บทที่ 236 รับคำสั่งมาให้จัดการแทนคุณผู้หญิง
เมื่อเย่รู่ไป๋เดินออกไป ถังหซิวฉีก็จ้องไปที่โล่เฟยเอ๋อครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาตรงหน้าโล่เฟยเอ๋ย พูดขึ้นมาว่า : “โล่เฟยเอ๋อ ความรู้สึกตอนใกล้จะตกงานนี่เป็นยังไงเหรอ
ถึงแม้ว่าถ้าต่อปากต่อคำขึ้นมา ถังหซิวฉีไม่มีทางชนะโล่เฟยเอ๋อแน่ แต่ที่นี่คือบริษัทดี้ก้วน โล่เฟยเอ๋อไม่อยากทะเลาะกับถังหซิวฉีให้ดูไม่ดี เธอเลยเลือกที่จะทำหูทวนลม
โล่เฟยเอ๋อไม่สนใจถังหซิวฉี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าถังหซิวฉีจะไม่หาเรื่องโล่เฟยเอ๋อ
“โล่เฟยเอ๋อ เธอรู้อะไรไหม ฉันจงใจที่จะตัดรายชื่อผู้เข้าแข่งขันการประกวดเครื่องประดับระดับโลกของบริษัทดี้ก้วนออกสองรายชื่อเพื่อเอามาบีบบังคับบริษัทดี้ก้วน…” ถังหซิวฉีพูดเสียงต่ำ ขยับเข้าไปพูดข้างหูโล่เฟยเอ๋อ : “เธอว่า บริษัทดี้ก้วนจะเลือกเธอหรือว่าเลือกรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลกกันนะ”
โล่เฟยเอ๋อรู้ดีว่าถังหซิวฉีชอบที่จะตั้งตนเป็นศัตรูกับเธอ ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้ ขอเพียงแค่มีโอกาส เธอก็จะทำมันทันที โล่เฟยเอ๋อรู้สึกชินชากับพฤติกรรมของถังหซิวฉีแล้ว
แต่โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงว่า ครั้งนี้ถังหซิวฉีถึงขนาดจงใจตัดรายชื่อผู้เข้าแข่งขันของบริษัทดี้ก้วนออกสองที่เพื่อมาบีบบังคับให้บริษัทดี้ก้วนไล่เธอออก ครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกโกรธมาก
“ถังหซิวฉี เมื่อก่อนที่เธอทำเรื่องพวกนั้น ฉันทนมาตลอด แต่วันนี้ เธอทำเกินไปแล้ว”
ถังหซิวฉีตั้งใจจะยั่วแหย่ให้โล่เฟยเอ๋อโกรธอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อโกรธแบบนี้ เธอก็ยิ้มแบบสะใจออกมา “เกินไปเหรอ ฉันไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นเลยสักนิด”
“ขอแค่ได้เห็นเธอเป็นทุกข์ ฉันก็ดีใจ” ตอนที่พูดประโยคนี้จบ ถังหซิวฉีก็เชิดหน้าขึ้น
โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างโมโหว่า : “ถังหซิวฉี เธอมันโรคจิต”
ถังหซิวฉีหัวเราะออกมา “เหอะ ๆ โรคจิตแล้วยังไงล่ะ โล่เฟยเอ๋อ ฉันจะบอกเธอไว้นะ ถ้าฉันถังหซิวฉียังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เธอกับฉันก็อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้”
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังถังหซิวฉี รู้สึกหมดคำพูด
ในสายตาของถังหซิวฉี คิดว่าโล่เฟยเอ๋อนั้นอ่อนแอ รอยยิ้มบนใบหน้าจึงยิ่งดูสะใจมากขึ้น เธออ้าปากจะเยาะเย้ยโล่เฟยเอ๋อต่อ แต่เย่รู่ไป๋ก็กลับเข้ามาพอดี
ถังหซิวฉีมองไปยังเย่รู่ไป๋ แล้วเดินกลับไปยังที่ของตัวเองอย่างเก้ ๆ กัง ๆ
ถึงแม้ว่าเย่รู่ไป๋จะไม่เห็นตอนที่ถังหซิวฉีเถียงกับโล่เฟยเอ๋อ แต่จากที่ถังหซิวฉีจงใจหาเรื่องโล่เฟยเอ๋อนั้น เขาก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น
เมื่อนึกถึงที่คุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่นี้ เย่รู่ไป๋ก็จ้องไปที่โล่เฟยเอ๋อครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปหาถังหซิวฉี “คุณถัง ผมรายงานให้เบื้องบนทราบเรื่องแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เบื้องบนจะส่งคนมาเจรจากับคุณถังเอง”
ถังหซิวฉีได้ยินที่เย่รู่ไป๋บอกว่าจะมีคนมาเจรจากับเธอ ในใจเธอก็นึกสงสัยขึ้นมา
แค่ไล่โล่เฟยเอ๋อออกเพื่อแลกกับรายชื่อผู้เข้าแข่งขันอีกสองที่ บริษัทดี้ก้วนไม่น่าจะต้องคิดเยอะ ควรจะรีบตอบตกลงด้วยซ้ำ
ทำไมต้องส่งคนมาเจรจากับเธอ บริษัทดี้ก้วนรู้อะไรมาเหรอ หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น
ถังหซิวฉีหลุบตาลง ขจัดความสงสัยออกไป จากนั้นก็แกล้งพูดออกไปว่า “ดูท่าบริษัทดี้ก้วนจะไม่อยากได้รายชื่อในมือฉันเพิ่มอีกสองที่”
เงียบไปชั่วครู่ ถังหซิวฉีก็พูดต่อ : “งั้นก็ช่างเถอะ ยังไงก็มีบริษัทอื่นต้องการมันอยู่ดี ฉันไม่บังคับ…”
ถังหซิวฉียังพูดไม่ทันจบ เย่รู่ไป๋ก็รีบพูดขึ้นมาว่า : “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ บริษัทพวกเราให้ความสำคัญกับการประกวดเครื่องประดับระดับโลกมาก ฉะนั้นจึงต้องมีคนมาเจรจากับคุณถังด้วยตัวเอง”
เธอยิ้มออก : “เป็นแบบนี้นี่เอง งั้นฉันจะรอ”
เย่รู่ไป๋แววตาเป็นประกาย เอ่ยขอบคุณถังหซิวฉีอย่างมีมารยาท “ขอบคุณครับคุณถัง”
ถังหซิวฉีไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้น เธอก็ออกไปได้แล้ว”
เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้องรับแขก
นี่เป็นใครกัน ทำไมถึงได้กล้ามาไล่คนของสมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ย
ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย เย่รู่ไป๋ก็รีบเข้าไปต้อนรับ เอ่ยทักทายด้วยความเคารพ “ผู้ช่วยโจว คุณมาแล้วเหรอครับ”
เย่รู่ไป๋รู้ตั้งแต่ตอนคุยโทรศัพท์แล้วว่าโจวเฉิงจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง และเขาก็รู้ว่าที่โจวเฉิงมาที่นี่ ไม่ใช่เพราะเรื่องรายชื่อผู้เข้าแข่งขันสองที่นั้น แต่มาเพราะโล่เฟยเอ๋อ
ทำไมเขาถึงได้มั่นใจขนาดนี้น่ะเหรอ
ง่ายมาก ก็เพราะเมื่อกี้ตอนที่เขาคุยโทรศัพท์กับผู้ช่วยโจว ตอนที่เขารายงานเรื่องของเพิ่มรายชื่อสองที่สำหรับผู้เข้าแข่งขันการประกวดเครื่องประดับระดับโลกนั้น คุณโจวมีท่าทีเฉยชามาก
แต่เมื่อเขาพูดถึงเรื่องที่ถังหซิวฉียื่นข้อเสนอมา ให้ไล่โล่เฟยเอ๋อออกจากบริษัท ผู้ช่วยโจวก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่เขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผู้ช่วยโจวฟังจบ ผู้ช่วยโจวก็บอกเพียงว่ารอฉันไปจัดการ จากนั้นก็วางสายไป
ดังนั้น การที่ผู้ช่วยโจวมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทั้งหมดเป็นเพราะโล่เฟยเอ๋อ
โจวเฉิงไม่รู้ความคิดของเย่รู่ไป๋ จึงพยักหน้าตอบกลับสั้น ๆ ว่า อืม จากนั้นก็หันไปมองโล่เฟยเอ๋อ
อ้าปากจะทักทาย แต่ถูกโล่เฟยเอ๋อใช้สายตาห้ามปรามไว้ก่อน
นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อก่อนท่านประธานเคยสั่งไว้ว่าห้ามให้ใครรู้ฐานะที่แท้จริงของคุณผู้หญิง โจวเฉิงจึงได้แต่ลูบจมูกไปมา แล้วหันไปมองที่เย่รู่ไป๋ “ผู้จัดการฝ่ายเย่”
เย่รู่ไป๋ยืนขึ้นอย่างเรียบร้อยแล้วเอ่ยถาม “ผู้ช่วยโจว มีอะไรจะสั่งครับ”
“ไปเรียกรปภ.ให้เข้ามาลากเธอออกไปจากบริษัท” โจวเฉิงชี้ไปที่ถังหซิวฉี เอ่ยขึ้นอย่างเรียบ ๆ
“โจว…” โล่เฟยเอ๋ออ้าปากจะห้ามโจวเฉิง แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าโจวเฉิงน่าจะทำตามคำสั่งของซูซีมู่ให้มาช่วยเธอจัดการเรื่องนี้ เธอเลยเงียบไป
แต่คนอื่น ๆ รวมถึงเย่รู่ไป๋ที่รู้ว่าโจวเฉิงคือใครก็รู้สึกอึ้งเกินคาดแล้วหันไปมองโจวเฉิง
ถังหซิวฉีเป็นถึงคนของสมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ยเลยนะ สมาคมอัญมณียิ่งใหญ่ถึงขนาดควบคุมการเข้าร่วมแข่งขันการประกวดเครื่องประดับระดับโลกของบริษัทเครื่องประดับทุกบริษัท
บริษัททำเครื่องประดับทุกบริษัทต้องทำดีกับพวกเขา ทำไมถึงได้ใช้คำว่าลากกับเธอล่ะ
ถังหซิวฉีคิดไม่ถึงว่าโจวเฉิงจะไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้ เลยถามด้วยความโกรธว่า “นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรให้คนมาลากฉันออกไป”
“ฉันคือโจวเฉิง ผู้ช่วยของประธานบริษัทซูซื่อ เธอว่าฉันมีสิทธิ์ให้คนมาลากเธอออกไปไหมล่ะ” โจวเฉิงตอบกลับอย่างเฉยชา
เมื่อได้ฟังที่โจวเฉิงแนะนำตัวว่าเป็นผู้ช่วยของประธานบริษัทซูซื่อ ทุกคนในที่นั้น ยกเว้นเย่รู่ไป๋และโล่เฟยเอ๋อ ต่างพากันตกตะลึง
ถังหซิวฉีรู้ว่าบริษัทดี้ก้วนอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทซูซื่อ แต่คิดไม่ถึงว่าการที่เธอใช้วิธีสกปรกเล่นงานโล่เฟยเอ๋อนั้น จะเป็นเรื่องใหญ่จนรบกวนคนของบริษัทซูซื่อ และคิดไม่ถึงว่าคนที่ถูกรบกวนคือผู้ช่วยของประธานบริษัทซูซื่อ
สมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ยถึงจะเป็นฝ่ายควบคุมรายชื่อการเข้าร่วมแข่งขันการประกวดเครื่องประดับระดับโลก สามารถทำอะไรก็ได้ แต่การเผชิญหน้ากับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทซูซื่อนั้น ทำอะไรตามใจชอบไม่ได้แน่นอน
ถังหซิวฉีกลืนน้ำลายลงคอ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมา : “ในเมื่อเป็นผู้ช่วยของประธานซู งั้นรายชื่อผู้เข้าแข่งขันอีกสองที่ ฉันก็จะยกให้บริษัทดี้ก้วนโดยไม่มีเงื่อนไขแล้วกันค่ะ”
ถังหซิวฉีตัดสินใจยอมแพ้เรื่องแผนการที่จะหาเรื่องโล่เฟยเอ๋อ ยกเรื่องรายชื่ออีกสองที่ขึ้นมาเพื่อเอาใจโจวเฉิง
แต่เสียดายที่เธอไม่รู้ว่า ระหว่างทางมาบริษัทดี้ก้วน โจวเฉิงได้โทรศัพท์ไปคุยกับสมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ยเรียบร้อยแล้ว
โจวเฉิงรู้แผนการของเธอมานานแล้ว
โจวเฉิงยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็นแล้วเอ่ยพูด : “เรื่องรายชื่อผู้เข้าแข่งขันการประกวดนั้น ฉันคุยกับหัวหน้าสมาคมจางของสมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ยด้วยตัวเองแล้ว ไม่ต้องรบกวนเธอหรอก