บทที่219 ไปฝรั่งเศส
โจวเฉิงทำตามคำสั่งของซูซีมู่ช่วยเอาจดหมายแนะนำจากกรรมการการแข่งขันเครื่องประดับระดับโลกให้โล่เฟยเอ๋อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิด
โจวเฉิงเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็ไปรายงานให้ซูซีมู่ทราบ”ประธานซู คุณไค่ตี้ยอมเอาจดหมายแนะนำให้พวกเรา แต่ว่าเธออยากพบนักออกแบบก่อนครับ”
ซูซีมู่ขมวดคิ้วถาม”คนไม่ไป แต่ส่งภาพออกแบบไปให้ไม่ได้เหรอ?”
โจวเฉิงจับจมูกแล้วกล่าว:”ฮะ…..ประธานซู คุณไค่ตี้หมายถึงว่า ภาพออกแบบก็จะดู คนก็จะดูด้วย”
เพราะฉะนั้นเขาต้องพาเฟยเอ๋อไปฝรั่งเศสแล้วล่ะ…..
ส่วนตัวเขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่โล่เฟยเอ๋อว่างเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์แค่นั้น
ซูซีมู่เงียบอยู่หลายวินาที แล้วกล่าว:”นายไปนัดคุณไค่ตี้วันเสาร์หรือวันอาทิตย์นี้ ผมกับเฟยเอ๋อไปพร้อมกัน”
“ครับประธานซู ผมไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ครับ” โจวเฉิงพยักหน้า แล้วเดินออกจากออฟฟิศ
ซูซีมู่ใช้ปลายนิ้วจับคางเบาๆ กำลังคิดว่าจะพูดเรื่องนี้กับโล่เฟยเอ๋อยังไงดี……
แผลที่น่องของโล่เฟยเอ๋อได้ดึงไหมเย็บแผลออกในวันที่ 7
บาดแผลหายได้ดีมาก แต่เหลือรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดไว้เส้นนึง ทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเครียดหนัก
ซูซีมูเห็นโล่เฟยเอ๋อทำหน้าหงอย จึงถามด้วยความสงสัย”เป็นอะไร? แผลยังเจ็บอยู่เหรอ?”
“นายบอกว่าเย็บแผลจะไม่ทิ้งแผลเป็นไว้ แต่นี่…..” โล่เฟยเอ๋อชำเลืองมองดูแผลเป็นที่น่อง แล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าแผลเป็น ซูซีมู่ก็รู้สึกผิดได้ทันที
เขาเป็นคนพูดจริงๆ และยังบังคับให้หมอเฉิงช่วยพูดตามเขาด้วย
ซูซีมู่ไอเบาๆสองทีแล้วกล่าว:”อแห้มๆ ….หมอเชิงให้ยาลดรอยแผลเป็นไว้นิ? รอยแผลเป็นมันจะหายไปเอง”
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียง’หึ้ม’คำนึง แล้วมองไปทางอื่น
เห็นโล่เฟยเอ๋องอนแบบนี้ ซูซีมู่ถึงกับหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้เลยล่ะ
“พอแล้ว อย่าโกรธเลยนะ งั้นลงโทษให้ผมช่วยคุณทายาดีไหมเอ่ย?”
ความจริงโล่เฟยเอ๋อก็ไม่ถึงกับไม่พอใจขนาดนั้น เพียงแต่ว่าผู้หญิงทุกคนล้วนรักสวยรักงามทั้งนั้น
ซูซีมู่พูดปลอบเธอขนาดนี้ ทำให้โล่เฟยเอ๋อเขินหน้าแดงซะแล้ว
ซูซีมู่เห็นโล่เฟยเอ๋อหน้าแดง มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย ผ่านไปสักพัก เขาถามเหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง”วันหยุดสุดสัปดาห์นี้คุณว่างไหม?”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า’อืม’หนึ่งคำ แล้วถาม”มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไปประเทศฝรั่งเศสกัน” ซูซีมู่ตอบสั้นๆย่อๆ
ซูซีมู่จะพาเธอไปประเทศฝรั่งเศส? ขนตางอนของโล่เฟยเอ๋อกะพริบหลายที ถึงคิดขึ้นได้ว่าเธอฟังไม่ผิด “คุณไปออกงานนอกสถานที่ที่ประเทศฝรั่งเศสหรอ? จะยุ่งยากไปไหมถ้าพาฉันไปด้วย?”
ที่จะไปประเทศฝรั่งเศสก็เพื่อคุณนี่แหละ จะยุ่งยากได้ยังไงกัน?
แน่นอนว่าซูซีมู่จะไม่พูดมันออกมา เพียงแต่ต่อไปว่า:”ไม่ใช่ออกงานนอกสถานที่”
ไม่ใช่ออกงานนอกสถานที่ งั้นจะไปทำอะไรกัน? ในสองของโล่เฟยเอ๋อคิดแบบนี้ ปากก็เลยถามออกมาแบบนี้ “งั้นคุณจะไปทำอะไรที่ประเทศฝรั่งเศสล่ะ?”
ซูซีมู่มองโล่เฟยเอ๋อด้วยแววตาลึกซึ้ง ตอบ:”ถึงตอนนั้น คุณก็จะรู้เอง”
ถึงตอนนั้นก็จะรู้เอง?นี่คือคำตอบอะไร? โล่เฟยเอ๋ออยากถามอีก แต่ซูซีมู่ทำสีหน้าแบบ’ไม่คิดจะพูดอะไรอีก’ สุดท้ายเธอก็เลยไม่ถามแล้ว
เพียงแต่ว่าการไปประเทศฝรั่งเศสครั้งนี้ เธอรู้สึกมีอะไรให้ลุ้นมากกว่าเดิม
ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อนั่งเครื่องบินไปประเทศฝรั่งเศสในเวลา6 โมงเย็นของวันศุกร์ เมื่อถึงปารีส เวลาที่นั่นจะอยู่ที่ตี1
ระยะเวลาที่ยาวนานกับการนั่งเครื่องบิน โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเหนื่อยมาก แต่กลับไม่อยากพักผ่อนเลย
ระหว่างทางจากสนามบินไปที่พัก เธอไม่หลับตาเลยสักวินาทีเดียว ชื่นชมวิวตอนกลางคืนของฝรั่งเศสตลอดทาง
ไม่ว่าจะคน เรื่องราว และสิ่งของ สำหรับโล่เฟยเอ๋อพี่ยังไม่เคยมาประเทศฝรั่งเศสแล้วทุกอย่างล้วนดึงดูดสายตาเธออย่างมาก และอีกอย่างการมาเที่ยวในครั้งนี้เธอมีเวลาเพียง 2 วัน คืนวันพรุ่งนี้ก็ต้องบินกลับไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อชักอยากจะไม่ต้องพักทั้ง 2 วันเลย จะได้ชมดูให้เต็มที่
แน่นอน เธอก็แค่คิดแบบนี้ แต่ซูซีมู่คงไม่ยอมให้เธอทำแบบนี้
พอถึงที่พัก ก็สั่งให้เธอไปพักผ่อนในห้อง
โล่เฟยเอ๋อไม่ยอม เขาก็นั่งจ้องอยู่ข้างเตียง
สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อก็ต้องยอมนอนไป 6 ชั่วโมง
โล่เฟยเอ๋อเดินออกจากห้องพร้อมกับขยี้ตาไปด้วย
ในห้องนั่งเล่นไม่มีคนอยู่ ได้ยินแต่เสียงที่ส่งมาจากห้องครัว
โล่เฟยเอ๋อหยุดนิ่งแป๊บนึง แล้วเดินไปตามเสียง ตรงไปยังห้องครัว
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ซูซีมู่หันไปมอง โล่เฟยเอ๋อก็ถึงหน้าประตูห้องครัวแล้ว “ตื่นแล้วเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อตอบ’อืม’คำหนึ่ง แล้วถาม “คุณกำลังทำอาหารเช้าหรอคะ?”
ซูซีมู่พยักหน้าแล้วตอบ:”ใช่ จะเสร็จแล้ว คุณไปอาบน้ำแปรงฟันในห้องน้ำก่อนเถอะ ผ้าเช็ดตัวกับไม้แปรงฟันอันใหม่วางไว้ด้านบนอ่างล้างหน้าแล้ว
โล่เฟยเอ๋อตอบว่า’อืม’คำเดียว แล้วหันหลังเดินไปอาบน้ำแปรงฟันที่ห้องน้ำ
ผ่านไป20นาที ซูซีมู่ก็ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว นั่งรอเธออยู่ตรงโต๊ะทานข้าว
“ทำไมไม่ทานก่อนล่ะ?” โล่เฟยเอ๋อถามพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามซูซีมู่
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบคำถามโล่เฟยเอ๋อ เพียงแต่ยื่นนมวัวให้เธอแก้วนึง “นมวัวแก้วนี้ให้คุณ”
โล่เฟยเอ๋อรับแก้วมา ดื่มไปได้หนึ่งคำ วางไว้ข้างๆ ก้มหน้ามองอาหารเช้าในจาน “ไข่ดาวกับไส้กรอก?”
“ที่นี่ไม่มีอาหารเช้าแบบจีน” ซูซีมู่ตอบ
“ค่ะ ฉันชอบมาก…..” ชอบอาหารเช้าที่คุณทำ และชอบคุณมากกว่าด้วย โล่เฟยเอ๋อแอบพูดต่อเพิ่มเติมให้ในใจ
ซูซีมู่ได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่าชอบ ก็ยิ้มมุมปากขึ้น
โล่เฟยเอ๋อเคยเห็นซูซีมู่ในทุกแบบมาแล้ว ถ้าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นซูซีมู่ยิ้ม ทำให้เผลอสติในทันที
ผ่านไปหลายวินาที ซูซีมู่ถึงรู้ตัวว่าตนเองแสดงกิริยาออกมามากเกินไปแล้ว เขาจึงรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า ไอแห้งๆหลายที แล้วรีบกล่าว:”อะแฮ่มๆ…..รีบทานเถอะ เดี๋ยวอาหารเย็นหมดแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อดึงสติกลับมา รีบตอบ’ค่ะ’หนึ่งคำ แล้วเริ่มก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้า
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ซูซีมู่ก็พาโล่เฟยเอ๋อไปที่จัตุรัสว็องโดม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการออกแบบอัญมณีเครื่องประดับระดับโลก และยังเป็นสถานที่ที่จัดการประกวดเครื่องประดับระดับโลกด้วย
ที่ซูซีมู่พาโล่เฟยเอ๋อมาที่นี่ ไม่ใช่เพียงเพราะอยากพาเธอมาดูสถานที่จัดการประกวดเฉยๆ เขาพาเธอมาเพื่อชมนิทรรศการผลงานโชว์การออกแบบเครื่องประดับจิวเวลรี่ต่างๆ
ใช่แล้ว เพราะว่าการประกวดเครื่องประดับระดับโลกใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นผลงานที่ได้รับอันดับต้นๆของปีก่อนๆ จะถูกตั้งโชว์ไว้ในจัตุรัสว็องโดม
โล่เฟยเอ๋อนึกไม่ถึงจริงๆว่าซูซีมู่จะเซอร์ไพรส์เธอได้ขนาดนี้ ต้องรู้ว่า สำหรับนักออกแบบจิวเวลรี่หลายคนแล้ว การที่ได้มาเห็นผลงานของนักออกแบบระดับแนวหน้ากับตาตนเอง มันเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ซูซีมู่ ขอบคุณนายมากนะ”
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ไม่เป็นไร เราเข้าไปกันเถอะ”
“ค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า และเข้าไปในห้องโถงนิทรรศการพร้อมกับซูซีมู่….
ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋ออยู่ในห้องโถงนิทรรศการตลอดทั้งวัน นอกจากเวลาออกไปกินข้าวเที่ยงด้านนอกห้องโถงนิทรรศการแล้ว พวกเขาก็อยู่ในนั้นตลอด
จนเมื่อถึงเวลาค่ำมืด ห้องโถงนิทรรศการจะปิดแล้ว ตอนที่ซูซีมู่พาโล่เฟยเอ๋อออกมา โล่เฟยเอ๋อยังไม่หายอยากเลย
“พรุ่งนี้เรามาที่นี่อีกดีไหม?”
ซูซีมู่เอียงศีรษะมองโล่เฟยเอ๋ยหนึ่งที แล้วส่ายหน้า “ไม่ได้ พรุ่งนี้เรามีเรื่องอื่นต้องทำ”
ได้ยินซูซีมู่บอกว่าไม่ได้ โล่เฟยเอ๋อรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ยังพยักหน้าตอบ “อืม ค่ะ”
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อรู้สึกผิดหวัง ซูซีมู่อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร