บทที่ 237 หน้าที่ใหม่ของผู้จัดการฝ่ายเย่คือดูแลคุณผู้หญิง
เมื่อได้ยินที่โจวเฉิงพูดว่าเขาได้คุยกับประธานด้วยตัวเองแล้ว สีหน้าถังหซิวฉีก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที
โจวเฉิงไม่มีอารมณ์ชื่นชมมารยาของถังหซิวฉี เขารู้สึกทนไม่ได้จนต้องเอ่ยถามเย่รู่ไป๋ “ผู้จัดการฝ่ายเย่ รปภ.อยู่ที่ไหน”
ฟังออกว่าน้ำเสียงของโจวเฉิงเริ่มไม่พอใจแล้ว เย่รู่ไป๋จึงรีบหยิบโทรศัพท์ออก จากนั้นก็กดโทรหาแผนกรักษาความปลอดภัย…
แผนกรักษาความปลอดภัยทำงานคล่องแคล่วว่องไวมาก ไม่ถึงห้านาที ก็ส่งรปภ.เข้ามา
เมื่อเห็นรปภ.เข้ามา ถังหซิวฉีก็รู้ตัวว่าวันนี้เธอแพ้แล้ว
ที่จริงเธอตั้งใจจะเล่นงานโล่เฟยเอ๋อ แต่กลับกลายเป็นตัวเองโดนเล่นงานซะงั้น
แม้ว่าถึงเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้ แต่ถังหซิวฉีก็ไม่อยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าโล่เฟยเอ๋อ
“โล่เฟยเอ๋อ เธออย่าได้ใจไปนะ วันนี้ฉันไม่ชนะเธอ ไม่ได้หมายความว่าฉันแพ้ให้เธอ แต่ฉันแพ้ให้บริษัทซูซื่อ” ถังหซิวฉีพูดใส่โล่เฟยเอ๋อด้วยสีหน้าท่าทางเกรี้ยวกราด
โล่เฟยเอ๋อได้แต่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ถังหซิวฉี เธอคิดมากเกินไปแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยคิดจะสู้กับเธอ ทุกครั้งก็มีแต่เธอที่เป็นคนหาเรื่องเอง”
ถังหซิวฉีได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด ก็หัวเราะออกมาแบบไม่มีเสียงราวกับได้ฟังเรื่องตลกขบขัน “เธอบอกว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสู้กับฉันเหรอ โล่เฟยเอ๋อ เธอไม่เข้าใจจริง ๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่ ระหว่างเราสองคนมันกลายเป็นศัตรูกันตั้งนานแล้ว”
สองคนสู้รบกันไปมาห้าปีแล้ว กลายเป็นศัตรูกันนานแล้ว
โล่เฟยเอ๋อยิ้มในความโง่ของตัว ที่คิดว่าจะปรับความเข้าใจกับถังหซิวฉีได้
โล่เฟยเอ๋อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างนิ่ง ๆ ว่า “ถังหซิวฉี เธอแพ้แล้ว”
ประโยคนี้ของโล่เฟยเอ๋อ ทิ่มแทงใจของถังหซิวฉีมาก
“โล่เฟยเอ๋อ เธอมันสมควรตาย…” ถังหซิวฉีพูดพลางจะเข้าไปหาเรื่องโล่เฟยเอ๋อ
โชคดีที่โจวเฉิงเร็วกว่าเธอ จึงยืนขวางหน้าโล่เฟยเอ๋อไว้ได้
โจวเฉิงคว้ามือของถังหซิวฉีไว้ทัน จากนั้นก็พูดเสียงต่ำกับโล่เฟยเอ๋อ : “คุณผู้หญิงครับ ให้ผมจัดการถังหซิวฉีเองเถอะครับ”
โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างไม่ต้องคิด “ได้สิ”
โจวเฉิงพยักหน้าตอบรับสั้น ๆ ว่า อืม จากนั้นก็ก้มหน้ามองเข้าไปในตาของถังหซิวฉี พูดด้วยเสียงที่ดังพอจะได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น “ถังหซิวฉี เธอรู้ไหมว่าทำไมบ้านถังถึงล้มละลาย”
ถังหซิวฉีได้ยินที่โจวเฉิงพูด ก็หน้าซีดทันที “ทำไม”
โจวเฉิงไม่ได้ตอบคำถามของถังหซิวฉี แต่กลับถามออกไปว่า “ก่อนที่บ้านถังจะล้มละลาย เธอไปทำอะไรใครไว้ล่ะ”
ก่อนที่บ้านถังจะล้มละลาย เธอไปทำอะไรใครไว้เหรอ ตอนนั้นเธอให้คนไปจับตัวโล่เฟยเอ๋อ…
บ้านถังต้องล้มละลาย เป็นเพราะเธอไปรังแกโล่เฟยเอ๋องั้นเหรอ
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…” ถังหซิวฉีเอาแต่ส่ายหัวแล้วพูดว่า เป็นไปได้ สามคำนี้ไม่หยุด
เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว โจวเฉิงก็ส่งสายตาให้รปภ.
รปภ.รับคำสั่งทันที จากนั้นก็เข้าไปจับตัวถังหซิวฉีออกจากห้องรับแขก
หลังจากที่ถังหซิวฉีถูกลากตัวออกไป เย่รู่ไป๋ก็นำคาริน่าและคนอื่น ๆ ออกจากห้องรับแขก
เพียงครู่เดียว ในห้องรับแขกก็เหลือเพียงโจวเฉิงกับโล่เฟยเอ๋อ
“คุณผู้หญิงครับ” โจวเฉิงหันไปทำความเคารพโล่เฟยเอ๋อ
“คุณโจว ซูซีมู่ให้คุณมาเหรอ” ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าซูซีมู่ใช้ให้โจวเฉิงมาที่นี่ แต่โล่เฟยเอ๋อก็ยังเอ่ยถามออกไป
โจวเฉิงยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ใช่ครับ คุณผู้หญิง”
“ถังหซิวฉีบอกว่าที่จริงบริษัทดี้ก้วนได้รายชื่อผู้เข้าแข่งขันถึงเจ็ดรายชื่อ แต่เธอเอาออกสองรายชื่อ เพื่อ…” ประโยคหลังจากนั้นโล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดต่อ แต่เธอรู้ว่าโจวเฉิงคงเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด
โจวเฉิงพูดต่อว่า : “ผมคุยเรื่องนี้กับทางสมาคมอัญมณีแห่งหัวเซี่ยแล้วครับ ไม่มีปัญหาภายหลังแน่นอน”
“งั้นก็ดี” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถาม “วันนี้เขาไปทำงานหรือยัง”
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อออกมา ซูซีมู่ยังคงอยู่ในคฤหาสน์ ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงถามขึ้นมา
“ประธานซูดูแลลูกค้าอยู่ที่คลับดี้เหาครับ” โจวเฉิงตอบตามความจริง
เมื่อได้ยินที่โจวเฉิงพูดว่าซูซีมู่ประชุมอยู่ที่บริษัท โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกสบายใจ
แต่ก็ไม่ลืมที่จะกำชับโจวเฉิง “สภาพจิตใจเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อาจจะต้องรบกวนคุณช่วยดูแลด้วยนะ”
โจวเฉิงรู้ดีว่าเป็นเพราะเรื่องอะไรที่ทำให้ซูซีมู่อารมณ์ไม่ดี เพียงแต่เขาไม่สามารถบอกโล่เฟยเอ๋อได้ ได้แต่ตอบรับไป : “คุณผู้หญิงวางใจเถอะครับ ผมจะดูแลประธานซูให้ดี”
“อืม ขอบคุณมากคุณโจว” โล่เฟยเอ๋อเอ่ยขอบคุณพลางยิ้มให้โจวเฉิง
โจวเฉิงตอบกลับ “ไม่ต้องเกรงใจครับ เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
โล่เฟยเอ๋อได้แต่ยิ้มกลับไป จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นมาว่า : “งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ”
“ครับ คุณผู้หญิง”
…..
ขณะที่โจวเฉิงเดินออกมาจากห้องรับแขก เย่รู่ไป๋ก็รออยู่ด้านนอกห้อง “ผู้ช่วยโจวครับ”
โจวเฉิงขานรับ อืม แล้วเอ่ยพูด : “ผู้จัดการฝ่ายเย่ ฉันมีเรื่องจะรบกวนคุณหน่อย”
เย่รู่ไป๋พยักหน้า “มีเรื่องอะไร ผู้ช่วยโจวสั่งมาได้เลยครับ”
โจวเฉิงมองหน้าเย่รู่ไป๋แล้วพูดว่า “ผู้จัดการฝ่ายเย่ ต่อไปนี้ฝากคุณดูแลคุณผู้หญิงด้วยนะ”
การที่บอกฐานะที่แท้จริงของโล่เฟยเอ๋อให้เย่รู่ไป๋รู้นั้น เป็นความตั้งใจของซูซีมู่
โจวเฉิงออกหน้าแทนโล่เฟยเอ๋อครั้งแล้วครั้งเล่า เย่รู่ไป๋ก็เริ่มจะเดาได้ว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นใคร
แต่ถึงยังไงก็ไม่เหมือนกับบอกเขาไปตรง ๆ เพื่อให้เขาได้ดูแลโล่เฟยเอ๋อในขณะที่อยู่ในบริษัทดี้ก้วน
“คุณผู้หญิงเหรอ คุณผู้หญิงของใครกันครับ” เย่รู่ไป๋ทำหน้ามึนงง
โจวเฉิงใช้สายตาเตือนเย่รู่ไป๋ แล้วพูดว่า : “คุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากหรอก แค่ดูแลคุณผู้หญิงให้ดีก็พอ”
เย่รู่ไป๋ไม่ใช่คนโง่ กลับกันเขานั้นฉลาดมากด้วยซ้ำ
โจวเฉิงพูดถึงขนาดนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องฐานะของโล่เฟยเอ๋อ
“ได้ครับ ผู้ช่วยโจว”
โจวเฉิงตอบกลับว่า อืม อย่างพอใจ จากนั้นก็กำลังจะกลับไป
แต่เพิ่งเดินไปได้สองก้าว เขาก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้เลยหยุดเดิน หันกลับไปมองเย่รู่ไป๋แล้วพูดว่า : “อ้อ ใช่แล้ว คุณผู้หญิงไม่ค่อยชอบให้ใครรู้เรื่องฐานะที่แท้จริงของเธอ ฉะนั้น ก็อย่าทำตัวมีพิรุทต่อหน้าเธอ”
ทั้งต้องดูแลทั้งไม่ให้ทำตัวมีพิรุท…เย่รู่ไป๋รู้สึกว่างานนี้ยากมากเหลือเกิน
งานยากจะใช้นายไม่ได้เหรอ โจวเฉิงจ้องไปที่เย่รู่ไป๋ โดยไม่หันกลับแล้วจากไป
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าเย่รู่ไป๋รู้ฐานะของเธอแล้ว หลังกลับมาถึงห้องอบรมพิเศษ
โล่เฟยเอ๋อก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง เปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนแรกตั้งใจว่าจะโทรศัพท์หาซูซีมู่ จะโทรไปขอบคุณเขา แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าโจวเฉิงบอกว่าซูซีมู่กำลังต้อนรับลูกค้าอยู่ เธอเลยเปลี่ยนมาส่งข้อความ “ขอบคุณ” ให้ซูซีมู่แทน
หลังจากส่งข้อความ โล่เฟยเอ๋อก็วางโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง แล้วหยิบกระดาษวาดรูปและปากกาออกมาจากกระเป๋า เตรียมที่จะทำงานวันนี้
มือขวาที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อเช้า ถึงแม้จะไม่สาหัส แต่เวลาจับปากกาก็รู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ตามโล่เฟยเอ๋อก็จะอู้งานเพราะเจ็บมือไม่ได้
คิดไม่ถึงว่าเธอเพิ่งจับปากกาวาดไม่เท่าไหร่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เมื่อหันไปดูก็เห็นว่าเป็นซูซีมู่โทรเข้ามา โล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมาแล้วรีบกดรับสายทันที
“นายไม่ได้กำลังต้อนรับลูกค้าอยู่เหรอ ทำไมถึงว่างโทรมา”
ซูซีมู่ตอบ “เพิ่งจะมีเวลาว่างนิดหน่อยพอดี”
โล่เฟยเอ๋อตอบกลับ “อ๋อ” จากนั้นก็เอ่ยขอบคุณซูซีมู่อีกครั้ง “เรื่องถังหซิวฉี ขอบคุณนายมากนะ”
“ไม่เป็นไร” ซูซีมู่ตอบกลับเรียบ ๆ จากนั้นก็เอ่ยถาม “ยังเจ็บมืออยู่ไหม”
ถึงแม้น้ำเสียงจะราบเรียบ แต่โล่เฟยเอ๋อก็ฟังออกว่าน้ำเสียงนั้นมีความกระวนกระวายใจและรู้สึกผิดปนอยู่
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังมือขวาที่กำลังจับปากกาอยู่ ยังคงรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่ก็พูดโกหกไปว่า “ไม่เจ็บแล้ว”
ซูซีมู่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดขึ้นมา “ไม่เจ็บแล้ว แต่ก็มองข้ามไม่ได้นะ วันนี้อย่าใช้มือขวาจับปากกา แล้วก็ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ”
“ฉันรู้แล้ว” โล่เฟยเอ๋อตอบกลับอย่างเชื่อฟัง