บทที่ 216 ขอโทษนะ ซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อได้พักในห้องตั้งแต่เช้า จนเที่ยงถึงลงมารับประทานอาหารเที่ยงที่ชั้นล่างตึก
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ เธอก็ไม่ได้ขึ้นไปบนตึก แต่เธอได้นั่งดูโทรทัศน์บนโซฟาที่ห้องรับแขก
ผ่านไปไม่นาน โทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ได้ดังขึ้น
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้คิดอะไรมาก เลยเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์
ยังยกไม่ทันถึงหู ในโทรศัพท์ก็มีเสียงจากคนฝั่งนั้นพูดขึ้นว่า”เตรียมสัมภาระให้เรียบร้อย แล้วผมจะกลับไปเอาเดี๋ยวนี้”
เป็นซูซีมู่……โล่เฟยเอ๋อได้หยุดนิ่งในท่าทีที่กำลังยกโทรศัพท์
เตรียมสัมภาระ?เขาจะไปไหน?โล่เฟยเอ๋ออยากจะถาม แต่สุดท้ายแล้วประโยคที่พูดออกจากปากนั้นคือ “เดี๋ยวฉันจะบอกให้คนรับใช้เอง”
ซูซีมู่ไม่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะเป็นคนรับสาย เงียบไปสักพัก จึงจะตอบกลับว่า’อืม’ จากนั้นก็ได้วางสาย
ดูจากแบบนี้แล้วเขาคงโกรธเธอแน่ๆเลย ฟังเสียงที่เขาวางสาย โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกผิด
หลังจากรู้สึกผิดแล้ว โล่เฟยเอ๋อได้ปลอบใจตัวเอง ไม่เป็นไรๆ รอเขากลับมา ค่อยไปขอโทษกับเขาดีๆ เขาคงจะหายโกรธ
คิดแบบนี้แล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ได้วางโทรศัพท์ลง แล้วได้ตะโกนเรียกไปทางห้องครัว
คนรับใช้ในห้องครัวได้ยินโล่เฟยเอ๋อเรียก ก็วิ่งออกมาทันที “คุณนายน้อย คุณมีเรื่องอะไรคะ?”
“เธอไปที่ห้องอ่านหนังสือไปเอาเอกสารบนโต๊ะนั้นลงมา เดี๋ยวเขาจะกลับมาเอา”โล่เฟยเอ๋อได้นำคำพูดของซูซีมู่พูดให้คนรับใช้อย่างเฉยชา
“คะ คุณนายน้อย”คนใช้ได้พยักหน้า แล้วรีบขึ้นไปที่ห้องอ่านหนังสือข้างบนตึก
ซูซีมู่นึกไม่ถึงจริงๆว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่ไปทำงาน เพราะตอนเช้าโล่เฟยเอ๋อยืนหยัดขนาดนั้น
ทำไมจู่ๆเธอก็ตัดสินใจไม่ไปทำงานนะ?
ซูซีมู่ไม่คิดแน่นอนว่าที่เพราะโล่เฟยเอ๋อไม่ไปทำงาน นั่นก็เพราะเธอฟังคำแนะนำของเขา
เพราะตอนเช้าเขาบอกให้โล่เฟยเอ๋อว่าอย่าไปทำงานแล้วเธอโกรธมากด้วย ยังบอกกับเขาว่าอย่าไปยุ่งเรื่องของเธอ
ออกไปทำธุระไม่กี่วันตามแผนเดิมดีกว่า เพื่อที่จะไม่ทำให้เธออารมณ์เสีย
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงของโจวเฉิงได้ออกมาจากฝั่งที่นั่งคนขับ
“ประธานซู ถึงแล้วครับ”
ซูซีมู่ได้หันหน้าไปมองนอกหน้าต่างรถ ถึงวิลล่าแล้วจริงๆด้วย
แต่ตอนนี้เธออยู่บ้าน เขาไม่สะดวกที่จะเข้าไป……
สายตาของเขาได้หยุดไปสักพัก แล้วก็หันมาบอกโจวเฉิงว่า:”คุณเข้าไปเอากระเป๋าเดินทางออกมา”
เขาเข้าไป?โจวเฉิงได้มองซูซีมู่ผ่านกระจกมองหลังอย่างน่าประหลาดใจ
ซูซีมู่ได้ยกเปลือกตาขึ้นและมองอย่างเฉยชา แล้วพูดว่า:”อย่าบอกว่าผมกลับมา”
“ครับ”โจวเฉิงพยักหน้า ดันประตูรถออกแล้วลงจากรถ
คนรับใช้ในวิลล่าได้ยินเสียงรถนานล่ะ และได้เปิดประตู
“คุณโจว”คนรับใช้ทักทายโจวเฉิง
โจวเฉิงได้พูดจุดมุ่งหมายออกมาตรงๆเลยว่า “ประธานซูเรียกผมมาเอากระเป๋าเดินทาง”
โล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่บนโซฟาหลังจากได้ยินเสียงรถที่ดังมาจากข้างนอกแล้ว ถึงแม้ว่าดวงตาของเธอไม่ได้มองไปทางประตู แต่ความสนใจทั้งหมดของเธออยู่ทางประตูทั้งหมดแล้ว
ตอนที่ได้ยินเสียงเดิน เธอคิดว่าเป็นซูซีมู่กลับมาแล้ว ยังรอเขาเข้ามาอย่างตื่นเต้น เธอควรจะพูดยังไงกับเขาดี
สุดท้ายแล้วคนที่เข้ามาไม่ใช่ซูซีมู่ แต่เป็นโจวเฉิง
ทำไมโจวเฉิงเป็นคนมาเอากระเป๋าเดินทาง? ยี่สิบนาทีก่อน ซูซีมู่บอกว่าจะกลับมาเอาเองไม่ใช่หรอ?
“ทำไมถึงเป็นคุณที่มา เขา…..โอ๊ย……”โล่เฟยเอ๋อได้ลุกขึ้นยืนอย่างเร็วจากที่นั่งโซฟา กลับใช้แรงเยอะไปหน่อย ทำให้กระทบกับแผลที่ขา ทำให้เธอเจ็บจนร้องออกมา
เมื่อได้ยินโล่เฟยเอ๋อร้อง คนรับใช้กับโจวเฉิงก็รีบเข้ามา
“คุณนายน้อย คุณยืนทำไมครับ?รีบนั่งเลย”
“ฉันไม่เป็นไร”โล่เฟยเอ๋อได้ดันมือของคนรับใช้ที่มาพยุงเธอออก แล้วถามโจวเฉิงว่า “ซูซีมู่อยู่ที่ไหน?”
“ประธานซูเขาอยู่……”ทีแรกโจวเฉิงจะบอกว่าประธานซูอยู่นอกวิลล่าแล้ว แต่เมื่อนึกถึงว่าซูซีมู่เคยบอกแล้วว่า ห้ามบอกว่าเขากลับมา เลยเปลี่ยนประโยคพูดว่า:”ประธานซูอยู่ที่บริษัทครับ”
“เขาอยู่บริษัทจริงหรอ?แล้วทำไมยี่สิบนาทีก่อน เขาโทรมาบอกว่า เขาจะกลับมาเอากระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้?”โล่เฟยเอ๋อได้ถามโจวเฉิงและมองอย่างไม่กะพริบตา
โจวเฉิงโดนโล่เฟยเอ๋อจ้องจนรู้สึกว่าตัวเองทำผิด”คือว่า……คือว่า…..”
“เขาอยู่ที่ไหน?”โล่เฟยเอ๋อถามไปตรงๆ
โจวเฉิงได้ชี้ไปทางนอกวิลล่าแล้วพูดว่า:”ข้างนอกครับ”
“ฉันจะไปหาเขา”โล่เฟยเอ๋อได้พูด แล้วก็จะเดินออกไปข้างนอก
โจวเฉิงรีบห้ามเธอไว้ “คุณนาย คุณอย่าไปเลย”
โล่เฟยเอ๋อรีบร้อนที่จะไปหาซูซีมู่ สีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย “คุณโจว เชิญคุณถอยไป”
โจวเฉิงได้สัมผัสจมูก แล้วพูดอย่างติดๆขัดๆว่า:”คือว่า……คุณนาย ผมช่วยคุณไปเรียกประธานซูเข้ามาเองครับ…..คุณดูสิขาของคุณยังมีแผลอยู่เลย……”
โล่เฟยเอ๋อมองแผลที่อยู่ขาซ้าย แล้วได้พยักหน้า “คุณรีบไปเลย”
“ครับ” โจวเฉิงได้ตอบรับ แล้วรีบเดินออกจากวิลล่า
ซูซีมู่เห็นโจวเฉิงเดินออกมาอย่างว่างเปล่า ขมวดคิ้วขึ้น แล้วถาม “กระเป๋าเดินทางล่ะ?”
“ไม่ได้เอาครับ”โจวเฉิงตอบอย่างรู้สึกผิด
ซูซีมู่ได้ยกคิ้วแล้วถามว่า “แล้วคุณออกมาทำอะไร?”
โจวเฉิงกลืนน้ำลายแล้วตอบว่า “คือว่า……คุณนายให้ผมมาเรียกคุณเข้าไปครับ”
ซูซีมู่ไม่ได้พูด แต่จ้องโจวเฉิงด้วยสายตาอันเย็นชา จากนั้นดันประตูรถออกแล้วลงจากรถ เดินไปทางวิลล่า
โจวเฉิงไม่กล้าตามเข้าไปกลัวว่าจะทำให้ซูซีมู่ยิ่งโมโห ก็เลยยืนรออยู่ข้างรถแบบนิ่งๆ
ตอนที่ซูซีมู่เข้าไปในวิลล่าโล่เฟยเอ๋อกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ก้มดูแผลที่ขาซ้ายของตัวเอง
สภาพที่น่าสงสารนั้นทำให้ซูซีมู่ได้กำมืออย่างแรง
ผ่านไปไม่กี่วินาที หลังจากที่อารมณ์ของเขาดีขึ้นหน่อย จึงเดินเข้าไปอย่างกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงเดิน เลยหันหน้ากลับมามอง
อ้าปากพูดกับเขาว่า :”คุณกลับมาแล้วหรอ?”
“คุณหาผมมีเรื่องอะไรหรอ?”ซูซีมู่ได้วาดมุมปาก แล้วถามเบาๆ
ได้ยินคำพูดของซูซีมู่ การตอบสนองบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อได้หน้าชาไร้สีหน้าไปชั่วคราว แล้วขยับริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรพูดยังไง
ซูซีมู่เห็นโล่เฟยเอ๋อเงียบ เลยบอกว่า :”ถ้าไม่มีอะไร ผมไปก่อนนะ”
เห็นซูซีมู่กำลังจะไป โล่เฟยเอ๋อได้พูดอย่างเร่งรีบว่า :”ฉัน……ขอโทษ ฉันขอโทษคุณสำหรับกิริยาท่าทีของฉันในตอนเช้านี้”
ซูซีมู่ตัวแข็งไปชั่วขณะ และหยุดเดิน
โล่เฟยเอ๋อได้ลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปหาซูซีมู่อย่างช้าๆ และจับมุมเสื้อของซูซีมู่พร้อมพูดว่า “ขอโทษนะ….. ซูซีมู่ คุณอย่าโกรธฉันได้ไหม?”
เขาจะโกรธเธอได้ยังไง?เขาจะโกรธเธอลงได้ยังไง?
เขาแค่กลัวว่าเธอจะหงุดหงิด เลยไม่รบกวนเธอ
ซูซีมู่หันหน้ากลับไป มองโล่เฟยเอ๋อที่กำลังก้มหน้าแล้วพูดว่า:”ผมไม่ได้โกรธ”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก ค่อยๆเงยหน้าขึ้น แล้วหันไปมองซูซีมู่อย่างระมัดระวัง “คุณไม่โกรธจริงๆหรอ?”
“ไม่ได้โกรธนิ”ซูซีมู่ตอบกลับอย่างจริงจัง แล้วพูดว่า:”พอแล้ว รีบไปนั่งบนโซฟาเลย เดี๋ยวขาเจ็บอีกละ”
โล่เฟยเอ๋อตอบว่า’อื้ม’ ได้นั่งที่โซฟาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นได้มองซูซีมู่อย่างอยู่นั่นพร้อมถามว่า “คุณจะไปไหนหรอ?”
ทีแรกซูซีมู่กลัวว่าจะทำให้โล่เฟยเอ๋ออารมณ์เสียเลยตัดสินใจไปออกงานนอกสถานที่ แต่ตอนนี้เขากับโล่เฟยเอ๋อดีกันแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ว่ายังจะไปออกงานนอกสถานที่นี้อีกไหม
โล่เฟยเอ๋อเห็นซูซีมู่เงียบ ก็ได้ถามอีกว่า “ไม่ไปได้ไหมคะ?