่มอบหมายงานให้เธอ เพียงแต่หลอกเอาภาพออกแบบของเธอ
“ในฐานะนักออกแบบ คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง?” โล่เฟยเอ๋อตัวสั่นและชี้ไปที่โจวหยุน
โล่เฟยเอ๋อรู้แล้ว โจวหยุนก็ไม่เสแสร้งแล้ว เธอเอามือกอดอก แล้วหันไปทางโล่เฟยเอ๋อด้วยท่าทีดูถูกเหยียดหยาม “ทำไมถึงทำอย่างนี้งั้นเหรอ? ก็เพราะโล่เฟยเอ๋อเธอไม่ใช่อะไรทั้งนั้น และฉันโจวหยุนมีความสามารถ มีฝีมือเก่งจริงไงล่ะ”
ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อเปลี่ยนไป กล่าวว่า “นักออกแบบโจว ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทำสำเร็จแน่”
ได้ยินคำพูดจากโล่เฟยเอ๋อ ใบหน้าของโจวหยุนกลายเป็นสีหน้าโหดร้าย “ฉันขอบอกไว้ก่อนนะ โล่เฟยเอ๋อ คุณวาดภาพออกแบบตามที่ฉันพูดดีกว่า ไม่อย่างนั้น ฉันให้คุณเจอดีแน่”
โล่เฟยเอ๋อโกรธมากจริงๆ เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความแค้นนี้ได้ เธอไม่ยอมแล้วพูดว่า “นั้นฉันจะคอยดูว่านักออกแบบโจวจะทำอะไรฉัน”
โจวหยุนคาดไม่ถึงว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่เกรงกลัวต่อคำคุกคามของเธอ แต่ตอนนี้คงเอาเธอไม่ลงแล้ว
“นั้นก็เอาสิ เรามาดูกันว่า ใครจะเชื่อที่เธอพูดบ้าง”
ดวงตาของโจวหยุนดูดุร้าย พูดดีๆกับคุณแต่คุณไม่ฟัง นั้นก็อย่าโทษฉันที่ทำให้คุณไม่สามารถอยู่ในโลกของนักออกแบบได้อีกต่อไปก็แล้วกัน
ใช่แล้วล่ะ โจวหยุนจะทำให้เรื่องมันใหญ่
ถึงแม้ภาพออกแบบนั้นเป็นโล่เฟยเอ๋อวาดก็ตาม แต่ภาพออกแบบนั้นอยู่ในมือของเธอแล้ว โล่เฟยเอ๋อพูดโดยไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้เลย
อีกอย่าง ตำแหน่งของโจวหยุนในบริษัทนี้
เธอเชื่อว่าตั้งแต่พนักงานจนถึงระดับข้างบนสุด ทุกคนรู้ว่าควรจะเชื่อใจใคร
ดังนั้นโจวหยุนจึงมั่นใจมาก ว่าตัวเองจะชนะ
ต้องบอกว่า โจวหยุนเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปแล้ว จะเป็นเหตุที่ทำให้เธอพ่ายแพ้อย่างน่าเศร้ามาก
ปกติโล่เฟยเอ๋อจะเป็นคนพูดง่าย แต่เมื่อคุณไปเหยียบโดนสิ่งที่เธอให้ความสำคัญนั้น โล่เฟยเอ๋อจะกลายเป็นคนไร้ความปรานี โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ สิ่งที่โจวหยุนไปโดนนั้นเป็นถึงความฝันของโล่เฟยเอ๋อด้วย
ถึงแม้ซูซีมู่จะนอนดึก แต่เขามีประชุมสำคัญตอนสิบโมงเช้านี้ ดังนั้นเก้าโมงยังไม่ถึง เขาก็ลุกจากเตียงแล้ว
หลังจากอาบน้ำล้างตัวเสร็จ เขาออกมาจากห้องพร้อมกับสวมเนกไท เมื่อเดินผ่านห้องของโล่เฟยเอ๋อ เลยได้ยินคนรับใช้พึมพำในห้องของโล่เฟยเอ๋อ
“นี่มือถือของคุณนายน้อยไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงวางไว้ที่นี่?”
ตอนแรกซูซีมู่ก็ไม่สนใจอะไร แต่ได้ยินคนรับใช้พูดว่าเป็นมือถือของโล่เฟยเอ๋อ เขาก็หยุดเดินทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
คนรับใช้ถึงกับผงะก่อน แล้วตอบว่า “ คุณชาย มือถือของคุณนายน้อยลืมไว้บนราวระเบียงค่ะ”
บนราวระเบียง? ซูซีมู่มองไปทางระเบียง
เธอออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่? ทำไมถึงลืมมือถือไว้ที่ระเบียงล่ะ?
ซูซีมู่หยุดชั่วขณะ จากนั้นเดินไป รับมือถือจากคนรับใช้
ตอนแรกกะว่าจะเปิดเพื่อดูว่ามีเบอร์โทรของบริษัทที่โล่เฟยเอ๋ออยู่ไหม เขาเปิดโทรศัพท์ เลยเห็นหน้าweiboที่ยังแก้ไขไม่สำเร็จ
เวลาตอนนั้นแค่สามทุ่มกว่า ๆ……
สามทุ่มกว่าๆ เธอเล่นโทรศัพท์ที่ระเบียง?
ซูซีมู่จำอะไรบางอย่างได้ เมื่อเวลาสามทุ่มตอนที่เขากลับมา โล่เฟยเอ๋อวิ่งลงไปชั้นล่าง
ตอนนั้นโล่เฟยเอ๋อกล่าวว่าเธอกระหายน้ำ จึงลงไปเอาน้ำ ตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอไม่ใช่กระหายน้ำ เธอเห็นจากตรงระเบียงว่าเขากลับมาแล้ว ก็เลยวิ่งลงไปโดยเฉพาะ
มากไปกว่านั้น เธอรู้ว่าเขาไม่อยู่ เลยรอให้เขากลับมา……
การค้นพบนี้ทำให้ใส่ของซูซีมู่มีความรู้สึกมากมายในใจ เซอร์ไพรส์ มีความสุข แต่ก็สงสารด้วย……
ในเวลานี้ มือถือของโล่เฟยเอ๋อก็ดังขึ้น
ซูซีมู่เหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงชื่อเรือนหลิง สักพัก เขากดปุ่มรับสาย
รับสายแล้วฟัง เสียงของเรือนหลิงดังมา
“ เฟยเอ๋อ ฉันมีเรื่องหนึ่งจะคุยกับเธอ ภาพออกแบบทั้งหมดของคุณถูกโจวหยุนขโมยไป เธอยังหลอกเอาภาพออกแบบของเธอและได้รับการยอมรับจากบริษัทด้วย……”
ซูซีมู่ไม่รอเรือนหลิงพูดจบ ขัดจังหวะเธอ “เฟยเอ๋อไปบริษัทแล้ว”
เสียงของเรือนหลิงหยุดลง ถามหลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที “คุณคือ?”
“ผมคือคนที่อยู่กับเฟยเอ๋อในเมื่อคืน ”ซูซีมู่ตอบด้วยน้ำเสียงปกติ
เรือนหลิงรีบพูดทักทายอย่างมีมารยาท “สวัสดีค่ะ”
ซูซีมู่ไม่ตอบคำทักทายของเธอ แค่ถาม “เกี่ยวกับเรื่องที่ภาพออกแบบของเฟยเอ๋อถูกขโมยไปมันเกิดอะไรขึ้น?”
“ก็เพราะว่าโจวหยุนเห็นพรสวรรค์ด้านการออกแบบของเฟยเอ๋อ……”เรือนหลิงพูดคุยเกี่ยวกับสาเหตุและผลที่ตามมาให้ซูซีมู่ฟัง
ซูซีมู่ยิ่งฟังสีหน้ายิ่งโกรธ
หลังเรือนหลิงพูดจบ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณไปหาเฟยเอ๋อตอนนี้ก่อน อย่าให้เธอถูกคนอื่นรังแก เดี๋ยวผมจะรีบมาทันที”
เรือนหลิงเห็นด้วยโดยคิดก็ไม่ต้องคิดเลย “โอเคค่ะ”
หลังจากเรือนหลิงวางสาย แล้วออกจากโชว์รูมขายของ เตรียมไปหาโล่เฟยเอ๋อที่ห้องออฟฟิศของโล่เฟยเอ๋อ
เธอเพิ่งวิ่งไปที่บริเวณที่ทำงาน ก็ได้ยินคนที่นั่นกำลังนินทากัน ภายในแผนกออกแบบเกิดเรื่องปะทุกันใหญ่เลย
ได้ยินคำว่าเกิดเรื่องปะทุกันในห้องออกแบบ เรือนหลิงก็คิดว่ามันเป็นโล่เฟยเอ๋อโดยไม่รู้ตัว เธอรีบวิ่งไปที่แผนกออกแบบ
ทันทีที่เธอไป เห็นโล่เฟยเอ๋อและโจวหยุนกำลังเผชิญหน้ากัน มีพนักงานออกแบบจำนวนมากยืนล้อมรอบๆกำลังคุยกันเรื่องพวกเธอสองคน
เรือนหลิงกำลังเตรียมพร้อมที่จะไปยืนข้างๆโล่เฟยเอ๋อ แต่มีคนตะโกนอยู่ตรงนั้นว่า “ผู้จัดการมาแล้ว”
ผู้จัดการมาแล้ว ไม่แน่เรื่องของเฟยเอ๋ออาจจะจัดการแก้ไขได้
เรือนหลิงคิดเช่นนี้ จึงไม่ได้ไปข้างๆโล่เฟยเอ๋อ แต่เบียดในฝูงชน แล้วมองดูเงียบๆ
“นี่แค่มาทำงานวันแรก พวกคุณทะเลาะอะไรกัน?” สีหน้าผู้จัดการดูไม่ดีเลย ทันทีที่เขาเข้ามาเขาตะโกนใส่โล่เฟยเอ๋อและโจวหยุน
โจวหยุนเป็นผู้ร้ายฟ้องก่อน ชี้โล่เฟยเอ๋อแล้วพูดว่า “ผู้จัดการคะ ไม่ใช่ว่าฉันอยากทะเลาะนะคะ แต่เธอเป็นคนหาเรื่องก่อนค่ะ”
“ฉันไม่ได้หาเรื่อง ฉันแค่ต้องการให้นักออกแบบโจวเอาภาพออกแบบที่ขโมยไปมาคืนให้ฉัน” โล่เฟยเอ๋อตอบโต้ด้วยใบหน้าซีดเซียว
โจวหยุนกล่าวด้วยท่าทีเหมือนถูกรังแก“ผู้จัดการ คุณดูสิ เธอใส่ร้ายฉันว่าขโมยภาพออกแบบของเธอ……”
“ฉันไม่ได้ใส่ร้าย……”โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่จบ ผู้จัดการก็พูดแทรกเธอ “พอแล้ว อย่าทะเลาะกันอีกเลย”
โล่เฟยเอ๋อเลยเงียบ ไม่พูดต่อ
เห็นโล่เฟยเอ๋อเป็นแบบนี้ หางตาของโจวหยุนดูยิ้มเล็กน้อย