แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 246 คุณทำแท้งมาก่อน
ซูซีมู่สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างรวดเร็วและบังคับตัวเองให้ปล่อยมือจากเธอ เพียงแค่หายใจหอบอยู่บริเวณคอของโล่เฟยเอ๋อ
รอให้ควบคุมไฟชั่วร้ายที่กระพืออยู่ภายในร่างกายก่อน ซูซีมู่จึงเอื้อมมือไปจัดแรงความเป็นระเบียบเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของโล่เฟยเอ๋อทีละเล็กทีละน้อย
ในเวลานี้สติกลับไปที่สมอง และสะท้อนถึงสิ่งที่ระหว่างเธอกับซูซีมู่เพิ่งทำอะไรกันไป ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากเธอก็หลุบตาลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าที่จะมองไปที่ซูซีมู่
ซูซีมู่ขมุบขมิบที่มุมปากเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เอื้อมมือไปเพื่อดึงเธอมาไว้ในอ้อมแขนเบาๆ “ยัยโง่”
ยัยโง่……โล่เฟยเอ๋อสัมผัสใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา ในสมองก็นึกไปถึงคำพูดของซูซีมู่
เขาน่าจะชอบเธอล่ะ ไม่งั้นเขาจะจูบเธอทำไม?
แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดเขากำลังจะ……แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงปล่อยเธอไปในทันที?
โล่เฟยเอ๋อครุ่นคิดและคิด แต่ก็คิดไม่ออก และในที่สุดก็หลับไป
แม้ว่าคุณท่านจะยืนกรานที่จะไม่ออกจากเมืองA เพื่อไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อไปพักฟื้นร่างกาย แต่สุดท้ายภายใต้การโน้มน้าวใจของโล่เฟยเอ๋อในที่สุดเขาก็ยินยอม
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ซูซีมู่ไปโรงพยาบาลเพื่อคุยกับหมอเฉิงเกี่ยวกับรายละเอียดของคุณท่านที่จะไปสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงบ่ายก็กลับมาที่คฤหาสน์เพื่อเก็บข้าวของและส่งคุณท่านไปสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินว่าซูซีมู่กลับมาแล้ว เธอจึงไปที่ห้องของเขาและถามถึงสถานการณ์ทั้งหมด “เป็นยังไงบ้าง? คุณคุยกับหมอเฉิงหรือยัง? ”
“อืม เรียบร้อยแล้ว ผมจะส่งคุณปู่ไปสวิตเซอร์แลนด์ทันที”
โล่เฟยเอ๋อหยุดชะงัก และกล่าวว่า “เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
“อืม หมอเฉิงพูดว่า ยิ่งเร็วยิ่งดี” ซูซีมู่พยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “อืม งั้นก็ดี”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซูซีมู่ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออกและพูดว่า “หลังจากที่ผมกลับมาจากประเทศM ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ”
มีอะไรจะบอกกับเธอ แล้วทำไมต้องรอหลังจากกลับมาด้วย? โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่อย่างสงสัย
เขาดูเหมือนจะเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเอื้อมมือไปแตะแก้มของโล่เฟยเอ๋อแล้วพูดว่า “มันสำคัญมาก คุณจะรอผมอยู่ที่บ้านนะ”
เมื่อเธอได้ยินซูซีมู่พูดว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โล่เฟยเอ๋อก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย “ค่ะ”
“ดี” ซูซีมู่ตอบกลับมา จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าออกจากห้องแต่งตัว มาใส่ในกระเป๋าเดินทาง
โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปและพูดว่า “ฉันจัดการเอง”
ซูซีมู่ไม่ได้ปฏิเสธและยื่นเสื้อผ้าของเขาให้กับโล่เฟยเอ๋อ ตัวเขาก็ถอยไปอยู่ข้างๆ มองดูเธอเก็บกระเป๋าเดินทางให้เขา
ไม่ใช่ว่าเขาขี้เกียจ แต่เป็นความรู้สึกที่สามีจะออกเดินทางจากบ้านไป และมีภรรยาตัวน้อยคอยช่วยเก็บกระเป๋า เป็นสิ่งที่เขารอคอยมานานแสนนานแล้ว
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อจัดของที่อยู่บนเตียงแล้ว ก็หันไปมองที่ซูซีมู่ “มีของอะไรที่จะพาไปอีกไหมคะ? ”
“ไม่มีแล้ว” ซูซีมู่ส่ายหัว
โล่เฟยเอ๋อกล่าว “อืม” และก้มลงรูดซิปกระเป๋าเดินทาง
ซูซีมู่นำกระเป๋าเดินทางไปใส่ยังท้ายรถ หันและเดินไปยังด้านหน้าของโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ด้านข้างของรถ “ผมไปแล้วนะ”
“อืม ฉันจะรอคุณกลับมา” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ฉันจะรอคุณกลับมา……ช่างเป็นคำที่สวยงามจริง ซูซีมู่ยกยิ้มขึ้นและพยักหน้า “อืม คุณก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”
“ค่ะ ลาก่อน” โล่เฟยเอ๋อกล่าว
“ลาก่อน” ซูซีมู่พยักหน้าและหันกลับไปขึ้นรถ
ในเวลานี้ซูซีมู่ไม่ได้คาดหวังว่า การกล่าวคำอำลาในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างลึกซึ้งระหว่างเขากับโล่เฟยเอ๋อ
ถ้าซูซีมู่รู้ เขาคงจะจัดการล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้
แต่ก่อนที่ซูซีมู่ออกเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ โล่เฟยเอ๋อจะคิดถึงเขา แต่เหมือนครั้งนี้.
โล่เฟยเอ๋อให้เหตุผลว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพิ่งเริ่มชัดเจนขึ้น
แม้ว่าจะคิดถึงซูซีมู่มาก แต่โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้โทรหาซูซีมู่
แค่นับวันรอเขากลับมา
ยังเหลืออีกหกวัน……
ยังเหลืออีกห้าวัน……
ยังเหลืออีกสี่วัน……
วันนี้หลังเลิกงานโล่เฟยเอ๋อได้รับโทรศัพท์จากเห้อจิ้นเหยาย และขอนัดเธอทานข้าว
กลับบ้านก็อยู่คนเดียว โล่เฟยเอ๋อก็เลยตอบตกลงไป
หลังจากออกมาจากบริษัท เธอขอให้คนขับพาเธอไปยังสถานที่ที่นัดกับเห้อจิ้นเหยา หยู้ผินเซียง
หลังจากลงจากรถ โทรศัพท์มือถือของโล่เฟยเอ๋อก็ดังขึ้น เธอก้มศีรษะลงเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เพื่อที่จะรับโทรศัพท์ แต่เธอก็ไม่ทันได้ระวังจนบังเอิญชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
โล่เฟยเอ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง ก็รีบกล่าวขอโทษอีกฝ่ายทันที “ฉันขอโทษจริงๆ เมื่อสักครู่ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร คุณก็ไม่ได้ตั้งใจ” ฝั่งตรงข้ามให้อภัยอย่างไม่เห็นแก่ตัว
โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้น เพื่อขอโทษหญิงสาววัยรุ่นที่อยู่หน้าอีกครั้ง “ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ”
ในขณะนี้ หญิงสาวกลับส่งเสียงอย่างตกใจออกมา “อี๊ ที่แท้ก็เธอนั้นเอง”
เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายรู้จักกับตัวเอง เธอก็อึ้งไปชั่วขณะและถามอย่างลังเลว่า “คุณรู้จักฉันเหรอ? ”
“ฉันเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลในเมือง ที่คุณเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน” หญิงสาวตอบ
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังฝั่งตรงข้าม ก็ยังคงจำไม่ได้ ก็เลยถามกลับว่า “คุณคงหมายถึง ตอนที่ฉันปวดประจำเดือนและนอนที่โรงพยาบาลในเมืองใช่ไหม? ” เธอถาม
“ปวดประจำเดือนอะไร ไม่ใช่ว่ามาทำแท้งเหรอ? ” หญิงสาวถามอย่างประหลาดใจ
ผ่าตัดทำแท้ง? ในสมองของโล่เฟยเอ๋อว่างเปล่านานไปประมาณสิบวินาที เธอจึงถามว่า “คุณจำผิดไหมคะ? ฉันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการปวดประจำเดือน ไม่ใช่การทำแท้ง”
“จำผิด ฉันจำผิดได้อย่างไร ในเมื่อผู้อำนวยการเฉิงเป็นคนทำการผ่าตัดให้คุณ และฉันก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน …” เมื่อพูดถึงจุดนี้จู่ๆ หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ และหยุดพูด “คุณหนู ฉันไปก่อน คุณก็คิดซะว่าคุณไม่ได้เจอฉันมาก่อน และฉันก็ไม่ได้บอกอะไรกับคุณด้วย”
เรื่องมันยังไม่ชัดเจน โล่เฟยเอ๋อจะปล่อยเธอไปแบบนี้ได้ยังไง? เธอยื่นมือออกไปและจับเธอ “คุณช่วยอธิบายให้ฉันฟังเข้าใจก่อนแล้วค่อยไปได้ไหมคะ? ”
“คุณหนู ไม่ได้ ท่านผู้อำนวยการให้พวกเราทั้งแผนกปิดปากเงียบ ฉันบอกคุณไม่ได้ ฉันไปก่อน” หญิงสาวกล่าวด้วยใบหน้าอย่างกังวล
“คุณบอกฉัน ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ได้ไหม? ”โล่เฟยเอ๋อกล่าววิงวอน
หญิงสาวมองไปยังเธอและตอบตกลงในที่สุด “ได้”
โล่เฟยเอ๋อโทรศัพท์ไปคุยกับเห้อจิ้นเหยาและบอกเธอว่า เธอมีธุระด่วนชั่วคราวและไม่สามารถทานข้าวกับเธอได้ หลังจากนั้นเธอก็พาหญิงสาวไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ กับหยู้ผินเซียง
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อเรียกบริกรและสั่งกาแฟเสร็จ เธอก็พูดว่า “คุณได้โปรดเล่นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฉันฟังหน่อยนะคะ”
หญิงสาวพยักหน้าและเล่นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันให้ฟังอย่างละเอียด “คืนนั้นคุณถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยชายที่หล่อเหลามาก เขาขอให้ผู้อำนวยการเฉิงตรวจร่างกายของคุณโดยตรง หลังจากนั้นก็พบว่าคุณท้องเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว จากนั้นเขาก็ขอให้ผู้อำนวยการเฉิงทำการผ่าตัดทำแท้งให้คุณ หลังการผ่าตัดผู้อำนวยการเฉิงได้สั่งปิดปากทุกคนที่รู้เรื่องนี้”
ได้ยินที่ผู้หญิงคนนี้พูด เป็นซูซีมู่ที่ขอให้หมอเฉิงทำการผ่าตัดทำแท้งให้ตัวเองและหมอเฉิงยังบอกให้คนที่รู้เรื่องนี้ปิดปากทั้งหมด
โล่เฟยเอ๋อไม่เชื่อ เธอส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีทาง คุณตั้งใจที่จะโกหกฉัน”
ระหว่างผู้หญิงแปลกหน้ากับซูซีมู่ แน่นอนว่าโล่เฟยเอ๋อเลือกที่จะเชื่อในซูซีมู่