งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 263

ตอนที่ 263

บทที่ 263 เขาเป่าผมให้เธออย่างมีความสุข

จากที่โล่เฟยเอ๋อได้คุยกับหซิวหชูเฉียว ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหซิวหชูเฉียวถึงจะเอาเด็กออก

ผู้ชายคนนั้นมีอำนาจมาก เรื่องที่เธอเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อซานไม่กี่วันผู้ชายคนนั้นก็คงจะรู้เรื่องเข้าจนได้ ถึงตอนนั้นผู้ชายคนนั้นก็คงจะหาเบาะแสจากโรงพยาบาลชื่อซาน แล้วหาเธอจนพบ เรื่องเก็บเด็กไว้คงไม่สำเร็จแน่นอน

ขณะที่โล่เฟยเอ๋อด่าผู้ชายเลวคนนั้นชุดใหญ่ ก็ได้ช่วยหซิวหชูเฉียวคิดหาทางออก ในที่สุดเธอก็นึกถึงซูซีมู่… “เฉียวเฉียว มีคนหนึ่งสามารถช่วยซ่อนเธอไว้ได้ ผู้ชายคนนั้นจะหาเธอไม่พบแน่นอน”

“จริงเหรอ?” หซิวหชูเฉียวคลางแคลงอยู่บ้าง เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่าเธอ ว่าครอบครัวของผู้ชายคนนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน

“จริงสิ ฉันรับประกัน” ขณะที่โล่เฟยเอ๋อเอ่ยปากรับประกันกับหซิวหชูเฉียว ในใจก็คิดว่าตอนที่กลับไป จะพูดเรื่องนี้กับซูซีมู่ยังไงดี

หซิวหชูเฉียวอาจจะไม่เชื่อใจคนอื่น แต่กับโล่เฟยเอ๋อเธอเชื่อใจแน่นอน “เฟยเอ๋อ ฉันเชื่อเธอนะ”

“อืม เดี๋ยวฉันกลับไปก็จะคุยกับ…” โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือซูซีมู่ ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอรีบบอกหซิวหชูเฉียว “เฉียวเฉียว ฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะ” จากนั้นก็เดินไปรับโทรศัพท์ที่นอกห้องผู้ป่วย

“ฮัลโหล!” เป็นเพราะดีใจ น้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อจึงฟังดูคึกคักเล็กน้อย

“เพื่อนเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” น้ำเสียงซูซีมู่ฟังดูเรียบ ๆ ไม่ผิดปกติอะไร

โล่เฟยเอ๋อหันไปมองทางห้องผู้ป่วย จากนั้นก็ตอบ “เธอไม่เป็นอะไร”

ซูซีมู่ตอบกลับเบา ๆ ว่า อืม จากนั้นก็เอ่ยถาม “เธอกลับมาทานมื้อค่ำไหม? ฉันจะให้คนรับใช้เตรียมของโปรดเธอไว้ให้”

“อาหารค่ำ?” โล่เฟยเอ๋อเพิ่งรู้ตัว ว่าตอนนี้เริ่มฟ้าเริ่มมืดแล้ว จึงรีบตอบไป : “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ”

“อืม” ซูซีมู่เงียบไปสักครู่ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาอีก “ระวังตัวด้วยนะ”

“รู้แล้วค่ะ” โล่เฟยเอ๋อทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คือตอบรับอย่างเชื่อฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล จนคนที่ได้ยินรู้สึกอบอุ่นใจไปด้วย

“งั้นฉันรอเธอนะ”

โล่เฟยเอ๋อตอบกลับ ค่ะ จากนั้นก็วางสายไป แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย “เฉียวเฉียว ค่ำแล้ว ฉันต้องกลับแล้วนะ”

“อืม เธอกลับไปเถอะ” หซิวหชูเฉียวพยักหน้า

“งั้นพรุ่งนี้ฉันค่อยมาเยี่ยมเธอนะ” โล่เฟยเอ๋อโบกมือลาหซิวหชูเฉียว จากนั้นก็หยิบกระเป๋าบนเก้าอี้ขึ้นมาแล้วออกจากโรงพยาบาลไป

ตอนออกมาจากโรงพยาบาล อากาศด้านนอกดูอึมครึมน่าหดหู่มาก เหมือนกำลังจะมีพายุฝนโหมกระหน่ำ

โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว แล้วขึ้นรถของคนขับรถหลี่ไป

รถเพิ่งขับมาได้ครึ่งทาง พายุฝนก็โหมกระหน่ำ ฝนเม็ดเท่าถั่วเหลืองตกลงมาจากฟ้า กระทบกับหลังคารถ เสียงดังเปาะแปะ

น้ำฝนไหลผ่านกระจกรถ วิวด้านนอกดูเลือนราง

โล่เฟยเอ๋อเอนพิงกับที่นั่งด้านหลัง มองออกไปอย่างเงียบ ๆ

เพราะฝนตกค่อนข้างหนัก พื้นถนนจึงค่อนข้างลื่น ดังนั้นรถจึงขับช้าลง

ตอนที่รถกำลังเข้าในเขตคฤหาสน์ โล่เฟยเอ๋อก็งัวเงียง่วงนอนแล้ว

ทันใดนั้น เธอก็เห็นเงาเลือนรางเงาหนึ่งอยู่ตรงด้านหน้าท่ามกลางสายฝน

ถึงแม้จะเลือนราง แต่เธอยังคงมองออกว่านั่นคือซูซีมู่

เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ ถือร่มยืนอยู่ข้างทาง

แสงไฟหน้ารถสาดส่องเข้าที่เรือนร่างของเขา ทำให้เขาดูเป็นประกายแวววาว สง่างามราวกับไม่ใช่ความจริง

ใจโล่เฟยเอ๋อเต้นแรงมาก ทันใดนั้น เธอก็เอ่ยปากให้หยุดรถ

จากนั้นก็เปิดประตูรถเดินออกไปด้านนอก

“คุณผู้หญิงครับ ร่ม!” คนขับรถหลี่รีบหยิบร่มตามลงไป

แต่ก็เห็นว่าโล่เฟยเอ๋อวิ่งเข้าไปอยู่ใต้ร่มของซูซีมู่แล้ว

ตอนที่จมูกได้สูดกลิ่นหอมสดชื่นที่คุ้นเคยนั้น โล่เฟยเอ๋อถึงได้มีสติขึ้นมา ว่าตัวเองทำอะไรลงไป

รู้สึกเขินอายเล็กน้อยจนหน้าแดง โล่เฟยเอ๋อจึงแกล้งทำเป็นนิ่งแล้วเอ่ยถาม “เอ่อ…ฝนตกหนักขนาดนี้ ทำไมนายถึงมารออยู่ด้านนอกล่ะ?”

ซูซีมู่เห็นโล่เฟยเอ๋อวิ่งเข้ามา ตัวโดนฝนเปียกปอนโดยไม่รู้ตัว น้ำฝนหยดแหมะลงบนปลายผมที่ดำราวกับสีหมึกของเธอ ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นดูสวยงามมากเหลือเกิน ซูซีมู่รู้สึกใจละลายแล้ว สายตาก็ดูอบอุ่นขึ้นมา ค่อย ๆ เช็ดน้ำฝนบนแก้มของเธอโดยไม่พูดอะไร

เมื่อกี้ที่โล่เฟยเอ๋อวิ่งเข้ามาหาเขา เขาไม่ทันตั้งตัว เดิมทีคิดว่ารถจะจอดเทียบข้างหน้าเขา แต่คิดไม่ถึงว่ายัยบื้อนี่จะลงจากรถแล้ววิ่งเข้ามา เขารู้สึกเป็นห่วง แต่ก็รู้สึกดีใจมาก

โล่เฟยเอ๋อถูกเขามองจนรู้สึกเขินอาย ขณะที่กำลังจะหลบสายตาไปทางอื่น ก็ถูกซูซีมู่ดึงเข้าไปในอ้อมกอด “เสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว รีบเข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า”

“ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า เดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับซูซีมู่ที่โอบกอดเธอไว้

ฝนเทกระหน่ำลงมา สองคนเดินอยู่ท่ามกลางสายฝน ช่างดูอบอุ่นและหวานซึ้งมาก จนทำให้ทุกอย่างรอบตัวดูมืดสลัวลงทันที…

หลังจากเข้ามาในห้อง โล่เฟยเอ๋อก็ถูกซูซีมู่ลากไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ แม้แต่เสื้อผ้า ซูซีมู่ก็เป็นคนไปหยิบให้เธอ

โล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ มองไปยังเสื้อผ้าที่วางอยู่บนชั้น ก็รู้สึกสุขใจ

เป็นเพราะตอนอาบน้ำได้สระผมไปด้วย และก็กลัวว่าซูซีมู่จะรอทานข้าวนานเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เป่าผมให้แห้ง แล้วออกมาจากห้องอาบน้ำเลย

ซูซีมู่ที่กำลังรอโล่เฟยเอ๋ออยู่ด้านนอกห้องน้ำ เมื่อเห็นผมของโล่เฟยเอ๋อยังเปียกอยู่ ก็ขมวดคิ้วถาม “ทำไมไม่เป่าผมให้แห้ง?”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็แห้งแล้ว พวกเราไปทานข้าวกันเถอะ” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างไม่สนใจเท่าไหร่

“นั่งรอตรงนั้นแหละ ฉันจะไปหยิบไดร์เป่าผม” ซูซีมู่ชี้ไปยังเก้าอี้ที่วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

โล่เฟยเอ๋ออึ้งนิดหน่อย แล้วมองไปยังห้องน้ำ แต่ก็ยอมทำตามที่ซูซีมู่สั่ง นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

หลังจากที่ซูซีมู่หยิบไดร์เป่าผมออกมาจากห้องน้ำ ก็เดินมาเป่าผมให้โล่เฟยเอ๋อทันที โล่เฟยเอ๋อส่องกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูเขาอยู่เงียบ ๆ

เสียงของไดร์เป่าผม ดังอยู่ข้างหูของโล่เฟยเอ๋อประมาณห้านาทีก็หยุดลง

เป่าผมเสร็จแล้ว ซูซีมู่ก็หยิบหวีขึ้นมาจากบนโต๊ะเครื่องแป้ง หวีผมให้โล่เฟยเอ๋อ เมื่อหวีผมจนเขาพอใจแล้วก็หยุดลง “เสร็จแล้ว!”

โล่เฟยเอ๋อมองผ่านกระจก เห็นสีหน้าพึงพอใจของเขา ก็ยิ้มออกมา “งั้นพวกเราไปทานข้าวกันเถอะ”

“อืม ไปทานข้าวกัน” ซูซีมู่พยักหน้า ยื่นมือไปกุมมือเธอไว้ ดึงเธอขึ้นจากเก้าอี้

จากนั้นทั้งคู่ก็จูงมือกัน ลงไปทานข้าวที่ชั้นล่าง

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท