บทที่225 เห้อจิ้นเหยาสงสัยว่าโล่เฟยเอ๋อท้องแล้ว
โจวเฉิงจ้องไปที่ถุงยาขนาดใหญ่ในมือของประธาน ก็มีความรู้สึกงุนงง
หรือว่าประธานซื้อยานี้ให้ภรรยาของเขา แต่ว่า คุณนายป่วยเป็นอะไร?ถึงต้องให้ประธานซื้อยาเยอะขนาดนี้?
“ประธานซู คุณนายไม่สบายเหรอครับ?”
ซูซีมู่ตอบกลับว่า’ใช่’ ผ่านไปไม่กี่วินาที ก็พูดเพิ่มอีกว่า “ไม่สบายกระเพาะ”
ไม่สบายกระเพาะจำเป็นต้องซื้อยาเยอะขนาดนี้เลย?โจวเฉิงเหลือบมองที่มุมปากของเขา แล้วพูดว่า “ประธานซู ยารักษาโรคกระเพาะไม่ต้องกินเยอะขนาดนี้”
“ผมรู้ ”ซูซีมู่ตอบอย่างเย็นชา
คุณรู้คุณยังซื้อยาเยอะขนาดนี้ทำไม?ในใจของโจวเฉิงกำลังเถียงกลับ เสียงของซูซีมู่ดังขึ้นอีกครั้ง“ผมไม่รู้ว่าเธอป่วยเป็นอะไร ควรกินแบบไหน”
ไม่รู้ว่าอาการเป็นไง เลยซื้อยารักษาโรคกระเพาะอย่างละกล่อง?
ต้องบอกว่าผู้ช่วยโจวคุณพูดถูกแล้วล่ะ
โจวเฉิงแนะนำว่า “ประธานซู คุณลองโทรถามหมอเฉิงดูก่อนไหมครับ”
ซูซีมู่เห็นด้วยแล้วพูดว่า’ ได้ ‘ แล้วโทรหาหมอเฉิง
หมอเฉิงบอกกับซูซีมู่ว่า ยารักษาโรคกระเพาะไม่ควรกินแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าไม่สบาย เขามาตรวจให้โล่เฟยเอ๋อที่วิลล่าเอง
หลังจากที่ซูซีมู่นัดหมอเฉิงมาที่วิลล่าในวันรุ่งขึ้นแล้ว ก็วางสายลง
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงวิลล่า
ซูซีมู่เข้ามาจากประตู ไม่ได้เห็นโล่เฟยเอ๋อเหมือนอย่างเคย คิ้วขมวดขึ้นทันที
“คุณนายน้อยยังไม่เลิกงานหรอ?” ซูซีมู่ถามคนรับใช้
คนรับใช้ตอบว่า “เมื่อกี้คุณนายน้อยโทรมาบอกว่า เธอจะไปทานข้าวเย็นที่บ้านโล่”
เธอโทรให้คนรับใช้ แต่กลับไม่โทรให้เขา
ในใจซูซีมู่รู้สึกเย็นเฉียบ……
โล่เฟยเอ๋อไม่สบาย ทีแรกเธอวางแผนว่าจะเลิกงานเช้า แล้วกลับบ้านพักผ่อน
แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อตอนเธอเลิกงาน เห้อจิ้นเหยารอเธอที่หน้าบริษัท
เห้อจิ้นเหยาทักทายด้วยรอยยิ้ม “เฟยเอ๋อ กลับบ้านกินข้าวกัน พ่อของลูกไม่อยู่บ้าน ลูกก็คิดว่าไปอยู่เป็นเพื่อนป้าได้ไหม?”
เห้อจิ้นเหยาพูดขนาดนี้แล้วโล่เฟยเอ๋อจะปฏิเสธได้อย่างไร? จึงพยักหน้า “โอเค”
หยุดชั่วคราว โล่เฟยเอ๋อนึกได้ว่าซูซีมู่จะรอให้เธอทานอาหารเย็นที่บ้าน เลยพูดว่า “คุณป้าเหยา คุณรอก่อนนะคะ ฉันขอคุยโทรศัพท์ก่อน”
เห้อจิ้นเหยาถามไปว่า “โทรหาเขาเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อได้ยินสิ่งที่เห้อจิ้นเหยาพูด นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างซูซีมู่และโล่หยิวชิว ความคิดในตอนแรกที่เธอจะโทรให้ซูซีมู่ก็เปลี่ยนไปทันที
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันจะโทรหาคนรับใช้ จะบอกเธอว่าไม่ต้องเตรียมอาหารเย็นให้ฉัน”
เห้อจิ้นเหยามองไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่างลึกซึ้ง แล้วพยักหน้า “ไปโทรเลย”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าให้เห้อจิ้นเหยา แล้วเดินตรงอื่นเพื่อโทรให้คนรับใช้
รอโล่เฟยเอ๋อคุยโทรศัพท์เสร็จ เห้อจิ้นเหยาทักทายโล่เฟยเอ๋ออย่างมีความสุข “เฟยเอ๋อ มานั่งรถคันเดียวกันกับคุณป้าเหยาสิ เดี๋ยวหลังกินข้าวเสร็จ ป้าให้คนขับรถไปส่งลูก”
โล่เฟยเอ๋อนึกถึงเรื่องครั้งก่อนที่ปล่อยให้คนขับรถหลี่กลับไปคนเดียว แล้วซูซีมู่โกรธมาก เลยส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันนั่งรถของคุณป้าเหยา ให้คนขับรถขับตามหลังมา ตอนกลับไป จะได้สะดวกกว่าค่ะ”
“ให้คนขับรถไปด้วยก็ดี ”เห้อจิ้นเหยาพยักหน้า
ทั้งสองขึ้นรถ ไปยังวิลล่าบ้านโล่
ระหว่างทางเห้อจิ้นเหยาถามโล่เฟยเอ๋อเกี่ยวกับงานบางอย่าง ทั้งสองคนคุยกันอย่างมีความสุข
เมื่อถึงบ้านโล่ อาหารเย็นก็เตรียมพร้อมแล้ว
อาหารเต็มโต๊ะ แสนอร่อยมาก ล้วนเป็นเพราะเห้อจิ้นเหยาสั่งให้คนรับใช้ปรุงอาหารตามรสนิยมของโล่เฟยเอ๋อทั้งนั้นเลย
หลังจากนั่งลงแล้ว ตะเกียบอันแรกของเห้อจิ้นเหยาคีบชิ้นเนื้อหมูเคาหยกที่โล่เฟยเอ๋อชอบแล้วใส่ลงในถ้วยของโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ นี่คือเคาหยกที่ลูกชอบทานนะ”
โล่เฟยเอ๋อชอบทานเคาหยกมาโดยตลอด ทุกครั้งที่กลับบ้านโล่ เห้อจิ้นเหยาจะให้คุณป้าหลิวทำให้หนึ่งจาน
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กิน โล่เฟยเอ๋อรู้สึกหิวโหยอยากกินมาก ถือตะเกียบ คีบเคาหยกขึ้นมาเริ่มกินเคี้ยว
ปรากฏว่าแค่เอาเนื้อเข้าปาก โล่เฟยเอ๋อรู้สึกว่ามีกลิ่นแปลก ๆ ทำให้กระเพาะของเธออึดอัดมาก อยากอ้วก โล่เฟยเอ๋อปิดปากของเธอโดยทันที
“เฟยเอ๋อ ลูกเป็นไรหรือเปล่า? ”เห้อจิ้นเหยาถามอย่างเป็นห่วง
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร โบกมือ รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
ความสงสัยฉายผ่านดวงตาของเห้อจิ้นเหยา จึงวางตะเกียบลงแล้วตามไป
แต่ว่าประตูห้องน้ำถูกโล่เฟยเอ๋อล็อค เธอมองไม่เห็นสถานการณ์ของโล่เฟยเอ๋อเลย ได้ยินเพียงเสียงอาเจียนที่ส่งออกมาจากห้องน้ำเท่านั้น
เห้อจิ้นเหยาเคาะประตู แล้วตะโกนลั่นห้องน้ำ “เฟยเอ๋อ ลูกเป็นไงบ้าง?”
“หนูไม่เป็นไรค่ะ……”หลังจากโล่เฟยเอ๋อพูดจบ ก็อ้วกอีกครั้ง
เห้อจิ้นเหยาได้ยินเสียงอาเจียนข้างใน ทันใดนั้นไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง ดวงตาเบิกกว้าง
เธอจ้องมองไปยังทิศทางของห้องน้ำ จากนั้นจึงหันกลับไปที่ร้านอาหาร เดินไปสองก้าว เธอก็หันหลังเดินกลับมา หลังจากทำแบบนี้ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
เห้อจิ้นเหยามาที่ห้องครัว เรียกคุณป้าหลิวออกมา “คุณป้าหลิว ออกมาหน่อย”
“ค่ะ ”คุณป้าหลิวรีบเดินออกมาจากห้องครัว
สายตาของเห้อจิ้นเหยาจับจ้องไปยังทิศทางของห้องน้ำ จากนั้นแนบที่หูของคุณป้าหลิวแล้วพูดไปหลายคำ
“ค่ะ คุณนาย ”คุณป้าหลิวพยักหน้า แล้วหันกลับไปห้องครัว
เห้อจิ้นเหยากลับไปที่หน้าห้องน้ำ รอโล่เฟยเอ๋อต่อ
ประมาณสองนาทีต่อมา โล่เฟยเอ๋อก็ออกมาจากห้องน้ำ
“คุณป้าเหยา ขอโทษนะคะ ที่รบกวนคุณป้าทานข้าว ”โล่เฟยเอ๋อกล่าวขอโทษ
“ไม่เป็นไร แต่ว่าลูกเป็นไรใช่ไหม? ทำไมถึงอ้วกขนาดนี้?”เห้อจิ้นเหยาดึงโล่เฟยเอ๋อขณะที่เดินไปที่ห้องทานอาหาร แล้วถามไปด้วย
“ในช่วงนี้ทำงานเหนื่อยเกินไป ทำให้ปวดกระเพาะค่ะ”โล่เฟยเอ๋อตอบด้วยรอยยิ้ม
แสงประหลาดฉายผ่านดวงตาของเห้อจิ้นเหยา แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ปวดกระเพาะ ก็ซื้อยากิน อย่าเอาแต่ทำงานจนไม่สนใจสุขภาพร่างกายตนเองทั้งวัน นานๆไปมันจะทำให้เจ็บป่วยได้ในระยะยาว
“รู้แล้วค่ะ คุณป้าเหยา ”โล่เฟยเอ๋อยิ้มและตอบ
เห้อจิ้นเหยายิ้ม ไม่พูดอะไร เพียงแค่นั่งลงหน้าโต๊ะกับโล่เฟยเอ๋อ แล้วทานข้าวต่อ
ทานไปไม่กี่คำ คุณป้าหลิวถือหม้อซุปออกมาจากครัว
“คุณนาย ซุปวุ้นเส้นผักกาดดองเสร็จแล้ว”
“ตักให้คุณหนูหนึ่งถ้วยสิ”เห้อจิ้นเหยาพูด
“ค่ะ”คุณป้าหลิวตักซุปวุ้นเส้นผักกาดดองหนึ่งถ้วยและยื่นให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อพูดไปว่า’ขอบคุณ’ แล้วรับไว้
เห้อจิ้นเหยากินอาหารในชามด้วยรอยยิ้ม จ้องไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่างไม่กะพริบตา
โล่เฟยเอ๋อหยิบช้อนแล้วหยิบซุปหนึ่งช้อนเข้าปาก รสชาติเปรี้ยวๆ รู้สึกชอบมาก
มุมปากเผยรอยยิ้มแห่งความสุข หลังจากดื่มน้ำซุปในชามหมด แล้วยังตักเพิ่มอีกถ้วย
เห้อจิ้นเหยาจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของโล่เฟยเอ๋อ ขยับคิ้ว และมีรอยยิ้มที่มุมปาก
หลังโล่เฟยเอ๋อทานอาหารเย็นเสร็จ ก็อำลาเห้อจิ้นเหยา แล้วนั่งรถจากไป
หลังจากส่งโล่เฟยเอ๋อออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเห้อจิ้นเหยาก็หายไป
เธอเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนมา เธอจะไม่รู้ได้ยังไง ว่าอาการเหล่านี้ของโล่เฟยเอ๋อใช่กำลังตั้งครรภ์หรือไม่?
เห็นโล่เฟยเอ๋อเป็นแบบนี้ พวกเขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอท้องแล้ว
ถ้ายังไม่รู้ นั้น…..