บทที่ 262 เป็นเห้อจิ้นเหยาที่สมควรตายอีกแล้ว
ขณะที่ซูซีมู่เข้าห้อง โล่เฟยเอ๋อก็เพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำ
เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็พูดออกมาว่า : “เตรียมน้ำให้อาบเรียบร้อยแล้ว ให้ฉันไปหยิบเสื้อผ้าให้ไหม?”
ซูซีมู่ที่กำลังถอดเสื้อคลุมออก ตอบไปว่า : “อืม หยิบชุดอยู่บ้านให้ฉันชุดหนึ่งละกัน”
“ได้ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า หมุนตัวเพื่อจะไปหยิบเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ทันใดนั้น โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
หซิวหชูเฉียวโทรเข้ามา
“ฮัลโหล? เฉียวเฉียว มีอะไรเหรอ?”
โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่เสียงของหซิวหชูเฉียว แต่เป็นเสียงของผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง “สวัสดี ไม่ทราบว่ารู้จักเจ้าของโทรศัพท์ไหม?”
“รู้จัก ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอเป็นใคร?” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างรู้สึกงงเล็กน้อย
“ฉันเป็นพยาบาลของโรงพยาบาลชื่อซาน เจ้าของโทรศัพท์เป็นลมอยู่ด้านนอก แล้วมีคนพามาส่งที่โรงพยาบาลของพวกเรา ฉันเลยหาเบอร์โทรศัพท์ของเธอจากโทรศัพท์เจ้าของเครื่อง”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด ว่าหซิวหชูเฉียวอยู่โรงพยาบาล โล่เฟยเอ๋อก็ตกใจ จากนั้นก็พูดว่า : “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสาย โล่เฟยเอ๋อก็พูดกับซูซีมู่ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า : “ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอก”
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนที่โล่เฟยเอ๋อทิ้งเขาไว้แล้วออกไปข้างนอก ซูซีมู่จะไม่พอใจ แต่ตอนนี้ซูซีมู่ได้ยินจากที่โล่เฟยเอ๋อคุยโทรศัพท์แล้วว่าเธอจะไปพบหซิวหชูเฉียว ดังนั้นซูซีมู่จึงพยักหน้าเบา ๆ “เธอรอฉันเดี๋ยวนะ ฉันขอเปลี่ยนเสื้อเชิ้ตก่อน แล้วจะไปส่งเธอ”
ซูซีมู่ที่กำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องแต่งตัวถูกโล่เฟยเอ๋อดึงเอาไว้
“นายไม่ต้องไปส่งหรอก นายบาดเจ็บอยู่ พักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ”
ซูซีมู่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นห่วงเขา เลยเชื่อฟังเธอ ไม่ไปส่งเธอ แต่ให้คนขับรถหลี่ไปส่งโล่เฟยเอ๋อแทน
เมื่อก่อนโล่เฟยเอ๋อไม่ยอมนั่งรถที่มีคนขับรถ เป็นเพราะเธอโกรธซูซีมู่
แต่ตอนนี้เธอกับซูซีมู่เข้าใจกันดีแล้ว เธอเลยไม่ปฏิเสธ
เมื่อโล่เฟยเอ๋อมาถึงโรงพยาบาล ก็ได้ยินหมอพูดกล่อมให้หซิวหชูเฉียวอย่าเอาเด็กออกพอดี
เธอถึงได้รู้ว่าที่หซิวหชูเฉียวเป็นลมกลางทาง นั่นเป็นเพราะเธอกำลังตั้งครรภ์ และเมื่อหซิวหชูเฉียวรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ก็เลยอยากให้หมอทำแท้งให้
หลังจากรอให้หมอออกไป หซิวหชูเฉียวก็เห็นโล่เฟยเอ๋อที่อยู่ข้างประตู “เฟยเอ๋อ เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”
“เมื่อกี้มีพยาบาลใช้โทรศัพท์ของเธอโทรหาฉัน ฉันเลยมาที่นี่” โล่เฟยเอ๋อพูดพลางเดินเข้าไปนั่งที่ข้างเตียงของหซิวหชูเฉียว
หซิวหชูเฉียว อ๋อ ขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วเอ่ยถาม “เธอ…เมื่อกี้เธอได้ยินหมดแล้วเหรอ?”
“อืม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วเอ่ยถาม “ทำไมต้องเอาเด็กออก?”
โล่เฟยเอ๋อที่สูญเสียลูกไป เอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมหซิวหชูเฉียวถึงได้ใจดำจะเอาเด็กออก
“เฟยเอ๋อ ฉันไม่อยากให้เด็กเกิดออกมาโดยไม่มีพ่อ” หซิวหชูเฉียวก้มหน้าตอบออกมา
โล่เฟยเอ๋อตกใจ จากนั้นก็ถามออกมาอย่างโมโห “ผู้ชายคนนั้นไม่อยากรับผิดชอบเหรอ?”
“ไม่ใช่ เขาไม่รู้ว่าฉันตั้งครรภ์” หซิวหชูเฉียวส่ายหน้า
โล่เฟยเอ๋อมองหซิวหชูเฉียวอย่างไม่เข้าใจ “งั้นเธอ…”
“หลังจากเรียนจบ ฉันก็คบกับเขามาตลอด เป็นคู่รักที่รักกันมากคู่หนึ่ง ตอนแรกฉันคิดว่าฉันรักเขา คิดว่าจะอดทนรอถึงวันที่เขาจะหยุดอยู่ฉันได้ แต่สี่ปีมานี้ ฉันไม่เห็นว่าเขาคิดจะหยุดเลย มีแต่รอแล้วเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันเหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากวิ่งตามเขาแล้ว ฉันเลยเลือกที่จะออกจากชีวิตเขา ตัดการติดต่อกับเขาทุกอย่าง แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ฉันจากเขามา มีลูกของเขาอยู่ด้วย” หซิวหชูเฉียวยกมือขึ้นมาลูบบริเวณท้องน้อยของตัวเองเบา ๆ
โล่เฟยเอ๋อเห็นท่าทีของหซิวหชูเฉียว ก็รู้ทันทีว่าเธอตัดใจทิ้งลูกไม่ได้ แต่ที่คิดจะเอาเด็กออก เกรงว่าจะทำไปเพราะอารมณ์โกรธ เลยพูดกล่อมเธอ : “เธอเก็บเด็กไว้ดีกว่านะ!”
“เก็บไว้เหรอ?” หซิวหชูเฉียวเงยหน้ามองโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “ใช่ไง เก็บเด็กเอาไว้ เลี้ยงเขาให้เติบโต”
หซิวหชูเฉียวไม่พูดอะไรออกมา ได้แต่มองที่ท้องตัวเองอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปสักพักใหญ่ เธอก็เงยหน้าขึ้น แล้วเผยยิ้มออกมา “เฟยเอ๋อ ขอบคุณเธอนะ ฉันจะเก็บเขาไว้”
เก็บลูกเอาไว้ เลี้ยงเขาให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่
“ยัยบื้อเฉียวเฉียว จะขอบคุณทำไมกันล่ะ?” โล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมา จากนั้นก็ชี้ไปยังท้องที่ยังดูไม่มีอะไรของหซิวหชูเฉียวแล้วเอ่ยพูด : “เธอนะ หน้าที่แรกที่ต้องทำตอนนี้ ก็คือดูแลลูกชายบุญธรรมของฉันให้ดี”
“อืม ฉันจะดูแลเขาให้ดี” หซิวหชูเฉียวพยักหน้าตอบรับอย่างตั้งใจ
น่าจะเป็นเพราะสัญชาตญาณความเป็นแม่ ใบหน้าของหซิวหชูเฉียวจึงมีรัศมีความเป็นแม่เปล่งประกายออกมา
โล่เฟยเอ๋อมองไปด้วยสายตาที่ปนความอิจฉา
มีลูกนี่ดีจังเลย แต่น่าเสียดาย ที่เธอและลูกของเธอไม่มีวาสนาต่อกัน…
โล่เฟยเอ๋อออกไปได้ไม่นาน ซูซีมู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากโจวเฉิง รายงานเรื่องที่โล่เฟยเอ๋อถูกคนร้ายจับตัวไป
“ประธานซูครับ คนนั้นซัดทอดถึงคนที่อยู่เบื้องหลังแล้วครับ”
เมื่อได้ยิน คนที่อยู่เบื้องหลัง ซูซีมู่ก็ถามออกไปด้วยใจที่เต้นแรง “ใคร?”
“เห้อจิ้นเหยาครับ มันบอกว่าเห้อจิ้นเหยาให้เงินมันหนึ่งล้าน ให้มันจับตัวคุณผู้หญิงไปยังที่ที่เธอบอกไว้”
เมื่อได้ยินว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือเห้อจิ้นเหยา ซูซีมู่ก็แทบจะบีบโทรศัพท์จนแหลกคามือ
เห้อจิ้นเหยาสมควรตายจริง ๆ ทำร้ายลูกของพวกเขาจนตายยังไม่พอ ยังใส่ร้ายจนเฟยเอ๋อเข้าใจเขาผิดจนเกือบจะหนีเขาไปยังไม่พอ นี่ยังคิดจะทำร้ายเฟยเอ๋ออีก
ไฟแค้นปะทุขึ้นมาในใจของซูซีมู่ จากนั้นก็เริ่มทำลายข้าวของ
น้อยครั้งที่ซูซีมู่จะโกรธ ยิ่งโกรธจนเดือดดาลยิ่งน้อยมาก
ครั้งก่อนที่โกรธจนเดือดดาล ทำให้เขาทำลายห้องจนพังยับเยิน
แล้วโกรธครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะทำลายอะไรลงไปอีก
เมื่อได้ยินเสียงทำลายข้าวของดังมาจากในโทรศัพท์ โจวเฉิงก็พอจะเดาได้ทันที
เสียงทำลายข้าวของดังอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ถึงจะหยุดลง โจวเฉิงเองก็ฟังอยู่เงียบ ๆ ครึ่งชั่วโมง
ตอนนี้เสียงซูซีมู่ก็ดังมาจากในโทรศัพท์
“โจวเฉิง?”
โจวเฉิงควบคุมสติไว้ แล้วตอบกลับไปด้วยความเคารพ “ครับ ท่านประธาน”
“เริ่มจัดการเห้อจิ้นเหยาอย่างที่ฉันสั่งไว้ก่อนหน้านี้” ขณะที่ซูซีมู่พูดว่า จัดการ สองคำนี้นั้น เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
โจวเฉิงตัวสั่นไปทั้งตัว จากนั้นก็ถามอย่างสงสัยว่า “ตอนนี้ดำเนินการเลยเหรอครับ?”
“จัดการทันที พรุ่งนี้ฉันต้องเห็นผลลัพธ์”
“ครับ ท่านประธาน”
หลังจากที่โจวเฉิงวางสายไป ก็รีบไปจัดการหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งทันที