บทที่ 264 การจูบอย่างมีความสุขที่ถูกขัดจังหวะ
ขณะที่กำลังทานข้าว โล่เฟยเอ๋อก็พูดกับซูซีมู่ เรื่องที่ต้องการให้เขาช่วย
“ซูซีมู่ ฉันมีเรื่องอยากให้นานช่วยหน่อย”
ซูซีมู่พยักหน้าโดยไม่ต้องคิด “อืม ได้สิ”
เมื่อเห็นซูซีมู่ไม่ถามสักนิดว่าจะให้ช่วยเรื่องอะไร ก็ตกปากรับคำเลย โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเหมือนพูดไม่ออกขึ้นมา
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อเงียบไปไม่ยอมพูดว่าจะให้ช่วยเรื่องอะไร จึงเงยหน้ามองโล่เฟยเอ๋อ เห็นโล่เฟยเอ๋อกำลังจ้องเขาตาไม่กระพริบพอดี “ทำไมเหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบคำถามซูซีมู่ เพียงแต่ถามว่า “ซูซีมู่ ทำไมนายไม่ถามว่าฉันจะให้นายช่วยเรื่องอะไร?”
“ขอแค่เธอพูดมา ฉันทำได้หมดทุกอย่าง” ซูซีมู่ตอบอย่างเรียบ ๆ
ขอแค่เธอพูดมา ฉันทำได้หมดทุกอย่าง…ประโยคนี้ทิ่มเข้าในจุดที่อ่อนไหวที่สุดในหน้าอกข้างซ้ายของโล่เฟยเอ๋อ
“ซูซีมู่ วันนี้ที่ฉันไปโรงพยาบาลเพราะฉันไปเยี่ยมเฉียวเฉียวเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน”
ถึงแม้ซูซีมู่จะรู้อยู่แล้วว่าโล่เฟยเอ๋อไปเยี่ยมหซิวหชูเฉียว แต่ก็ยังคงพยักหน้าเออออตามไป “อืม”
“เฉียวเฉียวเธอท้อง เพราะมีเหตุผลบางอย่าง จึงไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ ซูซีมู่ ฉันอยากให้นายช่วยหาที่พัก ให้เธออาศัยอยู่หน่อย”
เรื่องที่หซิวหชูเฉียวท้อง ทำให้ซูซีมู่รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ส่วนเรื่องที่ไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ โล่เฟยเอ๋อไม่บอกเขา เขาก็ไม่อยากถามอะไร
ซูซีมู่ตอบรับ อืม : “เมือง B เป็นยังไง ฉันมีที่ส่วนตัวอยู่ที่ริมทะเลเมือง B นอกจากโจวเฉิง ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีก”
เมื่อได้ยินว่าเป็นริมทะเล โล่เฟยเอ๋อก็ตาลุกวาว “ที่อ่าวโป๋ไห่เหรอ?”
“อืม อ่าวโป๋ไห่” ซูซีมู่พยักหน้า ผ่านไปชั่วครู่ ก็เอ่ยถาม “เธออยากไปเที่ยวที่อ่าวโป๋ไห่ไหม?”
พอดีพรุ่งนี้จะเริ่มจัดการเห้อจิ้นเหยา หากพาโล่เฟยเอ๋อออกจากเมือง A ไปสักกี่วัน ก็ไม่เลวนะ
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้สักนิดว่าซูซีมู่กำลังคิดอะไร จึงพยักหน้าตอบรับไป “อยากไปสิ”
“ฉันจะให้โจวเฉิงทำเรื่องลางานให้เธอ พรุ่งนี้พวกเราไปส่งเพื่อนของเธอไปเมือง B ด้วยกัน แล้วก็อยู่เที่ยวที่นั่นสักสองสามวัน” ซูซีมู่พูดพลางใช้ตะเกียบคีบกระดูกหมู่ชิ้นหนึ่งขึ้นมา แล้ววางลงในถ้วยของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อได้ยินว่าจะให้โจวเฉิงทำเรื่องลางานให้เธอ สีหน้าของเธอก็ดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ “เรื่องนั้น…ไม่ต้องหรอก”
ซูซีมู่มองไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่างไม่เข้าใจ “หืม?”
“เรื่องนั้น…ฉัน…ฉันลาออกแล้ว…” โล่เฟยเอ๋อพูดติดอ่างอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะพูดออกมาได้
ซูซีมู่เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้โล่เฟยเอ๋อคิดจะหย่ากับเขา เลยลาออกจากงาน
ในใจเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ แต่ยังคงแกล้งทำให้สีหน้าดูเป็นปกติ ตอบกลับไปคำเดียว “อ๋อ”
เงียบไปสักครู่ ก็เอ่ยพูดต่อว่า “ลาออกแล้วก็ดี”
โล่เฟยเอ๋อจับตะเกียบแน่น เงยหน้าขึ้นมามอง เตรียมที่จะอธิบายเรื่องที่เธอลาออกจากงานให้ซูซีมู่ฟัง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ซูซีมู่ก็วางถ้วยและตะเกียบลง ลุกขึ้นจากโต๊ะ “ฉันทานเสร็จแล้ว เธอค่อย ๆ ทานละกัน ทานเสร็จก็รีบพักผ่อน”
ตอนที่กำลังจะเอ่ยปากอธิบาย แล้วต้องเปลี่ยนเป็นพูดคำว่า ค่ะ นั้น โล่เฟยเอ๋อก็ทนไม่ไหวจนเอ่ยเรียกชื่อซูซีมู่ออกมา “ซูซีมู่!”
“หืม?” ซูซีมู่หยุดเดิน หันกลับมามองโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อเดินมาหยุดตรงหน้าซูซีมู่ ก้มหัว แล้วพูดอย่างน่าสงสารว่า “ซูซีมู่ เรื่องลาออกจากงาน ฉันอยากจะขอโทษนาย เป็นความผิดฉันเอง ฉันไม่ควรเชื่อคนอื่น แล้วมาเข้าใจนายผิดไป…” โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ เสียงของซูซีมู่ก็ดังขึ้นผ่านหัวเธอ “ฉันไม่ได้โกรธ”
“จริงเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมา
ซูซีมู่พยักหน้า “จริงสิ”
“งั้นก็ดี” โล่เฟยเอ๋อฉีกยิ้มออกมา
ซูซีมู่จ้องหน้าเธอ โดยไม่กระพริบตาสักนิด
ด้านข้างของใบหน้าสาวน้อย ใต้แสงไฟที่สาดส่อง ส่องให้เห็นถึงความอบอุ่น อีกทั้งขนตาที่ยาวและงอนของเธอ ดวงตาที่สดใสคู่นั้น กระพริบไปมา
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ยินเสียงตอบรับของซูซีมู่ ก็หันมามองซูซีมู่ จังหวะที่หันมาสบสายตาเข้ากับสายตาของซูซีมู่พอดี
วินาทีนั้น รอบตัวก็เงียบขึ้นมาทันที สายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกัน
ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอบอวลไปด้วยความรัก นัยน์ตาของซูซีมู่ดำขึ้น จากนั้นเขาก็ขยับหัวเข้าไปใกล้กับใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อมีลางสังหรณ์ว่าเดี๋ยวต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ เธอไม่ได้หลบหลีก แต่ค่อย ๆ หลับตาลง
เธอมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แต่เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีลมหายใจร้อนผ่าวพ่นออกมาจากปากของซูซีมู่ และกำลังเข้าใกล้เธอมากขึ้นทุกที ทุกที…
ในตอนที่โล่เฟยเอ๋อคิดว่าปากของพวกเขากำลังประกบกันนั้น ก็มีเสียงคนรับใช้ดังขึ้นมา “คุณผู้ชายคะ คุณท่านโทรเข้ามาค่ะ”
โล่เฟยเอ๋อก็ลืมตาขึ้น แล้วเห็นใบหน้าหล่อเหลาของซูซีมู่อยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
ซูซีมู่ยืนตัวตรง พึมพำออกมาเบา ๆ “โธ่เอ้ย ปู่โทรหาฉัน”
แก้มของโล่เฟยเอ๋อแดงระเรื่อ รีบพูดออกไปว่าฉันไปทานข้าวต่อนะ จากนั้นก็หันตัววิ่งกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง แล้วทานข้าวต่อไป
ซูซีมู่จ้องมองไปยังโล่เฟยเอ๋อ จากนั้นก็ไปรับโทรศัพท์ที่ห้องรับแขก
ขณะที่โล่เฟยเอ๋อทานข้าวเสร็จแล้วไปยังห้องรับแขก ก็เห็นว่าซูซีมู่ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่
คิดถึงเมื่อกี้ที่พวกเขาเกือบจะจูบกันที่ห้องอาหาร โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเขินอายไม่กล้าสู้หน้าซูซีมู่ เลยจะหมุนตัววิ่งขึ้นไปชั้นบน
นัยน์ตาสีดำของเขานั้นสะท้อนให้เห็นรูปร่างของผู้หญิงกำลังวิ่งอย่างรีบร้อน ซูซีมู่จึงเผลอยิ้มออกมา
ถึงแม้เขาจะอยากใกล้ชิดโล่เฟยเอ๋อมากแค่ไหน แต่เขาอยากรอหลังจากสารภาพรักก่อน แล้วค่อยใกล้ชิดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างเป็นทางการ
พรุ่งนี้จะเริ่มจัดการกับเห้อจิ้นเหยา เวลาหนึ่งสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว
ไปเที่ยวอ่าวโป๋ไห่หนึ่งสัปดาห์ค่อยกลับมา อีกสองวันก็จะถึงวันเกิดของเขาแล้ว เขาจะสารภาพรักกับเธอในวันเกิดวันนั้น…
ซูซีมู่วางแผนไว้ในใจแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าแผนที่วางไว้จะต้องเปลี่ยนแปลง
บางเรื่อง ไม่ได้วางแผนไว้ แต่บรรยากาศก็พาไปเอง…
เพราะตั้งใจไว้ว่าจะพาโล่เฟยเอ๋อไปเที่ยวที่อ่าวโป๋ไห่หนึ่งสัปดาห์ ซูซีมู่จึงจำเป็นต้องทำงานให้เสร็จก่อนล่วงหน้า
ดังนั้นคืนนี้ดึกมากแล้ว เขาจึงยังอ่านเอกสารอยู่
โล่เฟยเอ๋อกระหายน้ำขึ้นมาตอนดึก จึงลงไปชั้นล่างเพื่อดื่มน้ำ กลับพบว่าห้องหนังสือของซูซีมู่ยังคงเปิดไฟ จึงได้ผลักประตูห้องหนังสือเข้าไป
“ซูซีมู่ ทำไมนายยังไม่นอนล่ะ?”
ซูซีมู่ได้ยินเสียงโล่เฟยเอ๋อ ก็เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร “ยังมีเอกสารอยู่หลายฉบับที่ยังอ่านไม่เสร็จ เธอตื่นขึ้นมาทำไมล่ะ?”
สายตาของซูซีมู่สังเกตไปที่ชุดนอนบาง ๆ บนเรือนร่างของโล่เฟยเอ๋อ จึงขมวดคิ้วเป็นปม “ออกมาดื่มน้ำทำไมไม่ใส่เสื้อคลุมสักตัว”
ซูซีมู่พูดพลางลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เอาเสื้อคลุมของตัวเองถอดออกมา แล้วคลุมไปบนตัวของโล่เฟยเอ๋อ
“ฉันไม่ต้องใส่หรอก ดื่มน้ำเสร็จก็จะกลับห้องนอนแล้ว” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัวปฏิเสธ
“ใส่เข้าไป” ซูซีมู่ดึงดันที่จะให้โล่เฟยเอ๋อสวมเสื้อคลุมของเขา จากนั้นก็พูดว่า : “เดี๋ยวฉันลงไปรินน้ำให้เธอ”
“โล่เฟยเอ๋อดึงมือของซูซีมู่ “ฉันไปเอง นายทำงานเถอะ เสร็จแล้วจะได้รีบนอน”
“เธอนั่งลงก่อน เดี๋ยวฉันมา” ซูซีมู่ลากโล่เฟยเอ๋อให้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน จากนั้นก็รีบออกไปจากห้องหนังสือ
โล่เฟยเอ๋อนั่งพิงลงบนเก้าอี้สักพัก สายตาก็เหลือบเห็นเอกสารสองกองที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน
กองที่อยู่ด้านขวานั้นค่อนข้างมาก น่าจะประมาณยี่สิบสามสิบฉบับ กองด้านซ้ายมีน้อยหน่อย แต่ก็มีสิบกว่าฉบับ ตามที่เธอเห็นจากความเคยชินของซูซีมู่ ด้านขวาคงเป็นเอกสารที่อนุมัติแล้ว แสดงว่าเขายังมีเอกสารอีกสิบกว่าฉบับที่ยังไม่ได้อนุมัติ
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังเอกสารสิบกว่าฉบับพวกนั้นที่ซูซีมู่ยังไม่ได้อนุมัติ ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่