บทที่ 238 โทรมาพอดี ใจตรงกันเลย
เรื่องถังหซิวฉี โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ถามโจวเฉิงว่าจัดการยังไง เพราะเธอไม่มีเวลาไปสนใจและไม่อยากสนใจอีกด้วย
โล่เฟยเอ๋อยุ่งมากกว่าเมื่อก่อน กลางวันต้องเข้าเรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษ ช่วงค่ำเรียนออนไลน์กับคุณครูไค่ตี้
วันนี้ตอนค่ำ ขณะที่ใกล้จะวิดีโอคอลจบนั้น คุณครูไค่ตี้ก็ได้มอบหมายการบ้านให้โล่เฟยเอ๋อทำ
“เฟยเอ๋อ เธอเรียนกับฉันมานานแล้ว ฉันมีการบ้านจะมอบหมายให้เธอทำ”
โล่เฟยเอ๋อตอบกลับด้วยภาษาฝรั่งเศสอย่างไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ “คุณครูไค่ตี้สั่งมาได้เลยค่ะ”
“อีกสองวันจะเป็นวันแห่งความรัก ฉันอยากให้เธอออกแบบโดยใช้ธีมวันแห่งความรัก” คุณครูไค่ตี้เอ่ยพูด
วันแห่งความรักเหรอ โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็พยักหน้า “ได้ค่ะ”
“อืม” คุณครูไค่ตี้พยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็บอกเงื่อนไขการออกแบบกับโล่เฟยเอ๋ออีกสองสามประโยค แล้วก็สิ้นสุดการวิดีโอคอล
หลังจากปิดคอมพิวเตอร์ โล่เฟยเอ๋อก็เข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วก็ขึ้นเตรียมตัวนอน
ขณะที่นอนอยู่บนเตียง เธอกลับนอนไม่หลับ
ในหัวเอาแต่คิดเรื่อง วันแห่งความรัก
ถ้าคุณครูไค่ตี้ไม่พูดขึ้นมา เธอก็ลืมเรื่องวันแห่งความรักไปแล้ว
คิดถึงวันแห่งความรักเมื่อสี่ปีก่อน เธอเตรียมของขวัญชิ้นหนึ่ง จะมอบให้กู้ชิงหลันในวันแห่งความรัก กู้ชิงหลันจะทำท่าทีตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้รับของขวัญ และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอแอบรักเขามาตลอดสี่ปี คิดว่าระหว่างเธอและกู้ชิงหลันมีเพียงเส้นบาง ๆ กั้นอยู่เท่านั้น
จนถึงตอนที่กู้ชิงหลันคุกเข่าขอคบกับถังหซิวฉีที่คลับดี้เหา ตอนนั้นเธอถึงตาสว่าง
ที่จริงเรื่องนี้เพิ่งผ่านพ้นไปไม่กี่เดือน แต่โล่เฟยเอ๋อกลับรู้สึกเหมือนว่ามันผ่านไปหลายปีแล้ว ในตอนนี้แม้กระทั่งรูปร่างหน้าตาของกู้ชิงหลันเธอก็จำแทบไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
น่าจะเป็นเพราะตอนนี้ ในใจเธอ ในสายตาของเธอ มีเพียงซูซีมู่เท่านั้น
เมื่อนึกถึงซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาถือว่าดีมากก็จริง แต่ก็ได้มากสุดเพียงเท่านี้
ระหว่างเธอกับซูซีมู่ ไม่มีทางเป็นไปได้มากกว่านี้
คนที่เธอรักมากสุดหัวใจ กลับไม่ได้รักเธอ
โล่เฟยเอ๋อหลับตาลง น้ำตาค่อย ๆ ไหลรินออกมาจากหางตา แล้วไหลลงไปที่เส้นผม…
ซูซีมู่เป็นคนที่งานยุ่งมาก ทุกวันตั้งแต่เช้ายันค่ำก็อยู่แต่ที่ออฟฟิศ เรื่องวันแห่งความรักน่ะเหรอ ลืมไปนานแล้ว ไม่สิ ต้องพูดว่าตลอดชีวิตที่เย็นชาที่ผ่านมายี่สิบเจ็ดปีของซูซีมู่ ไม่เคยคิดถึงเรื่องวันแห่งความรักนี้เลยต่างหาก
จนเมื่อได้ยินสงเฟยเหวินขอโจวเฉิงลางาน เพื่อกลับเมืองหลวงไปฉลองวันแห่งความรักกับแฟน เขาถึงนึกขึ้นมาได้
หลังกลับมาที่ออฟฟิศ ซูซีมู่ก็เริ่มคิดว่าจะฉลองวันแห่งความรักกับโล่เฟยเอ๋อยังไงดี
ดินเนอร์สุดแสนโรแมนติกในวันแห่งความรักจำเป็นต้องมีอยู่แล้ว แต่ส่งดอกกุหลาบไปให้ที่ห้องคนรักอันนี้ทำไม่ได้แน่นอน แต่ควรจะให้อะไรเป็นของขวัญเฟยเอ๋อดีล่ะ
ให้เครื่องประดับเหรอ ไม่ได้ ๆ เชยเกินไป
ให้กระเป๋า? ไม่ได้อีก เฟยเอ๋อไม่ชอบ
หรือจะให้เสื้อผ้า…
ซูซีมู่คิดไปคิดมา แต่ก็ยังคิดอะไรดี ๆ ไม่ออกเลย
บังเอิญ วันนี้ตอนบ่าย ขณะที่ซูซีมู่เจรจาเรื่องสัญญาอยู่กับลูกค้า ก็เผอิญเห็นตุ๊กตาไม้แกะสลักที่ลูกค้าพกติดตัวไว้
ตุ๊กตาไม้แกะสลักนั้นแกะได้อย่างประณีตมาก คล้ายกับของจริงมากเลยทีเดียว
ซูซีมู่ทราบมาจากลูกค้าว่า นี่เป็นศิลปะการแกะสลักไม้ของเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างไกล
หลังจากที่สอบถามที่อยู่ของเมืองเล็ก ๆ แห่งนั้นจากลูกค้า ซูซีมู่ก็อ้างว่าไปทำงานต่างถิ่น ออกจากบ้านไป
วันที่สิบสี่ กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ทุกที่อบอวลไปด้วยความรัก คู่รักแทบจะทั่วโลกพร้อมใจกันออกมาในวันนี้ อากาศฟุ้งไปด้วยสีชมพู
บทสนทนาที่ทุกคนพูดคุยกัน ล้วนเกี่ยวกับวันแห่งความรักทั้งนั้น
แฟนของใครให้ดอกกุหลาบเก้าสิบเก้าดอก
ใครยืนถือดอกกุหลาบร้องเพลงรักบอกรักใครหน้าประตูบริษัท…
โล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่เงียบ ๆ บนเก้าอี้ทำงาน ฟังเพื่อนร่วมงานพูดคุยกัน สีหน้าเฉยชาไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่ในใจกลับรู้สึกผิดหวังเศร้าสร้อย
ถึงแม้เธอจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับวันแห่งความรัก แต่เมื่อคิดถึงซูซีมู่ที่ไปทำงานต่างถิ่น แม้แต่ในวันแห่งความรัก เธอก็ไม่ได้เจอหน้าเขา นั่นทำให้เธอรู้สึกไม่มีความสุข
ในใจรู้สึกรำคาญกับความคิดของตัวเอง โล่เฟยเอ๋อจริงสะบัดหัว แล้วเปิดคอมพิวเตอร์
อีเมล์ฉบับหนึ่งถูกส่งเข้ามา เป็นคุณครูไค่ตี้ส่งมาให้
น่าจะเป็นผลประเมินการออกแบบที่เธอส่งให้คุณครูไค่ตี้เมื่อคืน โล่เฟยเอ๋อคิดในใจแบบนี้ แล้วเปิดอีเมล์ดู
เมื่อเปิดออกมาก็เห็นภาพเครื่องประดับหนึ่งแผ่น อีกทั้งเป็นเครื่องประดับที่เธอรู้สึกคุ้นเคยมาก
นี่คือการบ้านออกแบบธีมวันแห่งความรักที่เธอส่งให้คุณครูไค่ตี้เมื่อคืนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้ทำออกมาเป็นเครื่องประดับแล้วล่ะ
โล่เฟยเอ๋อรีบเลื่อนเมาส์ดูต่อด้านล่าง ถึงได้รู้ว่า เมื่อคุณครูไค่ตี้ได้รับภาพออกแบบจากเธอเมื่อคืน ก็ส่งไปให้ฝ่ายผลิต ผลิตเครื่องประดับออกมา จากนั้นก็ส่งไปวางโชว์ในร้านจิวเวอรี่ของเพื่อนสนิทเธอ ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับดีมาก
คุณครูไค่ตี้ส่งอีเมล์ให้เธอ เพื่อสอบถามว่า อยากจะผลิตเครื่องประดับชิ้นนี้ออกวางขายไหม
โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงว่าคุณครูไค่ตี้จะเซอไพรส์เธอขนาดนี้ ผลงานเป็นที่ยอมรับ จำหน่ายภายใต้ชื่อของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่นักออกแบบต้องการอยู่แล้ว
โล่เฟยเอ๋ออ่านอีเมล์อีกรอบ จากนั้นก็ตอบกลับคุณครูไค่ตี้ว่ายินดี
โล่เฟยเอ๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทรหาซูซีมู่ เพื่อบอกข่าวดีกับเขา
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้น เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าซูซีมู่ไปทำงานอยู่ต่างถิ่น
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจวางโทรศัพท์ลง ไม่อยากโทรไปรบกวนซูซีมู่
คิดไม่ถึงว่า เมื่อเธอวางโทรศัพท์ลง ซูซีมู่ก็โทรเข้ามาพอดี
ใจตรงกันจังเลย…ในหัวของโล่เฟยเอ๋อคิดถึงแต่คำนี้ จากนั้นหน้าเธอก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาเล็กน้อย
เธอลูบหน้าตัวเองไปมา แล้วกดรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
เสียงซูซีมู่ดังขึ้นมา “เฟยเอ๋อ โจวเฉิงขับรถออกไปแล้ว ตอนเธอเลิกงาน แวะมารับฉันที่บริษัทหน่อยได้ไหม”
ไปบริษัทเหรอ เขากลับมาจากทำงานแล้วเหรอ
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้สนใจว่าปากตัวเองกำลังอ้าอยู่ ได้แต่ตอบกลับไปเบา ๆ ว่า : “ได้สิ”
ซูซีมู่ตอบกลับ “อืม” จากนั้นก็พูดว่า : “รบกวนเธอด้วยนะ”
“ไม่รบกวนเลย”
“งั้นไว้เจอกันนะ”
“อืม” โล่เฟยเอ๋อตอบกลับเบา ๆ เธอรอให้ซูซีมู่วางสายไปก่อน เธอถึงจะวางสาย
ห้าโมงครึ่ง ถึงเวลาเลิกงาน โล่เฟยเอ๋อก็เก็บของเตรียมออกจากบริษัท
เมื่อขึ้นรถแล้ว เธอก็บอกคุณหลี่คนขับรถว่าให้ไปที่บริษัทซูซื่อ
เมื่อมาถึงบริษัทซูซื่อ โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ขึ้นไปหาซูซีมู่ แต่ยืนรอซูซีมู่อยู่ที่ประตูทางเข้า แล้วโทรหาซูซีมู่
ในห้องประชุมระดับสูงของบริษัทซูซื่อ บรรยากาศคึกคักมาก
ที่จริงแล้ว ทุกคนกำลังพูดถึงโครงการมูลค่าหมื่นล้านของบริษัทซูซื่อกันอยู่
ในขณะที่บรรยากาศกำลังคึกคักอยู่นั้น ในห้องประชุมก็มีเสียงโทรศัพท์หวาน ๆ ดังขึ้น
เสียงพูดคุยกันในห้องประชุมก็เงียบลงทันที
ไอโง่ที่ไหนไม่ได้ปิดเสียงโทรศัพท์ตอนเข้าห้องประชุมเนี่ย แถมยังดังขึ้นมาต่อหน้าท่านประธานอีกต่างหาก หาเรื่องตายจริง ๆ
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ซูซีมู่ ไม่รู้ว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นคือท่านประธานของพวกเขากำลังหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าตัวเอง แล้วทำมือบอกว่าเลิกประชุมกันได้ จากนั้นก็รับโทรศัพท์แล้วออกจากห้องประชุมไปทันที
เหลือแต่คนอื่น ๆ ที่กำลังตกตะลึงกันอยู่
เดิมทีทุกคนต่างคิดว่าคืนวันแห่งความรักที่แสนจะโรแมนติกนี้ต้องได้ฉลองอยู่ที่บริษัทแน่นอน เพราะต้องหารือเรื่องโครงการหมื่นล้าน
แต่ปรากฏว่าประธานของพวกเขาทิ้งโครงการหมื่นล้านไว้ แล้วบอกว่าเลิกประชุม จากนั้นก็จากไป
นี่มันอะไรกันเนี่ย พวกเขาหูฝาดไปใช่ไหม
ทุกคนมองตากันไปมา จากนั้นทุกสายตาก็พร้อมใจกันหันไปมองโจวเฉิงซึ่งเป็นผู้ช่วยของท่านประธาน
“ผู้ช่วยโจว พวกเราฟังผิดไปหรือเปล่า เมื่อกี้ประธานบอกว่าเลิกประชุมเหรอ”
โจวเฉิงตอบอย่างจริงจัง “พวกเธอฟังไม่ผิดหรอก เลิกประชุมได้”
ทุกคนมองตากัน แล้วถามอีกว่า “ประธานไปทำอะไรเหรอ ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้เลิกประชุมได้ล่ะ”
“วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ก็ต้องไปฉลองกับคนรักสิ” โจวเฉิงตอบกลับพลางกรอกตา
ทุกคนต่างพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจ “ท่านประธานไปฉลองวันแห่งความรักงั้นเหรอ”
โจวเฉิงไม่สนใจคนพวกนี้อีก เขาเก็บเอกสารที่ซูซีมู่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงาน จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วออกจากห้องประชุมไป
ท่านประธานไปฉลองวันแห่งความรักแล้ว งานที่เหลือก็ต้องเป็นเขาที่ทำต่อสินะ
ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อประธานมีภรรยาที่ต้องคอยเอาอกเอาใจ แต่เขาเป็นเพียงชายโสดที่ต้องทำงานหนัก
หรือว่า เขาจะลองมีความรักดูบ้าง
ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวโจวเฉิงเพียงชั่วครู่ แต่จากนั้นก็โดนเขาปฏิเสธ
เป็นเลขาคนสนิทของประธานซู จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งยี่สิบสี่ชั่วโมงรับใช้
ถึงจะมีแฟน ก็คงไม่มีเวลาไปดูแลเอาใจใส่
ไม่ต้องหาแฟนนั่นแหละ ดีแล้